วิสัยทัศน์ควบแรงม้าของเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ “Lang Walker” - Forbes Thailand

วิสัยทัศน์ควบแรงม้าของเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ “Lang Walker”

FORBES THAILAND / ADMIN
03 Feb 2022 | 10:40 AM
READ 3462

เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ Lang Walker ไม่ยอมให้โรคระบาดมาชะลอตัวเขาได้ เศรษฐีพันล้านชาวออสเตรเลียคนนี้ยังมั่นใจกับโครงการใหม่ๆ หลายๆ แห่งที่อยู่ในแผนงานของบริษัท

เมื่อโรคระบาดทำให้อัตราพื้นที่สำนักงานว่างในออสเตรเลียเพิ่มเป็น 12% ซึ่งสูงที่สุดในช่วงกว่า 2 ทศวรรษ และคนอื่นอาจจะคิดว่า ผู้ก่อตั้งบริษัทเอกชนนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศคงต้องระมัดระวัง แต่ Lang Walker แห่ง Walker Corp. กลับพูดว่า “ผมมั่นใจอย่างไม่น่าเชื่อกับสิ่งที่เราทำอยู่ และทิศทางที่ออสเตรเลียกำลังมุ่งไป” อะไรทำให้เขามองโลกในแง่ดีแบบนั้น? Walker ตัดสินใจอย่างชาญฉลาดด้วยการใช้ช่วงเศรษฐกิจซบเซาเป็นจังหวะเพิ่มโครงการในแผนงานของ Walker Corp. แห่งเมือง Sydney อีก 36% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 8 พันล้านเหรียญออสเตรเลีย (6.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ) จนมีมูลค่ารวมเป็น 3 หมื่นล้านเหรียญออสเตรเลีย
เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ Lang Walker
ปัจจุบันสินทรัพย์ขั้นต้นส่วนใหญ่ของ Walker Corp. จากทั้งหมด 4.85 พันล้านเหรียญออสเตรเลียในงบดุลปี 2020 อยู่ในออสเตรเลีย “ส่วนใหญ่เราทำโครงการเพื่อการพาณิชย์ การเกษตรขนาดใหญ่ และชุมชนขนาดใหญ่ในออสเตรเลีย [เพราะ] ตลาดกลุ่มนี้ดีที่สุด” Walker กล่าว และเขายังมีแผนการใหญ่อีกหลายอย่างสำหรับอสังหาฯ กลุ่มที่พักอาศัยด้วย “เราซื้อที่ดินสร้างอะพาร์ตเมนต์ไว้ในออสเตรเลียเยอะทีเดียว ซึ่งยังไม่สร้างตอนนี้ แต่จะเริ่มในอีก 2-3 ปีเมื่อตลาดดีขึ้น” เขากล่าว ทักษะการเอาชนะตลาดอสังหาฯ ออสเตรเลียได้ของ Walker สะท้อนอยู่ในผลประกอบการของ Walker Corp. โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมากำไรของ Walker Corp. โดดขึ้นจาก 105 ล้านเหรียญออสเตรเลียในปี 2015 เป็น 252 ล้านเหรียญออสเตรเลียในปีที่แล้ว ขณะที่ Goodman Group บริษัทอสังหาฯ ที่มีมูลค่าหุ้นตามราคาตลาดมากที่สุดในตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลียมีกำไรเพิ่มขึ้นเพียง 18% ในช่วงเดียวกัน ทรัพย์สินของ Walker เองก็พุ่งตามผลประกอบการของบริษัทด้วย จาก 1.18 พันล้านเหรียญในปี 2015 เป็น 2.3 พันล้านเหรียญในปัจจุบันตามการประเมินของ Forbes (และมีสื่ออื่นประเมินทรัพย์สินของเขาไว้สูงกว่านี้)  

- จุดเริ่มต้น -

Walker วัย 75 ปี เป็นลูกคนเดียวที่โตในเมือง Sydney หลังจากจบมัธยมศึกษาเขาทำงานเป็นกะลาสีบนเรือยอช์ตที่แล่นไปทั่วแถบชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของออสเตรเลีย ต่อมาในช่วงทศวรรษ 1960 Walker ก็ตัดสินใจว่าถึงเวลาเข้าทำงานในกิจการขนดินและวิศวกรรมโยธาของ Alec Walker พ่อของเขา ซึ่งกลายมาเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาฯ ในทศวรรษ 70 และเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Walker Corp. ในปี 1988 แม้พ่อของเขาจะเสียชีวิตไปเมื่อปี 2011 แต่ปัจจุบัน Walker ก็มีลูกๆ 3 คนเข้ามาร่วมงานในบริษัท หนึ่งในโครงการแบบที่ Walker ชอบสร้างและกำลังพัฒนาอยู่คือ Parramatta Square มูลค่า 3.2 พันล้านเหรียญออสเตรเลียซึ่งตั้งอยู่แถบชานเมืองด้านตะวันตกของ Sydney โครงการนี้เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2017 และคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในปีหน้า ในโครงการจะมีอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ที่สุดในออสเตรเลียซึ่งมีพื้นที่ใช้สอย รวม 120,000 ตร.ม. ครอบคลุมพื้นที่ 3 เฮกตาร์ ผู้เช่าพื้นที่ใน Parramatta Square นั้นรวมถึงหน่วยงานรัฐบาลของรัฐ New South Wales และ Westpac
Parramatta Square
Walker Corp. ยังเป็นเจ้าของอสังหาฯ อีกหลายแห่งใน Sydney และเมืองหลักๆ ของออสเตรเลียอย่าง Adelaide, Brisbane, Canberra และ Melbourne ด้วย ในช่วงโควิดระบาดมาตรการล็อกดาวน์อันยาวนานในหลายเมืองของออสเตรเลียกระตุ้นให้เกิดการปรับเปลี่ยนสู่การทำงานที่บ้าน โดยรายงานผลประกอบการทางการเงินปี 2020 ของ Walker Corp. ระบุว่า บริษัทยังไม่ประสบปัญหาเรื่อง “การเปลี่ยนแปลงของผลประโยชน์ที่ลดลง” จากรายได้ที่มาจากค่าเช่าหรือความต้องการเช่าพื้นที่สำนักงาน แม้จะมีการคาดเดากันว่า เทรนด์การทำงานที่บ้านจะกลายเป็นสัญญาณมรณะสำหรับสำนักงานใจกลางเมืองหรือไม่ แต่ผู้เช่าส่วนใหญ่ของ Walker Corp. ก็ยังไม่หนีไปไหน Walker กล่าวว่า เขาโชคดีที่ผู้เช่าส่วนใหญ่ของเขาเป็นบริษัทใหญ่ที่มั่นคงหรือหน่วยงานรัฐ “ผู้เช่ากลุ่มเป้าหมายทั้งหมดของเราถ้าไม่ใช่หน่วยงานรัฐ องค์กรกึ่งรัฐ ธนาคาร ก็เป็นผู้ใช้สำนักงานรายใหญ่ฐานะดีอื่นๆ” เขาอธิบายและกล่าวว่า ลูกค้ากลุ่มนี้เชื่อถือได้และความเสี่ยงต่ำ “การมีผู้เช่าเป็นธนาคารกับหน่วยงานรัฐน่ะยอดเยี่ยมมาก”  

- โรคระบาดไม่ขัดขวาง -

Walker ไม่ได้ชะลอธุรกิจลงในช่วงโรคระบาด และพนักงานของเขาก็ยังมีงานยุ่งเช่นกัน “เราไม่ได้หยุดทำงาน” เขากล่าว และถ้าโควิด-19 ในออสเตรเลียซาลงเมื่อไร Walker เชื่อว่าพนักงานทั่วไปก็ต้องกลับเข้าสำนักงาน แม้จะยังมีเรื่องที่ต้องระวังอยู่บ้าง “ผมคิดว่าจะเกิดการทำงานรูปแบบผสมผสาน คือบริษัทต่างๆ จะยืดหยุ่นกับการทำงานทางไกลมากขึ้น แต่ที่จริงก็มีพนักงานจำนวนมากที่อยากกลับเข้าออฟฟิศ เพราะได้สื่อสารและมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน” เขากล่าว แต่ Walker ก็ตระหนักว่า Walker Corp. อาจต้องปรับตัวรับความเปลี่ยนแปลงบางอย่างในเรื่องสถานที่ทำงาน “สำนักงานจะต้องมีพื้นที่มากขึ้นของพื้นที่นั่งทำงานร่วมกัน พื้นที่ประชุมกลุ่มย่อย และมีพื้นที่สวนในอาคาร” เขากล่าว “เรามองหาวิธีเปลี่ยนแนวทางการออกแบบสำนักงานสำหรับตึกใหม่ๆ ที่เรากำลังสร้างแล้ว” อย่างไรก็ตามกว่าชีวิตจะกลับเป็นเหมือนช่วงก่อนโควิดก็คงอีกพักใหญ่ “คาดว่าความต้องการเช่าสำนักงานจะยังน้อยต่อไป ในปี 2021 เพราะความเสี่ยงจากการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้น” Joyce Tiong หัวหน้าทีมวิจัยเรื่องผู้เช่าสำนักงานในออสเตรเลียจาก CBRE กล่าวไว้ในรายงานเมื่อเร็วๆ นี้ “อัตราการเช่าสำนักงานจะยังได้รับอิทธิพลจากมาตรการควบคุมโควิด-19 และการขยายการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม” ตามมุมมองของ Walker ไม่ว่าโควิด-19 จะนำความเปลี่ยนแปลงอะไรมาสู่สถานที่ทำงาน พื้นที่สำนักงานในทำเลชั้นเยี่ยมก็ยังมีคนต้องการอยู่เสมอ แนวโน้มอย่างหนึ่งที่เขามองว่ากำลังเร่งขึ้นคือ บริษัทต่างๆ จะมองหาทำเลอื่นที่ไกลออกไปจากย่านศูนย์กลางธุรกิจและตั้งสำนักงานในทำเลที่ค่าเช่าถูกกว่า เช่น แถบชานเมือง หรือเมืองศูนย์กลางของภูมิภาค ซึ่งช่วยให้พนักงานเดินทางได้ง่ายขึ้น “ผู้คนจะให้ความสำคัญกับการทำงานใกล้บ้านมากขึ้น และราคาที่จับต้องได้ก็เป็นสิ่งที่คนจะมอง” เขากล่าว ตัวอย่างเช่น Parramatta ซึ่งอยู่ห่างจากย่านศูนย์กลางธุรกิจของ Sydney ออกมา 20 กม. แต่ใกล้ย่านที่พักอาศัยแถบชานเมืองมากกว่า “คุณภาพอาคารของเราที่ Parramatta ดี เทียบเท่ากับโครงการอื่นๆ ในเมือง แต่ราคาของเราแค่ 1 ใน 3” Walker กล่าว
Maroochydore City Centre
Walker คิดว่าน่าจะมีชาวออสเตรเลียจำนวนมากขึ้นที่อยากแสวงหาไลฟ์สไตล์ที่ดีขึ้นในแถบ Sunshine Coast ซึ่งเทรนด์นี้มีมาตั้งแต่ก่อนโควิดระบาดแล้ว Walker Corp. จึงตอบโจทย์ด้วยการพัฒนาโครงการ Maroochydore City Centre ห่างจากเมือง Brisbane ขึ้นไปทางเหนือ 110 กม. โครงการนี้ครอบคลุมพื้นที่ 53 เฮกตาร์ และเปิดตัวเมื่อปีที่แล้วในฐานะเป็นศูนย์กลางธุรกิจสร้างใหม่บนพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สุดในออสเตรเลีย Walker วางเดิมพันว่า รถไฟฟ้าขนส่งมวลชน (RTS) เชื่อม Johor Bahru กับสิงคโปร์ซึ่งคาดว่าจะสร้างเสร็จในปี 2026 น่าจะช่วยให้ Johor Bahru เป็นทางเลือกที่น่าสนใจยิ่งขึ้นนอกเหนือจากสิงคโปร์ ระบบรถไฟฟ้าสายนี้ซึ่งเริ่มสร้างเมื่อเดือนมกราคมจะขนส่งผู้โดยสารขาไปและขากลับระหว่างสองเมืองได้ขาละ 10,000 คนต่อชั่วโมง และจะมาแทนรถไฟระบบเดิมซึ่งล้าสมัยแล้ว “ตอนผมไป Johor ครั้งแรกเมื่อประมาณ 15 ปีก่อน ผมเห็นศักยภาพมหาศาลทันทีเลย” Walker เล่า “สิงคโปร์เป็นหนึ่งในเมืองที่ค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก แต่ถ้า RTS เปิดเมื่อไร Johor Bahru จะอยู่ห่างออกไปแค่ 30 นาที”
Kokomo Private Island Fiji
หนึ่งในโครงการที่น่าตื่นเต้นที่สุดของ Walker คือ Kokomo Private Island Fiji ความพิเศษของรีสอร์ตนี้สะท้อนอยู่ในชื่อ Kokomo ซึ่งเป็นชื่อเรือเล็กของ Walker ในสมัยเด็ก และเป็นชื่อที่เขาตั้งให้เรือยอช์ตของเขาอีกหลายลำมาตลอดหลายสิบปี รีสอร์ตแห่งนี้ซึ่งเปิดเมื่อปี 2017 ต้องปรับตัวอย่างมากเพื่อรับมือกับสถานการณ์โรคระบาด และหลังจากปิดเพราะโควิด-19 ไป 1 ปี รีสอร์ตก็เปิดอีกครั้งในเดือนเมษายน แต่รับแขกจากสหรัฐฯ แค่ 12 คนหรือมากกว่าซึ่งพร้อมควักเงินไม่ต่ำกว่า 287,000 เหรียญ เพื่อเหมารีสอร์ตขนาด 140 เอเคอร์แห่งนี้อย่างน้อย 7 วัน แขกกลุ่มนี้จะมีอิสระเต็มที่ภายในรีสอร์ตและเลือกที่พักได้ตามใจชอบจากวิลล่า 12 หลัง และบ้านพัก 5 หลัง แพ็กเกจนี้รวมค่าอาหาร เครื่องดื่ม บริการนวด และสิทธิพิเศษอื่นๆ โดยเป็นอภินันทนาการจากรีสอร์ต พร้อมทั้ง “สามารถใช้งานสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในรีสอร์ตได้ไม่อั้น” อย่างไรก็ตามแขกจะต้องปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ซึ่งรวมถึงต้องแสดงผลตรวจโควิดจากหน่วยงานต่างๆ อนุมัติก่อนออกเดินทาง และต้องตรวจอีกครั้งเมื่อมาถึง Kokomo ยังเปิดมาไม่นานพอให้ถอนทุนคืนโควิดก็ทำธุรกิจชะงักอีก แต่ Walker รับเรื่องโชคร้ายนี้อย่างใจเย็นและพูดติดตลกว่า เขาถือว่ารีสอร์ตแห่งนี้เป็น “ธุรกิจไม่แสวงผลกำไร” ของเขา ตอนที่เขาซื้อเกาะส่วนตัวขนาด 57 เฮกตาร์แห่งนี้ มันมาพร้อมรีสอร์ตที่นักพัฒนารายก่อนสร้างได้แค่ครึ่งเดียวแล้วปล่อยทิ้งไว้ “ตอนนั้นผมคิดว่า มันท้าทายดีนะ ผมน่าจะสร้างต่อให้เสร็จได้ในสัก 18 เดือน ใช้เงินสัก 10 ล้านเหรียญ” เขาเล่า “หลังจากผ่านไป 5 ปีกับใช้เงินไปเกิน 100 ล้าน ผมก็คิดว่า อืม...ชักไม่รู้แล้วว่าไอเดียนี้ดีจริงไหม” แม้การระบาดของโควิด-19 จะเป็นความท้าทายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนทั้งในเรื่องส่วนตัวและเรื่องธุรกิจ แต่ Walker ก็ยังมองโลกในแง่ดีและกระตือรือร้นอยากกลับไปทำอะไรที่คล้ายเดิมในภาวะปกติ “โรคระบาดมันแย่มากแน่ละ...แต่ไม่รู้สิ ผมก็แค่คนบ้าคิดบวกคนหนึ่งที่อยากเดินหน้าต่อไป”  เขากล่าว   เรื่อง: CHRISTIAN BARKER เรียบเรียง:ธรรดร โสตถิอำรุง ภาพ: DEAN HAMMER อ่านเพิ่มเติม:
คลิกอ่านบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนธันวาคม 2564 ในรูปแบบ e-magazine