5 มหาเศรษฐีพันล้าน หน้าใหม่ จากอันดับ "มหาเศรษฐีโลก" ประจำปี 2020 - Forbes Thailand

5 มหาเศรษฐีพันล้าน หน้าใหม่ จากอันดับ "มหาเศรษฐีโลก" ประจำปี 2020

FORBES THAILAND / ADMIN
15 Apr 2020 | 06:35 PM
READ 8419

การจัดอันดับ มหาเศรษฐีโลก ประจำปี 2020 ยึดการคำนวณ ณ วันที่ 18 มีนาคม 2020 มีมหาเศรษฐีจำนวน 2,095 ราย มีมูลค่าทรัพย์สินรวมของพวกเขาอยู่ที่ 8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยในปีนี้มีมหาเศรษฐีหน้าใหม่ติดอันดันเป็นจำนวนมากถึง 78 ราย และนี้คือ 5 มหาเศรษฐีพันล้าน ที่น่าสนใจจากทั่วมุมโลก

  Kim Jung-Woong เกาหลีใต้ มูลค่าทรัพย์สิน: 1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ Kim Jung-Woong ก่อตั้ง JM Solutions เมื่อปี 2017 มาส์กบำรุงผิวหน้าของเขาเป็นที่นิยมในจีนแผ่นดินใหญ่เป็นอย่างมาก บริษัทสั่งผลิตมาส์กบำรุงผิวหน้ามากกว่าหลักล้านชิ้นในช่วงที่ผ่านมา แม้จีนประกาศสั่งห้ามสนับสนุนสินค้าจากประเทศเกาหลีใต้แต่ความนิยมของประชาชนชาวจีนก็ไม่เสื่อมคลาย คลิกอ่านเพิ่มเติม: GP Club รุกสู้การต่อต้านด้วย มาสก์ดูแลผิวพรรณ   Anthony Von Mandel แคนาดา มูลค่าทรัพย์สิน: 3.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ Von Mandel ผู้สร้าง White Claw เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ชื่อดัง โดยในปี 2019 เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมแอลกอฮอลล์ของเขาเป็นที่นิยมถึงขั้นขาดตลาด ทำให้ในปีที่ผ่านมาผลประกอบการ 834 ร้อยล้านเหรียญ และสุดได้เขาดึงแบรนด์ Mark Anthony เข้ามาบริหารและช่วยให้เต็มเติมพอร์ทธุรกิจของเขา ทั้งนี้ มหาเศรษฐีพันล้านชาวแคนาดายังเป็นเจ้าของเครื่องดื่มอื่นๆ อย่าง Mike’s Hard Lemonade และ Cayman Jack   Byju Raveendran อินเดีย มูลค่าทรัพย์สิน: 1.8 พันล้านเหรียญ ผู้ก่อตั้ง Byju’s ธุรกิจการศึกษาผ่านออนไลน์ Byju’s ของเขาได้รับเงินระดมมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในกลุ่ม เทค-สตาร์ทอัพด้านการศึกษา ล่าสุดจากการสถานการณ์โควิด-19 เขาประกาศให้ผู้ใช้แอปฯ ได้ฟรีตลอดเดือนเมษายน 2020 MacKenzie Bezos อเมริกัน มูลค่าทรัพย์สิน: 3.6 หมื่นล้านเหรียญฯ หลังจากหย่ากับ Jeff Bezos อดีตสามีและมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลก 3 ปี ซ้อน MacKenzie ได้รับหุ้นจำนวน 4% ใน Amazon ที่มูลค่า 3.6 หมื่นล้านเหรียญฯ ซึ่งหลังจากประกาศหย่าเดือนพฤษภาคม เธอลงนามบริจาคทรัพย์สินของเธอให้กับกลุ่ม The Giving Pledge หลังจากเธอเสียชีวิต Eric Yuan อเมริกัน-จีน มูลค่าทรัพย์สิน: 5.5 พันล้านเหรียญฯ ซีอีโอแห่ง Zoom Communications ที่ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สื่อสารกันแบบสบายๆ ล่าสุดเขาประกาศให้ให้ Zoom แอปฯ แบบฟรีๆ กับกลุ่ม K-12 ตั้งแต่ระดับชั้นโรงเรียนประถมศึกษาตอนต้นจนถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ในประเทศจีน ญี่ปุ่น อิตาลี และอเมริกา ทั้งนี้ตั้งแต่มกราคมที่ผ่านมามูลค่าของ Zoom สูงขึ้นเป็นเท่าตัว
ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine