ดื่มอย่างมีระดับ แบบฉบับ Yao Ming - Forbes Thailand

ดื่มอย่างมีระดับ แบบฉบับ Yao Ming

FORBES THAILAND / ADMIN
13 May 2017 | 11:17 AM
READ 11123

Yao Ming ทำสกอร์ได้ 96 แต้ม แต่ไม่ใช่ในสนามบาสเกตบอลหรอกนะ

2016 นับเป็นปีที่ดีสำหรับ Yao Ming เขาคือตำนานนักบาสเกตบอลที่วางมือไปแล้ว หลังจากที่เส้นทางอาชีพนักกีฬาต้องยุติลงก่อนถึงเวลาอันควรเนื่องจากอาการบาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม ชื่อของอดีตเซ็นเตอร์ทีม Houston Rockets วัย 36 ปีซึ่งติดทีม All-Star มา 8 ครั้ง ก็ได้รับการนำเข้าสู่หอเกียรติยศ NBA Hall of Fame ไปเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว

  Yao Family Wines ซึ่งเป็นโรงงานผลิตไวน์ใน California ของหนุ่มที่มีพื้นเพมาจาก Shanghai ผู้นี้สามารถจารึกชื่อของตนเองไว้ใน Napa Valley ได้อย่างมั่นคงโดยมีการเปิดศูนย์ต้อนรับผู้มาเยือนสุดชิคใน St. Helena เมืองที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยไวน์ กิจการของเขาระดมทุนส่วนหนึ่งผ่านทาง CrowdFunder มาได้ 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เขาเปิดห้องชิมไวน์ให้ผู้มาเยือนได้ยลสูตรผสม Cabernet Sauvignon ซึ่งมีกระบวนการผลิตเล็กๆ แต่ราคาแพงระยับ และกลายเป็นที่นิยมชมชอบของบรรดาสื่อมวลชนไปเรียบร้อยแล้ว  
Yao Ming ในห้องเก็บไวน์ของ Yao Family Wines ใน Napa Valley (Photo Credit: Yao Family Wines)
  Robert Parke ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ต่างประเทศจากวารสาร The Wine Advocate เคยเขียนเอาไว้ว่า “ผมทราบดีครับว่า มีข้อถกเถียงว่าคนดังคนใหญ่คนโตมักจะเสนอชื่อตนเองเป็นชื่อไวน์ จนทำให้มันกลายเป็นของบ้านๆ ไป แต่Cabernets สองสูตรนี้ชั้นเลิศจริงๆ ครับ ขวดบรรจุที่ระบุเกรด Reserve นั้นระดับรสชาติเทียบเท่ากับไวน์จาก Napa เลย” ทั้งนี้ Parker จัดอันดับไวน์ 2012 Reserve ด้วยคะแนนระดับออลสตาร์ 96 คะแนน บ่ายวันหนึ่งในฤดูใบไม้ร่วงกลางฤดูเก็บเกี่ยว Yao บอกว่า เขายังคงจับตาสถานการณ์อย่างระมัดระวัง “เรายังมือใหม่กันอยู่เลยครับ ยังมีอะไรต้องเรียนรู้อีกเยอะ” Yao หมายถึงกิจการของตนซึ่งเริ่มผลิตไวน์เป็นครั้งแรกในปี 2009 อย่างไรก็ตาม Yao กับคณะทำงานคงถ่อมตัวไม่ได้มากเท่าไรนัก ก็เพราะไวน์ 2012 Yao Ming Reserve Cabernet Sauvignon สูตรปัจจุบันจำหน่ายอยู่ในราคาขวดละ 225 เหรียญ (Sherry-Lehmann จาก New York City เคยเสนอราคา 645 เหรียญสำหรับไวน์ 2010 Reserve) ขณะที่ไวน์ 2013 Cabernet Sauvignon ซึ่งไม่ได้มีการรับรอง Reserve นั้นจำหน่ายได้ในราคา 100 เหรียญ  
(จากซ้ายไปขวา) Yao Ming Reserve Cabernet Sauvignon, Yao Ming Cabernet Sauvignon, Napa Crest และ Gold Peak (Photo Credit: Yao Family Wines)
  Yao ยังมีไวน์สูตรที่ราคาย่อมเยาลงมา นั่นคือ Napa Crest ขณะที่บรรดาไวน์ตัวขึ้นชื่อที่กล่าวมาก่อนหน้านี้มีราคาระดับเดียวกับไวน์คู่แข่งในระดับโลกเลยทีเดียว (อาทิ ในสหรัฐฯ นั้น เงิน 225 เหรียญสามารถซื้อ 2012 Sassicaia จาก Tuscany ได้สักขวดสบายๆ พ่วงด้วย 2012 Château Ducru-Beaucaillou จาก Bordeaux อีกสัก 2 ขวดก็ยังได้) นอกจากความทะเยอทะยานแล้ว นับว่า Yao โชคดีไม่น้อยที่ตัดสินใจว่าจ้าง Tom Hinde มือเก๋าจาก California เข้าดำรงตำแหน่งประธานและคนทำไวน์ ก่อนหน้านี้ Hinde เคยผลิตไวน์ให้กับ Flowers ผู้ผลิตไวน์คุณภาพสูงใน Sonoma County ตลอดจนโครงการเหนือระดับมากมายของ Jackson Family Wines ขณะที่ตัว Yao เองรู้ชัดเจนว่า เขาอยากจะผลิตไวน์แบบไหน นั่นคือ ไวน์แดงชั้นดีที่มีความเข้มข้นทว่าสมดุล ซึ่งสามารถดื่มคู่กับสเต๊กได้อย่างมีรสชาติ “ประวัติการดื่มของผมเริ่มต้น ณ จุดนั้นแหละครับ” Yao อธิบาย “เดี๋ยวนะ ‘ประวัติการดื่มของผม’ นี่ฟังดูไม่ค่อยดีเนอะ” เขากล่าวเสริมพร้อมหัวเราะ  
Tom Hinde ประธานและคนทำไวน์ (Photo Credit: Yao Family Wines)
  ส่วน Hinde ก็ช่างรู้จักแหล่งองุ่นสำหรับผลิตไวน์แบบนั้นเสียจริงๆ โดยอาศัยส่วนผสมจากที่นี่นิด ที่นั่นหน่อย Hinde จะซื้อองุ่นจากไร่องุ่น 6 แห่งที่มีลักษณะต่างๆ กัน กระจายตัวตั้งแต่พื้นที่ทางตอนใต้ซึ่งได้รับอิทธิพลอากาศเย็นจาก San Francisco Bay ไปจนถึงเนินภูเขาไฟ และพื้นที่อันอบอุ่นทางตอนเหนือของหุบเขา เขาผลิตไวน์ตัวดังด้วยวิธีการแบบ “กล่องเครื่องเทศ” Hinde บอกว่า ในที่สุดพวกเขาก็ได้ Napa Valley Cabernets สูตรคลาสสิก ขณะเดียวกัน Yao จะบินมาจาก Shanghai เมื่อต้องตัดสินใจครั้งสำคัญๆ และยังมีบทบาทเป็นผู้กำหนดสไตล์ให้กับไวน์อีกด้วย แฟนๆ บาสเกตบอลอาจจะคุ้นตากับผู้เล่นเจ้าของส่วนสูง 7 ฟุต 6 นิ้วโชว์ลีลายัดห่วง แต่ยามอยู่นอกสนามนั้น เขาคือบุรุษผู้หลงใหลความละเอียดอ่อนดีๆ นี่เอง “ไวน์เหล่านี้ได้รับความนิยมด้วยเพราะกรรมวิธีของเขาครับ จากความกลมกล่อม ที่ไม่มีการใช้โอ๊คมากเกินไป หรือเจตนาให้มีแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก หรือสกัดผลไม้ออกมาเข้มข้นเกินไป มันคือความล้ำเลิศที่หาไม่ได้ในไวน์อื่นๆ”  
ลายเซ็นสุดพิเศษ: ไวน์ 2013 Family Reserve มาพร้อมกับลายเซ็นของ Yao บนฉลาก
  ทีมงาน Yao Family หวังว่า สไตล์ดังกล่าวจะยังคงเป็นที่ชื่นชอบกันทั่วไปในประเทศจีนและเอเชีย ที่นั่น บริษัทของเขาสามารถขายไวน์ได้ราว 30% จากยอดการผลิตทั้งหมด นับว่าประสบความสำเร็จไม่น้อยเลย เนื่องจากตลาดไวน์ระดับพรีเมียมในประเทศจีนซบเซาลงตามภาวะเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังมีภาษีศุลกากร ภาษีมูลค่าเพิ่ม และค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมต่างๆ ในการค้าไวน์ทั้งปลีกและส่งในประเทศจีน โดยคิดเป็น 2 เท่าของราคาขายปลีกในสหรัฐฯ เลยทีเดียว เท่ากับว่า ไวน์ Napa Crest Red ซึ่งเป็นไวน์ระดับล่างของ Yao Family ที่จำหน่ายในห้องชิมไวน์ที่ St. Helena ในราคา 48 เหรียญนั้นจะมีราคาพุ่งเป็น 80 เหรียญในประเทศจีน ขณะที่ Yao Ming Napa Cabernet จะมีราคาอยู่ที่ 250 เหรียญ และ Reserve อยู่ที่ 450 เหรียญนับเป็นสินค้าหรูสำหรับชนชั้นสูงแท้ๆ    
The Quartz Tasting Bar ห้องชิมไวน์ใน Napa Valley ของ Yao Family Wines
  อย่างไรก็ตาม Hinde เชื่อว่า Yao Family ยังคงจำหน่ายไวน์คุณภาพดีในประเทศจีนได้มากกว่าผู้ผลิตไวน์เจ้าใดจาก Napa แม้ว่าบริษัทจะต้องเผชิญสถานการณ์เหมือนกับที่บริษัทผลิตไวน์สัญชาติอเมริกันเจอเหมือนกันหมด คือ แบรนด์ฝรั่งเศสเป็นผู้ครองตลาดมายาวนาน   “ในจีน ชื่อของ Bordeaux ดังกว่า Napa Valley แน่นอนอยู่แล้วครับ แต่เรากำลังไล่ขึ้นมา” Yao Ming กล่าว ถ้าหากเป็นอย่างที่ว่าจริง ตัว Yao นั่นเองที่จะเป็นกำลังสำคัญ ยังไงก็แล้วแต่ เขาก็คือบุคคลที่มีชื่อเสียงในประเทศจีน เป็นผู้ถือคบเพลิงโอลิมปิคปี 2008 มุ่งหน้าเข้าสู่จัตุรัสเทียนอันเหมิน ขณะที่ Hinde บอกว่า “เขาคือคนสำคัญที่เปิดโอกาสให้เราได้ประชาสัมพันธ์และดึงดูดให้ผู้คนมาชิมไวน์ได้”   เช่นเดียวกับห้องชิมไวน์ที่ Napa Valley ซึ่งในเวลานี้ต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีนคิดเป็นจำนวน 1 ใน 3 ของผู้มาเยือนทั้งหมดและยังมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ “ในห้องชิมไวน์นั้นผมเจอคนจากชาติเดียวกันเยอะมากเลยครับ” Yao กล่าวอย่างภาคภูมิใจ ตัวเลขดังกล่าวยังมีแนวโน้มว่าจะทะยานขึ้นอีกมหาศาล ข่าวดีสำหรับ Yao Ming คือ ปี 2016 นี่ยังแค่เริ่มต้นเท่านั้น  
  คลิกอ่านฉบับเต็ม "ดื่มอย่างมีระดับ" ได้ที่ Forbes Thailand Magazine ฉบับ มีนาคม 2560