ตั้งธงรุกธุรกิจปรับทิศรับความเปลี่ยนแปลง - Forbes Thailand

ตั้งธงรุกธุรกิจปรับทิศรับความเปลี่ยนแปลง

FORBES THAILAND / ADMIN
16 Aug 2021 | 07:22 AM
READ 2815

การปรับตัวเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของหลากหลายวงการธุรกิจท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้ผู้ประกอบการในทุกอุตสาหกรรมต้องปรับกระบวนทัพ เสริมทุกกลยุทธ์เพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้

โดยเฉพาะด้านความคิดสร้างสรรค์และแนวคิดของผู้บริหารที่ต้องงัดออกมาต่อสู้กันบนสังเวียนของความเปลี่ยนแปลง เช่นเดียวกับธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ที่ต้องมีการปรับแนวทางการดำเนินงานให้สอดคล้องกับการแข่งขันอันร้อนแรง พร้อมสร้างการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง  
  • เข้าใจคีย์สำคัญทุกธุรกิจ
ภายใต้ความเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจและสถานการณ์การแข่งขันที่เปลี่ยนแปลงไป บริษัทควรมีความเข้าใจในภาพรวม หรือคาดการณ์แนวโน้มในอนาคตได้ เพื่อการวางกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับลูกค้าของบริษัท โดยยกตัวอย่างจากสถานการณ์ด้านสินเชื่อ อ้างอิงข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทยแสดงให้เห็นว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้อัตราการเติบโตของสินเชื่อส่วนบุคคลเริ่มทยอยฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไปและสินเชื่อเช่าซื้ออยู่ในระดับคงที่จากสถานการณ์ฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ส่งต่อจากปี 2563 ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับผู้กู้หรือครัวเรือนที่สามารถได้รับอนุมัติสินเชื่อในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 น่าจะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อปานกลางค่อนไปทางสูง ซึ่งรายได้ไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 มากนัก โดยอาจคาดการณ์ได้ว่ากลุ่มผู้กู้หรือครัวเรือนเหล่านี้น่าจะเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีคุณภาพและไม่สร้างหนี้เสีย ดังนั้น บริษัทจึงสามารถวางกลยุทธ์การรุกเข้าสู่สินเชื่อรายย่อยแบบครบวงจรและสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ได้จากโอกาสกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัดที่มีความต้องการสินเชื่อในระดับสูง พร้อมกับกำหนดอัตราดอกเบี้ยการปล่อยสินเชื่อให้อยู่ในระดับที่แข่งขันได้ รวมถึงการพัฒนาจุดแข็งของบริษัท เพื่อสร้างความแตกต่างและความน่าสนใจดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ส่วนสำคัญของความสำเร็จทางธุรกิจยังต้องมีความ “เข้าใจ” ลูกค้า โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่วัดกันในด้านการบริการที่ตอบโจทย์และตรงใจ ซึ่งในธุรกิจสินเชื่อต้องเน้นที่ความรวดเร็วในการให้บริการ การดำเนินการเรื่องเอกสาร และการอนุมัติ โดยบริษัทควรให้ความสำคัญกับการอบรมและพัฒนาเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกลูกค้าให้ได้มากที่สุด และเพิ่มเติมช่องทางการจัดจำหน่ายและพันธมิตรคู่ค้าให้ครอบคลุมพื้นที่เป้าหมาย เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่ที่มีปัญหาเรื่องการเงินมักจะมี pain point เรื่องความสะดวกรวดเร็ว ซึ่งต้องการการแก้ไขปัญหาให้ลุล่วงทันที หรือบางครั้งเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินดังนั้นธุรกิจสินเชื่อจึงควรช่วยกันสร้าง gain point ให้กับลูกค้าด้วยผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์สนับสนุนเงินกู้ในระบบ ช่วยเหลือให้ลูกค้าเข้าถึงแหล่งเงินทุน และได้รับดอกเบี้ยที่เป็นธรรม โดยท้ายสุดลูกค้าจะนึกถึงผู้ให้บริการสินเชื่อที่เข้าใจความต้องการได้มากที่สุด ซึ่งนั่นจะเป็นกุญแจที่ทำให้ธุรกิจเดินไปสู่เป้าหมายความสำเร็จได้  
  • จับตาเทรนด์ขับเคลื่อนอนาคต
ในการสร้างการเจริญเติบโตทางธุรกิจนอกเหนือจากความเข้าใจในภาพรวมสำหรับการวางแผนปรับกระบวนทัพและกลยุทธ์ได้อย่างเหมาะสม การเดินหน้ารุกตลาดอย่างเต็มที่ยังต้องให้ความสนใจกับปัจจัยหนุน หรือกระแสความเปลี่ยนแปลงที่เป็นทั้งโอกาสและความท้าทายทางธุรกิจ เช่น เทรนด์การเติบโตของธุรกิจ delivery และการพัฒนาเทคโนโลยีให้สอดคล้องกับยุคดิจิทัล สำหรับในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาหลายธุรกิจต้องปรับตัวและเปลี่ยนแปลงท่ามกลางข้อจำกัดของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้พ่อค้าแม่ค้าที่เคยค้าขายกับลูกค้าโดยตรงต้องปรับกลยุทธ์เป็นการรับออร์เดอร์ผ่านออนไลน์ และใช้บริการเดลิเวอรี่เข้ามาช่วยเกือบ 100% รวมถึงมีผู้เข้ามาประกอบอาชีพไรเดอร์ หรือผู้ให้บริการส่งอาหาร-พัสดุเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ทั้งทำเป็นรายได้เสริมและรายได้หลักเพื่อพยุงรายได้และความเป็นอยู่ของครอบครัว ทำให้ตลาดเติบโตสวนกระแส จากข้อมูลศูนย์วิจัยกสิกรไทยพบว่าการจัดส่งอาหารไปยังที่พักด้วยรถจักรยานยนต์ หรือ food delivery เติบโตถึง 78-84% ในปี 2563 และยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2564 สะท้อนถึงการเติบโตอย่างชัดเจนในกลุ่ม delivery และนอกจากนั้นกลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ยังมีความต้องการกลับมาเพิ่มขึ้นในตลาดต่างจังหวัด ทำให้บริษัทเล็งเห็นโอกาสผลักดันสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ช่วยให้ทุกอาชีพสามารถปรับตัวเพื่อให้ธุรกิจรอดพ้นวิกฤตโควิด-19 ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ยังช่วยเร่งให้เทคโนโลยีมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น โดยการพัฒนาช่องทางระบบดิจิทัลให้เกิดขึ้นอย่างเต็มรูปแบบเพื่อความสะดวก รวดเร็ว และช่วยเว้นระยะห่างระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้ใช้บริการ นับเป็นการให้บริการในยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัว และลดการสัมผัสระหว่างกัน ในทางกลับกันการพัฒนาช่องทางระบบดิจิทัลยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานและระบบ รวมถึงลูกค้าเองที่ต้องทำความเข้าใจขั้นตอนดำเนินการต่างๆ และเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเข้ารับบริการ โดยบริษัทยังสามารถพัฒนาเทคโนโลยีการบริหารจัดการให้มีความสะดวก รวดเร็ว ในทุกหน่วยงานของบริษัท ตั้งแต่งานส่วนหน้าที่ให้บริการลูกค้าจนถึงระบบปฏิบัติการส่วนหลังบ้านของบริษัท พร้อมยกระดับบุคลากรด้วยการเพิ่มทักษะปฏิบัติงานในทุกด้านรองรับการเติบโตควบคู่กัน นอกจากนั้น บริษัทยังสามารถผนวกรวมความสามารถระหว่างเทคโนโลยี บิ๊กดาต้า และแอปพลิเคชันเข้าไว้ด้วยกันในการประมวลผลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และตอบโจทย์ผู้ใช้บริการได้ทุกมิติ ภายใต้การวางเป้าหมายที่มากขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้เกิดความมุ่งมั่นเดินหน้าสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างเต็มกำลังความสามารถ   วิชิต พยุหนาวีชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล จำกัด (SCAP) หนึ่งในบริษัทภายใต้การลงทุนของ บมจ. ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD)   อ่านเพิ่มเติม:
คลิกอ่านฉบับเต็ม และบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนกรกฎาคม 2564 ในรูปแบบ e-magazine