นำแก้วมาเองลด 10 บาท เป้าหมายลดขยะใช้ครั้งเดียวทิ้งลง 50% ก้าวสู่ความยั่งยืนของ ‘สตาร์บัคส์’ - Forbes Thailand

นำแก้วมาเองลด 10 บาท เป้าหมายลดขยะใช้ครั้งเดียวทิ้งลง 50% ก้าวสู่ความยั่งยืนของ ‘สตาร์บัคส์’

เดินหน้าสู่ก้าวที่ยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง สำหรับร้านกาแฟชื่อดังระดับโลกอย่าง “สตาร์บัคส์” (Starbucks) ที่ต้องการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ การใช้น้ำ และขยะลง 50% ภายในปี 2573 ล่าสุดสตาร์บัคส์ออกแคมเปญใหม่ LITTLE CHOICES. BIG CHANGES. ดึงลูกค้าให้มีส่วนร่วมลดขยะไปด้วยกัน ด้วยการมอบส่วนลดให้ 10 บาท สำหรับลูกค้าที่นำแก้วมาเอง


    สตาร์บัคส์ เปิดตัวในไทยเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 จนปัจจุบัน ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2567 สตาร์บัคส์มีสาขาอยู่กว่า 490 แห่งแล้ว บนเส้นทางการเติบโตทางธุรกิจ สตาร์บัคส์เองก็ยังให้ความสำคัญต่อเป้าหมายด้านความยั่งยืนด้วย ตามคำมั่นสัญญาของแบรนด์ต่อพาร์ทเนอร์ (พนักงาน) ลูกค้า ชุมชน ชาวไร่กาแฟ และโลก ผ่านกาแฟทุกๆ แก้ว

    หนึ่งในสิ่งที่สตาร์บัคส์รณรงค์คือการลดขยะการใช้ครั้งเดียวทิ้ง โดยสนับสนุนให้ลูกค้านำแก้วส่วนตัวมาเอง ซึ่งตั้งแต่สตาร์บัคส์ให้บริการในประเทศไทย ลูกค้าสตาร์บัคส์มีส่วนร่วมในการลดขยะแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งไปแล้วกว่า 29 ล้านใบจากการใช้แก้วส่วนตัว

    นอกจากนี้ สตาร์บัคส์ได้เปิดตัวโปรแกรม Grounds for Your Garden เพื่อให้ลูกค้าสามารถนำกากกาแฟที่สตาร์บัคส์กลับไปผสมดินเพื่อปลูกต้นไม้หรือทำสวนที่บ้านได้ โดยในปี 2566 สตาร์บัคส์ได้แจกกากกาแฟไปแล้วกว่า 4,000 กิโลกรัมทั่วประเทศ

    ที่น่าสนใจกว่าก็คือ ในการมุ่งมั่นสู่ความยั่งยืน สตาร์บัคส์ได้เปิดตัวโครงการ Greener Store โดยร่วมกับพันธมิตรออกข้อกำหนด 25 ข้อที่จะต้องทำเพื่อให้ผ่านเกณฑ์การเป็นร้านสีเขียวอย่างแท้จริง

    ไม่ว่าจะเป็น การควบคุมด้วยระบบการบริหารจัดการพลังงานที่จัดเก็บข้อมูลแบบเรียลไทม์ เพื่อการคงสถานะการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด รวมไปถึงการระบุการใช้พลังงานที่บกพร่อง เพื่อปรับปรุงการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพดีขึ้นในครั้งต่อไป ไปจนถึงการบริหารงานในร้าน ซึ่งปัจจุบันมีร้านที่สตาร์บัคส์ที่เป็น Greener Store แล้ว 6,091 สาขาทั่วโลก


    ส่วนในประเทศไทย ในปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ร้านกาแฟของสตาร์บัคส์ในประเทศไทยยังได้รับการรับรองเป็น Greener Stores จำนวน 12 สาขา และตั้งเป้าเพิ่มเป็น 20 สาขาในปีนี้ โดยร้านสาขาใหม่ที่สตาร์บัคส์จะเปิด ก็จะผลักดันให้เป็นสาขา Greener Store ให้ได้มากที่สุด

    สตาร์บัคส์ ประเทศไทย ยังได้แต่งตั้ง “จุฑาทิพย์ เก่งมานะ” ให้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการด้านผลกระทบทางสังคมและความยั่งยืน เพื่อขับเคลื่อนสตาร์บัคส์ในการผลักดันเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมด้วยกลยุทธ์ที่ออกแบบสำหรับประเทศไทยโดยเฉพาะ

จุฑาทิพย์ เก่งมานะ


    นอกจากสนับสนุนให้ลูกค้านำแก้วส่วนตัวมาใช้เอง สตาร์บัคส์ ประเทศไทย ยังมุ่งมั่นผลักดันเป้าหมายที่จะลดการใช้พลาสติกในการดำเนินงานประจำวันภายในร้าน เช่น การเลือกใช้ถุงกระดาษและทิชชู่ที่ทำจากวัสดุรีไซเคิล ตลอดจนการรณรงค์ไม่รับมีดส้อมพลาสติก

    นอกจากนี้ยังได้ทำงานร่วมกับ รศ.ดร. สิงห์ อินทรชูโต ในการเปลี่ยนกากกาแฟให้เป็นสิ่งของและเฟอร์นิเจอร์สำหรับใช้งานภายในร้าน เช่น ที่รองแก้ว ถาดและโต๊ะกาแฟ เพื่อเน้นย้ำประสบการณ์ ร้านกาแฟที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (eco-friendly)

    ไม่เพียงเท่านั้น ทีมงานของสตาร์บัคส์ยังได้ร่วมกิจกรรม World Water Day เป็นประจำทุกปี และได้สร้าง Aqua Towers ไปแล้วถึง 5 โครงการ เพื่อส่งมอบน้ำสะอาดให้ชุมชนที่ต้องการ

    การเดินหน้าสู่ความยั่งยืนของสตาร์บัคส์ยังครอบคลุมไปถึงการสนับสนุนชาวไร่กาแฟและชุมชน โดยสตาร์บัคส์ช่วยดูแลและพัฒนาชุมชนชาวไร่กาแฟทั่วโลก ซึ่งในประเทศไทย สตาร์บัคส์ได้ทำงานร่วมกับมูลนิธิพัฒนาชาวเขาแบบผสมผสาน (Integrated Tribal Development Foundation หรือ ITDF) เพื่อสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือแบบรอบด้านกับชุมชนชาวไร่กาแฟทางภาคเหนือของไทย

    เนตรนภา ศรีสมัย กรรมการผู้จัดการ สตาร์บัคส์ ประเทศไทย กล่าวว่า “เราทุ่มเทให้กับการดำเนินการตามคำมั่นสัญญาด้านสิ่งแวดล้อม ที่จะสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับสิ่งแวดล้อมและโลกของเรา เรามุ่งมั่นที่จะให้คืนกลับ ได้มากกว่าที่เรารับมา และด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน จากพวกเราทุกคน เราจะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ให้กับโลกของเราได้อย่างแน่นอน”

เนตรนภา ศรีสมัย กรรมการผู้จัดการ สตาร์บัคส์ ประเทศไทย


    สำหรับแคมเปญ LITTLE CHOICES. BIG CHANGES. นอกจากสนับสนุนให้ลูกค้านำแก้วส่วนตัวมาเองเมื่อสั่งเครื่องดื่มมาดื่มที่ร้านหรือกลับบ้านแล้ว ยังสามารถเลือกใช้แก้ว ForHere เมื่อสั่งเครื่องดื่มเพื่อดื่มในร้านได้ด้วย โดยแบรนด์ได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตของการใช้แก้วส่วนตัวกว่า 50% หรือกว่า 3 ล้านแก้วภายในปี 2567 นี้




เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : Pacamara ฉลองครบ 13 ปี เปิดตัวเมนูพิเศษ ‘เดอร์ตี้ ข้าวซอย’ พร้อมตั้งเป้าขยายอีก 12 สาขาปีนี้

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine