ตลาดหุ้นทำให้บรรดานักลงทุนยิ้มได้ในปีที่ผ่านมา หากแต่ไม่มีใครที่จะยิ้มได้กว้างมากไปกว่าผู้ถือครอง เงินคริปโต มูลค่ารวมของเงินดิจิทัลทั้งหมดมากกว่า 1 ล้านล้านเหรียญเพิ่มขึ้น 4 เท่าจาก 2.5 แสนล้านเหรียญในเดือนมกราคม 2020
จากการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของมูลค่าของเงินดิจิทัล Forbes เริ่มคิดคำนวณมูลค่าทรัพย์สินของนักลงทุนและผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับเงินคริปโตที่ร่ำรวยที่สุด โดยคำนวณจากมูลค่าของเงินดิจิทัลที่มีอยู่ในความครอบครอง รวมถึงกรรมสิทธิ์ในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ เงินคริปโต และทรัพย์สินในรูปแบบดั้งเดิมผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ ทำเนียบเศรษฐีพันล้านจาก เงินคริปโต จำนวน 11 ราย Brian Armstrong มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 6.5 พันล้านเหรียญ แหล่งที่มา: Coinbase Coinbase เป็นศูนย์กลางการซื้อขายเงินคริปโตที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยประมวลผลการซื้อขายมูลค่าราว 3 พันล้านเหรียญในทุกๆ วัน Armstrong วัย 38 ปี ร่วมก่อตั้งแพลตฟอร์มดังกล่าวขึ้นในปี 2012 หลังจากที่ร่วมงานกับ Deloitte และ Airbnb มาระยะหนึ่ง ปัจจุบัน Coinbase เป็นธุรกิจเงินดิจิทัลที่มีมูลค่ามากที่สุดในอเมริกา Armstrong ถือกรรมสิทธิ์ราวร้อยละ 20 ของ Coinbase ซึ่งได้ยื่นขอจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อย่างลับๆ ในเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา เมื่อ Forbes ถามว่า ทำไมเขาจึงตัดสินใจเลือกทำธุรกิจนี้ ผู้ประกอบการ ซึ่งไม่ค่อยชอบออกสื่อรายนี้ตอบว่า “ผมต้องการให้โลกใบนี้มีระบบการเงินแบบเปิด ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั่วโลก และช่วยขับเคลื่อนให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ และสร้างอิสรภาพในการซื้อขายและแลกเปลี่ยน” Sam Bankman-Fried มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 4.5 พันล้านเหรียญ แหล่งที่มา: Alameda Research ด้วยวัยเพียง 28 ปี Bankman-Fried บริหารทรัพย์สินมูลค่า 2.5 พันล้านเหรียญผ่าน Alameda Research บริษัทนายหน้าซื้อขายเงินคริปโตเชิงปริมาณที่เขาก่อตั้งขึ้นในปี 2017 บัณฑิตจาก MIT และอดีตนักค้า ETF ในตลาดหุ้น Wall Street รายนี้ยังได้ปั้นแพลตฟอร์มซื้อขายอนุพันธ์คริปโตอย่าง FTX ขึ้นในปี 2019 ทรัพย์สินส่วนใหญ่ของเขาเป็นอนุพันธ์ของ FTX และเงินเหรียญดิจิทัล (FTT) Chris Larsen มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 2.9 พันล้านเหรียญ แหล่งที่มา: Ripple ผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจมาหลากหลายอย่าง Larsen วัย 60 ปีได้ร่วมก่อตั้งบริการสินเชื่อออนไลน์อย่าง Eloan ขึ้นในปี 1997 และบริการสินเชื่อแบบ P2P อย่าง Prosper ในอีก 8 ปีต่อมาการเดิมพันครั้งที่ 3 นี้ให้ผลตอบแทนและสร้างความขัดแย้งมากที่สุด Larsen และ Jed McCaleb ร่วมก่อตั้ง Ripple ขึ้นในปี 2012 เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับธนาคารพาณิชย์ในการชำระเงินข้ามประเทศผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน และเงินเหรียญดิจิทัลอย่าง XRP ในเดือนมกราคม ปี 2018 ฟองสบู่เงินดิจิทัลทำให้ทรัพย์สินของ Larsen มีมูลค่าพุ่งขึ้นเป็นกว่า 1.7 หมื่นล้านเหรียญในช่วงสั้นๆ อย่างไรก็ตาม XRP ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับสกุลเงินอื่นๆ ในตลาดเงินดิจิทัลเมื่อฟองสบู่แตกในเวลาต่อมา ภายในปีเดียวกันนั้นเองในเดือนธันวาคม ปี 2020 Larsen ตกเป็นจำเลยในคดีความ ซึ่งมี Securities and Exchange Commission เป็นโจทก์กล่าวหา Ripple ว่า ได้เสนอขายหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียนอย่าง XRP ให้กับสาธารณชน Ripple ออกแถลงการณ์ความตอนหนึ่งว่า “SEC ผิดพลาดอย่างสิ้นเชิงทั้งในแง่ของข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย” Michael Saylor มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 2 พันล้านเหรียญ แหล่งที่มา: MicroStrategy ซีอีโอของบริษัทซอฟต์แวร์อย่าง MicroStrategy เป็นนักธุรกิจในยุคฟองสบู่อินเทอร์เน็ตซึ่งโด่งดังที่สุดคนหนึ่ง จนมีชื่อติดทำเนียบหนุ่มโสดในฝันของนิตยสาร People หากแต่ข้อมูลในบัญชีที่น่าสงสัยซึ่งนำไปสู่การแก้ไขตัวเลขผลประกอบการของบริษัท และการระเบิดของฟองสบู่ดอทคอมสร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับหุ้นของเขา การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ 2 ครั้งนี้ทำให้ Saylor มีชื่อติดทำเนียบของ Forbes ในเดือนธันวาคม ปี 2020 MicroStrategy ประกาศว่า ได้ใช้เงินสดและเงินกู้อีก 650 ล้านเหรียญเพื่อซื้อบิตคอยน์จำนวน 70,784 บิตคอยน์ ที่ราคา 1.1 พันล้านเหรียญ (ปัจจุบันมีมูลค่าอยู่ที่ 2.5 พันล้านเหรียญ) ซึ่งทำให้ราคาหุ้นของบริษัทปรับเพิ่มขึ้นกว่า 300 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ Saylor กล่าวว่า ส่วนตัวเขาถืออีก 17,732 บิตคอยน์ ซึ่งซื้อมาในราคาราว 175 ล้านเหรียญ (มูลค่าปัจจุบันประมาณ 650 ล้านเหรียญ) Changpeng Zhao (“CZ”) มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 1.9 พันล้านเหรียญ แหล่งที่มา: Binance ในปี 2014 อดีตนักพัฒนาซอฟต์แวร์รายนี้ขายบ้านพักใน Shanghai เพื่อทุ่มลงทุนในบิตคอยน์ Zhao ก่อตั้ง Binance ขึ้นในช่วงฤดูร้อนปี 2017 และภายในเวลาไม่ถึงปี Binance ก็กลายเป็นศูนย์กลางการซื้อขายเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมมากที่สุด หลังจากนั้น Binance ก็ได้แตกไลน์ธุรกิจใหม่อีกหลายอย่างนับตั้งแต่กองทุนเงินร่วมลงทุน ปฏิบัติการขุดบิตคอยน์ รวมถึงบัตรเดบิตที่ทำให้คุณสามารถใช้จ่ายเงินดิจิทัลในยุโรปได้ Zhao ซึ่งเป็นบุตรชายของศาสตราจารย์ที่ถูกเนรเทศจากประเทศจีนเป็นการชั่วคราว เคยเป็นพนักงานในร้านแฮมเบอร์เกอร์ McDonald’s และทำงานกะดึกในปั๊มน้ำมันเพื่อช่วยค่าใช้จ่ายในบ้าน Tyler and Cameron Winklevoss มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: คนละ 1.6 พันล้านเหรียญ แหล่งที่มา: Gemini นักกีฬาเรือพายที่เคยลงแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะผู้ตั้งข้อกล่าวหาเพื่อนร่วมสถาบัน Harvard อย่าง Mark Zuckerberg ว่า ได้ขโมยแนวคิดเกี่ยวกับสังคมออนไลน์ไปจากพวกตน คู่แฝดคู่นี้ใช้เงินส่วนหนึ่งจากจำนวนทั้งหมด 65 ล้านเหรียญที่ได้มาจากการไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางกฎหมายกับซีอีโอของ Facebook ในการกักตุนบิตคอยน์ ทั้งสองถือครองบิตคอยน์ราว 70,000 บิตคอยน์ ไม่รวมกับทรัพย์สินในรูปแบบดิจิทัลอื่นๆ ในปี 2014 ทั้งคู่ร่วมกันก่อตั้งแพลตฟอร์มสำหรับซื้อขายเงินดิจิทัลอย่าง Gemini ขึ้น ปัจจุบัน Gemini ประมวลผลการซื้อขายและแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัลมูลค่าราว 200 ล้านเหรียญต่อวัน Barry Silbert มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 1.5 พันล้านเหรียญ แหล่งที่มา: Greyscale หลังจากที่ขายแพลตฟอร์มซื้อขายหุ้นซึ่งเป็นธุรกิจสตาร์ทอัพอย่าง SecondMarket ให้กับ Nasdaq ไปในปี 2015 แล้ว บัณฑิตจาก Emory University รายนี้ได้ก่อตั้ง Digital Currency Group ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของบริษัท 5 แห่งด้วยกัน ช่องทางทำเงินซึ่งสร้างรายได้ให้บริษัทมากที่สุดคือ Greyscale ซึ่งบริหารจัดการบิตคอยน์ Ether และทรัพย์สินอื่นๆ มูลค่ารวม 2.8 หมื่นล้านเหรียญ Greyscale ซึ่งสร้างความได้เปรียบโดยเป็นผู้ชิงลงมือทำก่อนคู่แข่งรายอื่นๆ เป็นบริษัทแห่งแรกที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายให้เป็นผู้จำหน่ายหลักทรัพย์ที่รองรับบิตคอยน์ให้กับนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนที่เชื่อถือ ทำให้ปัจจุบัน Greyscale มีรายได้ราว 590 ล้านเหรียญต่อปี Jed McCaleb มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 1.4 พันล้านเหรียญ แหล่งที่มา: Stellar ผู้บุกเบิกรายแรกๆ อย่าง McCaleb วัย 46 ปี มีส่วนช่วยก่อตั้งบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเงินคริปโตถึง 3 แห่งด้วยกัน ในปี 2010 เขาปั้น Mt. Gox ซึ่งเป็นศูนย์กลางการซื้อขายและแลกเปลี่ยนบิตคอยน์ที่สำคัญแห่งแรก และขายต่อในอีก 1 ปีต่อมา ในปี 2012 เขาร่วมก่อตั้ง Ripple ขึ้น แต่หลังจากนั้นไม่นานก็ต้องโบกมือลา ซึ่งตามรายงานมีสาเหตุมาจากความไม่ลงรอยระหว่างตัวเขากับผู้ร่วมก่อตั้งรายอื่นๆ และ ปี 2014 เขาร่วมปลุกปั้นคู่แข่งของ Ripple ซึ่งมีมูลค่า (ทรัพย์สิน) 4.8 พันล้านเหรียญอย่าง Stellar โดยมีเป้าหมายคือทำให้การชำระเงินข้ามพรมแดนเป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ความมั่งคั่งของ McCaleb ส่วนใหญ่มาจากเงินดิจิทัล XRP ที่เขาถือครองอยู่ราว 3.4 พันล้าน XRP จากเดิมที่เคยได้รับมาจำนวน 9 พันล้าน XRP ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้ง Ripple ก่อนลงสู้ในสังเวียนเงินดิจิทัล McCaleb เป็นที่รู้จักในฐานะผู้สร้างบริการแบ่งปันไฟล์อย่าง eDonkey2000 ซึ่งยุติข้อพิพาททางกฎหมายกับค่ายเพลงต่างๆ ในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ด้วยเงินจำนวน 30 ล้านเหรียญ Tim Draper มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 1.1 พันล้านเหรียญ แหล่งที่มา: Bitcoin ทายาทของตระกูลนักลงทุนใน Silicon Valley และหุ้นส่วนผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทเงินร่วมลงทุนอย่าง Draper Fisher Jurvetson ได้ลงทุนผ่าน VC ในบริษัทต่างๆ หลายร้อยครั้ง ซึ่งรวมถึง Tesla และ Theranos ด้วย ในปี 2014 Draper ได้ซื้อบิตคอยน์จำนวน 29,656 บิตคอยน์ด้วยสนนราคา 18.7 ล้านเหรียญ (ราคา 632 เหรียญต่อบิตคอยน์) ซึ่งเป็นส่วนที่ U.S. Marshals ยึดจากตลาดมืดของ Silk Road ซึ่งปิดตัวลง บิตคอยน์ดังกล่าวปัจจุบันมีมูลค่า 1.1 พันล้านเหรียญ “ผมทยอยซื้อบิตคอยน์เพิ่มอีกนิดหน่อย แต่ก็ไม่มากพอที่จะเอาชนะคู่แฝด Winklevii ได้” เขาตอบกลับอีเมลจาก Forbes แต่ปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดทรัพย์สินของตนเองโดยกล่าวว่า “ผมไม่อยากโดนตรวจทวารหนัก” Matthew Roszak มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 1 พันล้านเหรียญ แหล่งที่มา: Bloq ผู้เชื่อมั่นในเงินดิจิทัลอย่างเต็มขั้นมาช้านานรายนี้เคยทำงานในกองทุนเงินร่วมลงทุน และเคยเป็นผู้ประกอบการ (ในปี 2006 เขายังเคยยอมความในข้อหาความผิดฐานกระทำการซื้อขายโดยใช้ข้อมูลภายใน) ก่อนจะมาเป็นนักลงทุนเจ้าของพอร์ตเงินดิจิทัลในปี 2012 ปัจจุบัน Roszak ทำงานประจำเป็นผู้ร่วมก่อตั้งและประธานกรรมการของ Bloq ธุรกิจสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีบล็อกเชนใน Chicago ซึ่งทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาในโครงการต่างๆ เช่น การให้ความช่วยเหลือธนาคารพาณิชย์ในการจัดเก็บทรัพย์สินที่อยู่ในรูปแบบดิจิทัลให้ปลอดภัย เมื่อไม่นานมานี้ Roszak เป็นหนึ่งในแกนนำร่วมสนับสนุนแนวความคิดที่จะมอบทรัพย์สินซึ่งอยู่ในรูปแบบดิจิทัลให้กับสมาชิกสภาคองเกรสแต่ละคน มูลค่าคนละ 50 เหรียญ หากแต่ไม่ใช่ทุกคนที่ยินดีรับของแจกฟรีดังกล่าว *มูลค่าเงินดิจิทัลทั้งหมดเป็นมูลค่า ณ วันที่ 19 มกราคม ปี 2021 เวลา 16.00 น. (ET) ตามข้อมูลของ Nessari.io เรื่อง: JEFF KAUFLIN, CHASE PETERSON-WITHORN และ JENNIFER WANG เรียบเรียง: ริศา รายงานโดย Jeff Kauflin, Michael del Castillo, Steven Ehrlich, Nina Bambysheva และ John Hyatt ภาพ: ARMSTRONG AND SAYLOR: JAMEL TOPPIN FOR FORBES; ZHAO: AKIO KON/BLOOMBERG; WINKLEVOSS (2): JONATHAN FICKIES/BLOOMBERG; SILBERT: REUTERS/NEWSCOM ภาพ: DRAPER: FREDERICK M. BROWN/GETTY IMAGES; ROSZAK: JAMLE TOPPIN อ่านเพิ่มเติม: ภาพ background เปิดเรื่อง: Pixabayคลิกอ่านฉบับเต็ม และบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนมิถุนายน 2564 ในรูปแบบ e-magazine