“ฮั่วเซ่งเฮง” เผย 3 ปัจจัยหนุนทองคำขาขึ้น เปิดสาขาเจาะคนรุ่นใหม่ - Forbes Thailand

“ฮั่วเซ่งเฮง” เผย 3 ปัจจัยหนุนทองคำขาขึ้น เปิดสาขาเจาะคนรุ่นใหม่

ฮั่วเซ่งเฮง เผยแนวโน้มคนรุ่นใหม่ลงทุนทองต่อเนื่อง หลังปีนี้ทองพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 34,250 บาท ระบุปี 2567 มี 3 ปัจจัยหนุนทองคำขาขึ้นต่อเนื่อง หลังเฟดส่งสัญญาณคงดอกเบี้ยนโยบายระดับสูง สงครามอิสราเอล-ฮามาส รวมถึงพฤติกรรมคนรุ่นใหม่หันมาลงทุนทองเพื่อกระจายความเสี่ยง


    ราคาทองคำโลกปรับขึ้นทำจุดสูงสุดอีกครั้งในรอบ 6 เดือน เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 อยู่ที่ 2,009 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งปีนี้ถือเป็นปีทองของตลาดทองคำที่ราคาปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อ ฮั่วเซ่งเฮง ผู้ดำเนินธุรกิจทองคำที่อยู่ในตลาดมากว่า 70 ปี พร้อมปรับโฉมร้านทองเพื่อเจาะคนรุ่นใหม่ โดยเปิดสาขาใจกลางย่านธุรกิจ ที่สีลม คอมเพล็กซ์

    ธนรัชต์ พสวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ฮั่วเซ่งเฮง เปิดเผยว่า ปี 2566 ถือเป็นปีทองของธุรกิจทองคำ โดยราคาในประเทศปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่บาทละ 34,250 บาท และเป็นการปรับขึ้นถึง 3 ครั้งในช่วงที่เกิดสงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาส ทำให้นักลงทุนหันมาลงทุนในทองคำมากขึ้น เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย และเป็นการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนรูปแบบอื่นๆ ที่อาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

    “ช่วงครึ่งปีแรก ตลาดทองคำยังทรงตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน ประกอบกับเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่อง แต่พอเฟดส่งสัญญาณยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย รวมทั้งจากสงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาสที่เกิดขึ้น ทำให้คนหันมาลงทุนทองคำเพิ่มขึ้น และมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง โดยราคาทองคำต่างประเทศปีนี้เพิ่มขึ้น 10% ส่วนในประเทศราคาปรับขึ้น 12% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว” ธนรัชต์ กล่าว


3 ปัจจัยหนุนตลาดทองคำปี 67

    สำหรับแนวโน้มลงทุนทองคำในปี 2567 ธนรัชต์ มองว่า ยังเป็นขาขึ้น จาก 3 ปัจจัยสำคัญ คือ

    1.ธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายระดับสูงต่อเนื่อง และคาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงปลายปี 2567 เป็นต้นไป

    2.ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงมีความขัดแย้งของสงคราม และมีแนวโน้มขยายวงกว้าง

    3.พฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่หันมาลงทุนทองคำมากขึ้น โดยเฉพาะปีนี้ที่ราคาทองได้ปรับขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ รวมทั้งจากเงินบาทที่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้คนหันมาซื้อทองคำด้วยเช่นกัน

    “ปัจจุบัน คนรุ่นใหม่กระจายพอร์ตการลงทุนไปยังสินทรัพย์ต่างๆ ซึ่งทองคำเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เนื่องจากเงินบาทที่อ่อนค่า และราคาทองคำที่ปรับสูงขึ้น

    โดยปกติคนจะลงทุนทองประมาณ 10% ของพอร์ตการลงทุน แต่ปีนี้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะคนรุ่นใหม่หันมาให้ความสำคัญกับการลงทุนทองคำ ซึ่งเป็นสินทรัพย์มั่นคงที่มีมูลค่ามากขึ้นตามกาลเวลา” ธนรัชต์ กล่าว

    อย่างไรก็ตาม การลงทุนทองคำยังเป็นที่ชื่นชอบของคนทุกเจเนอเรชั่น แต่ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ จะตอบโจทย์คนรุ่นใหม่มากขึ้น ทำให้มีสัดส่วนของผู้ลงทุนที่มีอายุ 30 - 40 ปีมากขึ้น ซึ่งฮั่วเซ่งเฮง ได้พัฒนาสินค้าและบริการที่ตอบไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เช่น การลงทุนซื้อ-ขายทองคำผ่านระบบออนไลน์ และแอปพลิเคชั่น เช่น GOLD ONLINE 96.5% และ 99.99% บริการออมทองผ่านแอปพลิเคชั่น GOLD NOW โดยเฉพาะแอปพลิเคชั่น GOLD NOW มีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นวันละ 1,000 คน และให้บริการแบบเรียลไทม์


เปิดสาขาใจกลางเมืองเจาะคนรุ่นใหม่

    ธนรัชต์ กล่าวว่า ในช่วงที่คนรุ่นใหม่หันมาซื้อ-ขายทองคำมากขึ้น โดยเฉพาะปีนี้ ฮั่วเซ่งเฮงจึงเปิดร้านทองฮั่วเซ่งเฮงในศูนย์การค้าสีลม คอมเพล็กซ์ ซึ่งอยู่ใจกลางธุรกิจใจ เพื่อขยายฐานเข้าถึงคนรุ่นใหม่มากขึ้น รวมทั้งอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าสามารถเดินทางได้สะดวก

    เนื่องจากสีลมเป็นจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าทั้งสองสาย ตอบรับไลฟ์สไตล์ของคนเมือง และรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่มาซื้อทอง ซึ่งมีจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน ฮั่วเซ่งเฮง มีทั้งหมด 6 สาขา ได้แก่ สาขาเยาวราช 4 แห่ง สาขาซีคอนฯ ศรีนครินทร์ และสาขาสีลม คอมเพล็กซ์

    สำหรับร้านทองฮั่วเซ่งเฮง สาขาสีลมคอมเพล็กซ์ ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นร้านทองตู้แดงแบบดั้งเดิม แต่ปรับโฉมให้ทันสมัยตอบรับกับคนรุ่นใหม่ ด้วยการเปิดให้บริการพื้นที่ 2 ส่วนหลัก ได้แก่ โซนบริการซื้อ-ขายทองรูปพรรณ ทองคำแท่ง รวมถึงผลิตภัณฑ์ในโอกาสพิเศษต่างๆ

    และโซนสำหรับลูกค้านักลงทุนทองคำ รวมทั้งบริการเปิดบัญชีซื้อ-ขายทองคำแท่ง บริการซื้อ-ขายทองออนไลน์ ผ่าน GOLD ONLINE 96.5% และ 99.99% บริการออมทองผ่านแอปพลิเคชั่น GOLD NOW ให้บริการติดตั้งแอปพลิเคชั่นบนมือถือ การทำธุรกรรมผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันลูกค้ากว่า 80% ใช้บริการผ่านระบบออนไลน์

    “สำหรับปีหน้า ยังมองโอกาสที่จะขยายสาขาเพิ่มขึ้น เพราะขยายฐานลูกค้า รวมถึงรองรับไลฟ์สไตล์การลงทุนของคนรุ่นใหม่ที่หันมาสนใจทองคำมากขึ้น เพราะเป็นสินทรัพย์มั่นคงไม่เสื่อมไปตามกาลเวลา และช่วยกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากความผันผวนที่เกิดขึ้น” ธนรัชต์ กล่าว



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : เกริก ลีเกษม ซีอีโอเจนใหม่สปีด SE ด้วยเทคโนโลยี

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine