CIMBT ตั้งเป้าปี 68 รายได้ธุรกิจเวลธ์โต 20% เล็งขยายฐานเงินฝากออมทรัพย์พร้อมลงทุน - Forbes Thailand

CIMBT ตั้งเป้าปี 68 รายได้ธุรกิจเวลธ์โต 20% เล็งขยายฐานเงินฝากออมทรัพย์พร้อมลงทุน

ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เผยเป้าหมายธุรกิจบริหารความมั่งคั่งปี 2568 คาดว่ารายได้ฯ จะเติบโต 20% ใกล้เคียงกับปีนี้ ส่วน AUM คาดว่าจะเติบโตขึ้น 10% จากปัจุบันที่อยู่ราว 400,000 ล้านบาท โดยจะเน้นขยายฐานเงินฝากออมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมแนะนำการลงทุนให้ลูกค้าท่ามกลางความผันผวนที่สูงขึ้นในปีหน้า รวมถึงเล็งเพิ่มรายได้ธุรกิจประกันฯ ผ่านผลิตภัณฑ์ด้านวางแผนมรดก ซึ่งช่วง 10 เดือนแรก ปี 2567 ยังเติบโตกว่า 35%


    นายติยะชัย ชอง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ Wealth & Preferred Segment ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย (CIMBT) กล่าวว่า ช่วง 10 เดือนแรกปี 2567 ธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (Wealth management) ของธนาคารเติบโตขึ้น 35% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ส่งผลให้รายได้จากกลุ่มลูกค้าทั้งหมดของธนาคารเติบโตขึ้นมากกว่า 20% (กลุ่มลูกค้ารายย่อยที่มีเงินลงทุนต่ำกว่า 1 ล้านบาท ถึง High net worth ที่มีเงินลงทุนมากกว่า 100 ล้านบาทขึ้นไป)

    ทั้งนี้ 10 เดือนแรกปี 2567 ธุรกิจบริหารความมั่งคั่งของธนคาร ขยายตัวจากฐานเงินฝากออมทรัพย์ที่เติบโตขึ้นกว่า 34%YoY มาจากกลยุทธ์การให้อัตราดอกเบี้ยที่น่าสนใจ เช่น CIMB Preferred Savings จ่ายอัตราดอกเบี้ยสูงถึง 2.2% ใน 4 เดือนแรก สำหรับลูกค้าใหม่ที่มีเงินฝากตั้งแต่ 3 ล้านบาทถึง 500 ล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงสุดในตลาด นอกจากนี้ รายได้จากธุรกิจประกันเติบโตขึ้นกว่า 37%YoY ส่วนใหญ่เติบโตจากผลิตภัณฑ์ด้านการวางแผนมรดกของครอบครัว

    ส่วนกลุ่มธุรกิจการลงทุนยังคงเห็นการเติบโตที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่ซื้อตราสารหนี้ผ่านแอพพลิเคชั่นบนมือถือของซีไอเอ็มบีไทย โดยการซื้อขายตราสารหนี้ในตลาดแรกผ่านแอพพลิเคชั่นเติบโตเฉลี่ยตั้งแต่ปี 2563 อยู่ที่ประมาณ 102% ต่อปี ในส่วนของการซื้อขายตราสารหนี้ในตลาดรอง ก็เติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 75% ต่อปี ตั้งแต่ปี 2564

    ส่วนปี 2568 ตั้งเป้าหมายว่ารายได้จากธุรกิจบริหารความมั่งคั่งของธนาคาร จะเติบโตขึ้น 20%YoY ขณะที่สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) คาดว่าจะขยายตัว 10% จากปัจจุบันที่อยู่ที่ 400,000 ล้านบาท โดยยังคงมุ่งขยายฐานเงินฝากออมทรัพย์ให้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะต่อยอดสู่การลงทุนมากขึ้น ภายใต้ AUM ดังกล่าวมีสัดส่วนเงินฝากราว 35% (เงินฝากออมทรัพย์ในสัดส่วน 60% และเงินฝากประจำที่ 40 %)

    “ช่วงที่ผ่านมา เราพยายามปรับสัดส่วนจากเงินฝากประจำมาเป็นเงินฝากออมทรัพย์มากขึ้น ทั้งเพื่อดึงดุดลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ และลูกค้าอาจขยับไปส่วนการลงทุนได้เมื่อต้องการ ซึ่งพบกว่ากลุ่มที่มี AUM 10 ล้านบาทขึ้นไป มีการโยกเงินไปลงทุนมากกว่ากลุ่มอื่น ” ติยะชัย กล่าว

    นอกจากนี้ ธนาคารเตรียมพัฒนานวัตกรรมด้านเงินฝาก โดยจะปรับใช้ AI เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมด้านการเงิน เช่น การให้ Bonus rate แก่ลูกค้า อย่างการให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากพิเศษ เมื่อมีการฝากเงินเพิ่มขึ้นทุกเดือน หรือ ลงทุนต่อเนื่อง เป็นต้น โดยอยู่ระหว่างการพัฒนาและออกแบบคาดว่าจะแล้วเสร็จในปีหน้า

    ด้านธุรกิจประกัน ปี 2568 คาดว่ารายได้ส่วนนี้จะเติบโต 10-15% โดยจะขยายตัวจากผลิตภัณฑ์วางแผนมรดก ผ่านความร่วมมือกับบริษัทพรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) เพื่อตอบโจทย์ผู้สูงอายุ

    ในปี 2568 คาดว่าภาพรวมการลงทุนอาจมีความผันผวนสูงขึ้น จากความท้าทายในหลายด้านทั้งนโยบายการค้า และการเงินที่อาจเปลี่ยนแปลง ธนาคารจึงเน้นออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ลดความเสี่ยง และลดความผันผวนได้ แต่ยังสร้างรายได้ หรือปันผลที่เพิ่มขึ้น ช่วงที่ผ่านมา ธนาคารซีไอเอ็มบีไทยร่วมกับ Principal Asset Management ออกผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะคุ้มครองเงินต้นสำหรับลูกค้าที่ถือกองทุนจนครบกำหนด สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าที่ต้องการลดความเสี่ยงจากการขาดทุน ซึ่งสามารถระดมทุนได้กว่า 1,200 ล้านบาท



ภาพ: CIMBT



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : 'จิตตะ เวลธ์' มองปี 68 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ อาจโตต่อ จับตาปรับเกณฑ์เก็บภาษีลงทุนนอก

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine