หลังเปิดตัวในไทยมา 2 ปี Spotify ยังคงบุกตลาดอย่างต่อเนื่อง ดึงศิลปินระดับโลกขึ้นเวทีคอนเสิร์ต ด้านการเติบโตระดับโลกสร้างฐานผู้ฟังมากกว่า 232 ล้านราย
Gautam Talwar กรรมการผู้จัดการ Spotify ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมกับ Chee Meng Tan ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารความสัมพันธ์ค่ายเพลงและศิลปิน Spotify ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แถลงข่าวการ จัดคอนเสิร์ต Spotify On Stage BKK 2019 รวม 3 ศิลปินต่างแนวเพลง 3 สัญชาติ ได้แก่ F.HERO แรปเปอร์ชาวไทย, Stray Kids วงเค-ป็อปจากเกาหลีใต้ และ One Republic วงร็อคระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา โดยเวทีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 ในไทย
โดยปีนี้ Spotify เชิญศิลปินบอยแบนด์จากเกาหลีอย่าง Stray Kids มาร่วมเวทีคอนเสิร์ต สะท้อนแนวทางการตลาดของ Spotify ที่ต้องการรุกวงการเค-ป็อปในไทยให้มากขึ้น ทั้งนี้ รอบปีที่ผ่านมา แอพฯ นี้มีการเสริมฟีเจอร์ใหม่ K-Pop Rising เป็น playlist เพลงเค-ป็อปใหม่ๆ ที่กำลังมาแรง
Talwar ยังคงย้ำถึงจุดแข็งของ Spotify ซึ่งแม้ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มด้านดนตรีแต่มีโครงสร้างบริษัทบนฐานของเทคโนโลยี โดยระบบอัลกอริธึมของบริษัทจะเรียนรู้พฤติกรรมการฟังเพลงรายบุคคล และเสนอเพลงใหม่ๆ หรือจัด playlist การฟังเพลงให้แบบเฉพาะบุคคล
เขายังกล่าวถึงการสร้างเสริมฐานผู้ฟังในระดับโลกของ Spotify โดยบริษัทมีการจับมือกับโซเชียลมีเดีย เช่น สามารถแชร์เพลงบน Spotify ลงในโพสต์ของ Snapchat ได้โดยตรง หรือการจับมือกับ Samsung เพื่อให้ Spotify เป็นค่าเริ่มต้นของแอพพลิเคชันฟังเพลงติดเครื่องจากโรงงานสำหรับรุ่น Note 9, S10, S10+, S10e, S10 5G, Galaxy Fold และบางรุ่นของตระกูล Galaxy A
ในแง่ราคาสมาชิก Spotify ยังคงแพ็กเกจ ‘ฟรีเมียม’ โดยผู้ฟังที่สมัครสมาชิกพรีเมียมยังคงราคาเดิม คือ 129 บาท/เดือน และ 199 บาท/เดือนสำหรับแพ็กเกจครอบครัว ส่วนผู้ใช้ฟังฟรียังเป็นระบบมีโฆษณาคั่น ไม่สามารถเลือกเพลงอย่างเฉพาะเจาะจงได้ และกดข้ามเพลงได้จำกัด
Forbes Thailand รายงานว่า ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา Spotify มีการปรับเปลี่ยนแพ็กเกจทดลองใช้ระบบพรีเมียม จากเดิมให้ทดลองใช้ได้เพียง 1 เดือน ปัจจุบันเปิดแคมเปญทดลองใช้ฟรี 3 เดือน โดยเป็นแคมเปญระดับโลกเพื่อทำการตลาดสู้กับ Apple Music ที่เปิดทดลองใช้ฟรี 3 เดือนอยู่ก่อนแล้ว
Spotify ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลตัวเลขในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม หากอ้างอิงจากการสำรวจของ JOOX แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเพลงซึ่งสำรวจเมื่อปี 2018 พบว่าผู้บริโภค 75% เลือกฟังสตรีมมิ่งเพลงบน JOOX รองมา 25% ฟังเพลงบน Spotify และ 11% ฟังเพลงบน Apple Music โดย JOOX ประกาศจำนวนผู้ใช้ active user ณ สิ้นปี 2018 ที่ 10 ล้านคน
ด้าน IFPI รายงานว่า รายได้ของวงการดนตรีนั้นพลิกมาทำรายได้หลักผ่านแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2018 โดยมีสัดส่วนรายได้จากการสตรีมมิ่ง 54% มากกว่าการขายซีดี
ส่วนการฟังผ่านสตรีมมิ่งในไทย นีลเส็นรายงานในปี 2016 ว่าคนไทยเปลี่ยนมาฟังเพลงผ่านการสตรีมมิ่งบนแอพพลิเคชันต่างๆ เป็นช่องทางหลัก คิดเป็นสัดส่วนถึง 88%
ณัฐวุฒิ ศรีหมอก หรือ กอล์ฟ F.HERO ยังเปิดเผยในงานแถลงข่าวด้วยว่า แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเป็นผู้ยกระดับให้วงการเพลงและศิลปินไทย เพราะช่วยแก้ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ได้ และการฟังเพลงทุกครั้งของผู้บริโภคจะกลายเป็นรายได้ของศิลปิน
กลางปี 2019 Spotify ดึงผู้ใช้งานเพิ่มได้ 29%
สำหรับผลการดำเนินงานของ Spotify ทั่วโลก หลังจากเปิดตัวเมื่อปี 2008 ปัจจุบัน Spotify เปิดบริการใน 79 ประเทศ ล่าสุดบุกอินเดียไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และมียอดผู้ใช้รวมทั่วโลก 232 ล้านคน ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2019 เติบโตขึ้น 29% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในจำนวนนี้เป็นผู้ใช้ระบบพรีเมียม 108 ล้านบัญชี เติบโต 31% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน
ในแง่ผลการดำเนินงานรอบครึ่งปีแรกของ Spotify ทำรายได้รวม 3,178 ล้านยูโร ขาดทุนสุทธิ 50 ล้านยูโร และบริษัทคาดการณ์เป้าหมายรายได้ตลอดปี 2019 อยู่ระหว่าง 6,488 - 6,888 ล้านยูโร และคาดว่าจะขาดทุนสุทธิระหว่าง 79-259 ล้านยูโร เทียบกับปี 2018 บริษัทมีรายได้ 5,259 ล้านยูโร และขาดทุนสุทธิ 43 ล้านยูโร
จะเห็นได้ว่าบริษัทคาดการณ์รายได้เติบโตขึ้น ขณะเดียวกันคาดการณ์ว่าผลขาดทุนจะสูงขึ้นด้วย เนื่องจากการเติบโตของจำนวนผู้ใช้ แต่การเซ็นสัญญาจัดสรรสัดส่วนรายได้กับค่ายเพลงใหญ่ 2 จาก 4 ค่ายกำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อกำไร-ขาดทุนของ Spotify ในปีนี้
ทั้งนี้ ในรายงานผลประกอบการของ Spotify ยังสะท้อนให้เห็นด้วยว่า แม้ผู้ใช้พรีเมียมจะคิดเป็นสัดส่วน 46.55% ของผู้ใช้ทั้งหมด แต่รายได้ของผู้ใช้กลุ่มนี้มากกว่ารายได้ค่าโฆษณาในระบบผู้ใช้ฟรีถึง 9 เท่า ในรายงานคาดการณ์ของบริษัทจึงหวังว่าภายในสิ้นปีนี้บริษัทจะมีผู้ใช้รวมอย่างน้อย 250 ล้านคน และเป็นผู้ใช้พรีเมียมอย่างน้อย 120 ล้านคนหรือคิดเป็นสัดส่วน 48%
Forbes Facts
- ผู้ใช้ส่วนใหญ่ของ Spotify อยู่ในทวีปยุโรป (36%) อเมริกาเหนือ (28%) ละตินอเมริกา (21%) และอื่นๆ คือ เอเชียแปซิฟิกและตะวันออกกลาง (15%)
- แม้จะเป็นคู่แข่งกันในหลายตลาด แต่ Spotify และ Tencent Music Entertainment หรือ TME (บริษัทแม่ของ JOOX) มีข้อตกลงแลกหุ้นกันในปี 2017
