หลัก 7 ประการ เพื่อสร้างความประทับใจแรกพบ

การสร้าง ความประทับใจแรกพบ นั้นมีค่ามากมายเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นในขณะทำงานหรืองานปาร์ตี้ เพราะการสนทนาวิสาสะกันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน

บางคนอาจเห็นว่าการทำให้คนอื่นประทับใจเป็นเรื่องที่น่ายุ่งยาก เนื่องจาก Linda Blair นักจิตวิทยาคนดัง เคยกล่าวไว้ว่า คนเราใช้เวลาเพียงแค่เจ็ดวินาทีเท่านั้นในการตัดสินคนที่เพิ่งจะเจอหน้าค่าตากันเป็นหนแรก การจะทำให้เจ็ดวินาทีนี้มีค่าต่อชีวิต เราต้องตระเตรียมตัว การแสดงความมั่นใจออกมานั้นเป็นเรื่องดี แต่หากคุณพบกับใครที่ "ใช่" ขึ้นมา ความระมัดระวังตัวเองจะลดลง ขณะเดียวกันการออกอาการประหม่าก็ให้ผลในทางร้ายไม่ต่างกัน โดยอาจเกิดอาการกระอักกระอ่วนในวงสนทนาขึ้นมาได้ ดังนั้นแล้ว เคล็ดลับทั้ง 7 ข้อต่อไปนี้ โปรดจำให้ขึ้นใจ เพราะได้พิสูจน์มาแล้วว่าช่วยให้การพบปะสังสรรค์กับคนมากหน้าหลายตาได้อย่างมั่นใจ และโปรดจำไว้ว่า "คุณไม่มีโอกาสในการสร้างความประทับใจแรกพบเป็นหนที่สอง" 1.การตรงต่อเวลา หากคุณมาทันเวลานัดพอดิบพอดี นั่นหมายถึงคุณมาสาย! จงจำไว้เป็นกฎเหล็กหากต้องนัดหมายบุคคลที่กำลังจะพบเจอกันเป็นครั้งแรก คุณควรจะแสดงตัวว่าเป็นคนที่น่าเชื่อถือ ด้วยวิธีง่ายๆ ก็คือมาถึงก่อนนัดหมายประมาณสัก 5 นาที คุณต้องมีการวางแผนล่วงหน้าเผื่อกรณีรถไฟฟ้าอาจดีเลย์ หรือเผื่อปัญหาจราจรบนท้องถนน เพื่อให้มั่นใจแน่ๆ ว่าจะมาถึงตามเวลา และอีกฝ่ายจะเห็นว่าคุณนั้นเห็นค่าของเวลา แม้ว่าในเวลานี้ทุกคนจะสามารถติดต่อกันได้ง่ายๆ ผ่านการออนไลน์ ซึ่งง่ายมากที่จะส่งโน้ตมาแจ้งว่าอาจจะสายสักเล็กน้อย แต่เราควรใช้เทคโนโลยีเหล่านี้เพื่อช่วยให้ตรงต่อเวลามากกว่า เช่น สร้างนิสัยบริหารจัดการเวลาด้วยการตั้งเวลาเตือนจากอุปกรณ์มือถือของคุณเอง 2. มีส่วนร่วม ให้ความใส่ใจกับคนที่คุณพูดคุยด้วย โดยปฏิบัติราวกับว่ามีเขาเพียงคนเดียวในห้อง พยายามตั้งคำถามเพื่อแสดงให้เห็นว่ากำลังสนใจสิ่งที่กำลังพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน โดยคำถามต้องโยงไปหาสิ่งที่เขาเคยมีประสบการณ์ผ่านมา การใช้สายตาหรือ eye contact สำคัญมาก ต้องจ้องไปยังคู่สนทนา ไม่ใช่ที่หน้าจอโทรศัพท์! อย่าเอาแต่เฝ้ามองโทรศัพท์ หรือว่าละสายตาจากเขาไปยังคนอื่น ที่คุณคิดว่าน่าสนใจกว่า เนื่องจากเป็นกิริยาที่หยาบคายมาก หากทำให้เขารู้สึกว่าคุณไม่ได้ใส่ใจเขาอีกแล้ว ทั้งๆ ที่กำลังคุยกันอยู่ 3. ยิ้มเข้าไว้! ไม่มีสิ่งใดที่จะแสดงว่าฉันพร้อมแล้วที่จะเริ่มต้นงานร่วมกันเท่ากับรอยยิ้ม ซึ่งแสดงถึงความอ่อนโยน การเชื้อเชิญ และส่งสัญญาณแห่งความเป็นมิตร หรือรู้สึกดีที่ได้พบปะกัน เพื่อมารับฟังเรื่องที่น่าสนใจจากเขา หากคุณคิดว่าเป็นการฝืนที่จะต้องยิ้ม ให้ลองคิดถึงเรื่องที่ดีๆ ที่ช่วยให้ยิ้มได้อย่างเป็นธรรมชาติก็จะช่วยได้ 4. อย่าพูดคุยในเรื่องชวนขัดแย้ง ในขณะเริ่มบทสนทนาทำความรู้จักกัน อย่าได้เปิดประเด็นเรื่องเชิงลบ ให้พูดกันแต่เรื่องเชิงบวก หากเผลอพูดเรื่องทางลบ ให้เน้นแต่พูดในเรื่องดีๆ ไปกลบ และอย่าพูดจาข่มกันเด็ดขาด หลีกเลี่ยงหัวข้อสนทนาที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้ง เช่น การเมืองหรือศาสนา เพื่อให้คนรอบตัวรู้สึกสบายใจที่สุด ไม่มีใครหรอกที่จะชอบคุยกับคนที่ไม่ได้สนใจเรื่องที่อยู่ในความสนใจของคนอื่นๆ 5. ทำตัวคุณเองให้น่าจดจำ การแนะนำตัวควรจะต้องน่าสนใจในแบบที่เป็นตัวคุณ! อย่าเพียงแค่บอกชื่อตำแหน่งหน้าที่แล้วจบกัน ควรคิดหาทางที่ฉลาดกว่านั้น หรือเปิดประเด็นว่าตัวคุณสนใจเรื่องใดเป็นพิเศษบ้าง ที่ปรึกษาด้านการสื่อสารแนะนำว่า การแนะนำตัวที่ดีจะทำให้เกิดความสนใจใคร่รู้ คนที่คุณพบเป็นครั้งแรกต้องอยากทราบในทันทีว่า ตำแหน่งของคุณนั้นรับผิดชอบงานอะไรบ้าง คุณครูอาจจะเป็นผู้นำทางความคิดคนสำคัญ ฝ่ายบุคคลกลายเป็นผู้รักษาความสงบประจำสำนักงาน เป็นต้น ชื่อตำแหน่งงานสามารถสร้างความเชื่อโยงกับบุคลิกลักษณะอันโดดเด่นของตัวคุณได้ 6. สนใจหาข้อมูลข่าวสาร เมื่อต้องไปพบกับใครสักคนเป็นครั้งแรก ต้องทำการบ้านก่อนไปพบ ต้องรู้สถานที่นัดหมายและสถานการณ์ขณะนั้น รวมทั้งว่าเขาคนนั้นเป็นคนแบบไหน  เพียงเท่านี้ก็จะพอมองออกแล้วว่าจะพูดคุยกันในเรื่องใดบ้าง เพื่อแสดงความเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด พร้อมกับพิสูจน์ว่าคุณนั้นเป็นผู้เริ่มต้นการสนทนาที่ดี และยังใส่ใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวคุณเอง และแน่นอนว่าต้องหลีกเลี่ยงหัวข้อสนทนาที่นำไปสู่ความขัดแย้งด้วย 7. มีอารมณ์ขัน ไม่มีใครชอบอยู่ในความเครียดขรึม เมื่อต้องเจอกับผู้คนใหม่ๆ สิ่งแรกที่ง่ายที่สุดที่จะผูกใจเขาได้คือเสียงหัวเราะ คุณอาจไม่ต้องเก่งกาจขนาดนักแสดงเดี่ยวไมโครโฟน แต่ก็ควรจะรู้จักเล่าเรื่องตลกเฮฮาไว้บ้าง หรือไม่ก็ย้อนกลับมาแซวตัวเองก็ได้ หากไม่มีอารมณฺ์ขันเอาเลย ก็ต้องทำอย่างหนึ่งอย่างใด คนที่ไม่แสดงตัวให้ดูว่าเคร่งเครียดย่อมมีเสน่ห์และเป็นที่รักมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากหากคุณต้องการให้คนที่เพิ่งพบเจอประทับใจกับความรู้สึกแรกพบ