ศุภาลัยปี 2562 พลิกปัจจัยลบเป็นโอกาส ตั้งเป้ายอดขายโต 5% - Forbes Thailand

ศุภาลัยปี 2562 พลิกปัจจัยลบเป็นโอกาส ตั้งเป้ายอดขายโต 5%

เปิดแผน 'ศุภาลัยปี 2562' ปัจจัยลบรอบด้าน วางเป้าหมายยอดขาย 35,000 ล้านบาท โต 5% เปิดตัวใหม่ 34 โครงการ 40,000 ล้านบาท เน้นจับกลุ่มตลาดกลางเสริมด้วยบ้าน-คอนโดฯ หรู ชี้เทรนด์ปีนี้ราคาที่ดินเติบโตแบบชะลอตัวหลังดีเวลอปเปอร์หยุดทุ่มซื้อ

ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร และ ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ สองผู้บริหาร บมจ.ศุภาลัย ร่วมกันแถลงวิสัยทัศน์และแผนการดำเนินงานของบริษัทประจำปี 2562 ชี้ภาพรวมเศรษฐกิจเติบโตลดลง มีปัจจัยลบต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ ไตรเตชะ เปิดเผยผลการดำเนินงานของบริษัทปี 2561 มีการเปิดตัวโครงการทั้งหมด 25 โครงการ มูลค่ารวม 25,980 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ว่าจะมีการเปิดตัวรวม 40,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม บริษัทสร้างยอดขายได้ 33,343 ล้านบาท สูงกว่าเป้าที่วางไว้ 30,000 ล้านบาท และเติบโตขึ้น 8% จากปี 2560 ขณะที่การรับรู้รายได้วางเป้าหมายต้นปี 2561 ไว้ที่ 26,000 ล้านบาทซึ่งต้องรอรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยก่อนรายงานผลการดำเนินงานต่อไป “เรามีการชะลอการเปิดโครงการออกไปในช่วงไตรมาส 4 ปีก่อน เพราะเห็นแนวโน้มว่าจะทำยอดขายได้ตามเป้าตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 จากโครงการที่อยู่ระหว่างขาย ทำให้หลายโครงการจะนำมาเปิดตัวในปีนี้แทน” ไตรเตชะกล่าว สำหรับแผนธุรกิจปี 2562 ศุภาลัยเตรียมเปิดตัว 34 โครงการ มูลค่ารวม 40,000 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 6 โครงการทำเลในกรุงเทพฯ-ปริมณฑลทั้งหมด เช่น พระราม 9, สาทร, ธนบุรี และโครงการแนวราบอีก 28 โครงการทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 35,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้า 5% และเป้าหมายรับรู้รายได้ 28,000 ล้านบาท เติบโตจากเป้าของปีก่อนหน้า 7% พร้อมกำหนดงบซื้อที่ดินอีก 8,000 ล้านบาท
(ซ้าย) ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม และ (ขวา) ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม
ทั้งนี้ เซ็กเมนต์ราคาโครงการส่วนใหญ่จะยังคงเน้นคอนโดมิเนียมราคา 6-8 หมื่นบาทต่อตร.ม. และโครงการแนวราบราคา 4-6 ล้านบาท ซึ่งเป็นจุดแข็งของศุภาลัย แต่จะเสริมด้วยโครงการหรือยูนิตระดับบนขึ้นในบางโครงการ เช่น บ้านเดี่ยวราคามากกว่า 20 ล้านบาทซึ่งบริษัทไม่เคยพัฒนามาก่อน รวมถึงคอนโดฯ ที่คาดว่าจะทำราคา new high ของบริษัทที่คอนโดฯ บนแปลงที่ดินถนนสาทร หลังจากเคยเปิดตัวศุภาลัย โอเรียนทัล สุขุมวิท 39 ในราคา 1.3-1.6 แสนบาทต่อตร.ม.  

ชิงจังหวะดึงลูกค้าช่วงคู่แข่งผ่อนคันเร่ง

“เป้ายอดขายโต 5% บางท่านอาจจะมองต่างกันไปว่าเป็นยอดเติบโตที่เยอะหรือน้อย เพราะหลายคนประเมินว่าตลาดอสังหาฯ จะไม่โตเลยด้วยซ้ำ แต่เราคิดว่าปัจจัยลบต่างๆ จะทำให้ซัพพลายเข้ามาน้อยลง ทำให้เป็นโอกาสของเรา” ไตรเตชะคาดการณ์ ปัจจัยลบดังกล่าว ได้แก่ มาตรการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คุมเข้ม LTV สินเชื่อบ้าน อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับขึ้นแล้ว 0.25% และสภาวะเศรษฐกิจที่อาจเติบโตชะลอลง  

ปัจจัยลบแวดล้อมแต่ไม่สาหัส

อย่างไรก็ตาม เอ็มดีศุภาลัยมองว่าปัจจัยลบต่างๆ ไม่ได้ส่งผลหนักอย่างที่หวั่นวิตกกัน เช่น มาตรการคุมอัตราส่วนสินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน หรือ LTV หลังจาก ธปท. พิจารณาให้การทำสัญญาซื้อที่อยู่อาศัยหลังที่สองสามารถกู้สินเชื่อบ้านได้ 90% หากผ่อนชำระหลังแรกไปแล้วเกิน 3 ปี ทำให้กลุ่มลูกค้าที่จะได้รับผลกระทบมีราว 10% เท่านั้น ขณะที่กลุ่มลูกค้าบ้านแนวราบซึ่งปกติมักจะวางเงินดาวน์เพียง 3-5% และกู้สินเชื่อเพื่อโอนทันที บริษัทจะปรับตัวให้ลูกค้าผ่อนได้ยาวขึ้นเป็น 6-8 เดือน โดยแบ่งไซต์ก่อสร้างมีทั้งโซนบ้านสร้างเสร็จพร้อมอยู่และบ้านระหว่างสร้างเพื่อแก้โจทย์มาตรการ LTV ดร.ประทีป กล่าวว่า สำหรับการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เชื่อว่าไม่ส่งผลกระทบมากนักต่อลูกค้า และอัตราดอกเบี้ย MLR ที่ลูกค้าผ่อนบ้านได้รับยังอยู่ที่ราว 4-5% มองว่าอยู่ในระดับที่ ‘ไม่เลวร้าย’  

จับตาราคาที่ดินเติบโตชะลอลง

ด้านต้นทุนของภาคอสังหาริมทรัพย์ ดร.ประทีปเปิดเผยว่า ปีนี้ต้นทุนค่าวัสดุก่อสร้างถูกลงหลังจากราคาเหล็กปรับลดลงมาตามราคาน้ำมัน และภาคแรงงานพ้นช่วงวิกฤตขาดแคลน แต่ราคาที่ดินยังคงเป็นปัจจัยสำคัญของอสังหาฯ โดยชี้ว่าที่ผ่านมาในรอบ 20 ปี (2541-2561) ดัชนีราคาที่ดินปรับขึ้นมา 100% แต่ราคากลางของบ้านและคอนโดฯ ขึ้นมาเพียง 30% เท่านั้น “เท่ากับดีเวลอปเปอร์จะพัฒนายากขึ้น คือต้องลดกำไรตัวเอง หรือต้องขายแพงขึ้น แต่จะเสี่ยงเพราะขายยากขึ้น ราคาที่ดินขึ้นสูงเพราะเจ้าของที่ดินมองว่าเป็นราคาที่ขายได้ และช่วงที่ผ่านมามีดีเวลอปเปอร์ที่กล้าซื้อเพราะเชื่อว่าขึ้นราคาขายก็ยังขายได้ แต่ปีนี้คงจะต้องปรับตัว คนกินข้าวจานที่ 3 ไปแล้วมันเริ่มตื้อแล้ว จะกินจานที่ 4 ก็ต้องรอย่อยก่อน เจ้าของที่ดินก็ต้องยอมปรับลง” ดร.ประทีปกล่าว  

เปิดตัวคอนโดฯ แรกของปี โครงการตึกเตี้ยย่านพระราม 9

สำหรับโครงการแรกของบริษัทที่จะเปิดในปีนี้ คือ ศุภาลัย ไพรม์ พระราม 9 มูลค่าโครงการ 770 ล้านบาท ทำเลริมถนนพระราม 9 ด้านหน้าโครงการศุภาลัย เวอเรนด้า พระราม 9 ที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2559 ตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า รฟม. (สายสีส้ม ศูนย์วัฒนธรรมฯ – มีนบุรี) 350 เมตร เนื้อที่ดิน 2 ไร่ครึ่ง ออกแบบเป็น 2 อาคาร สูง 8 ชั้น จำนวน 217 ยูนิต ห้องชุดฟังก์ชัน 1-2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 31-67 ตร.ม. ราคาเฉลี่ย 83,100 บาทต่อตร.ม. หรือเริ่มต้น 2.53 ล้านบาทต่อยูนิต เปิดพรีเซลวันที่ 26-27 มกราคมนี้
ศุภาลัย ไพรม์ พระราม 9
ไตรเตชะกล่าวว่า เดิมที่ดินแปลงนี้ตั้งใจจะก่อสร้างเป็นอาคารพาณิชย์แต่มีการปรับแผน หลังจากมีลูกค้าสอบถามมีความต้องการห้องชุด จึงตัดสินใจเปลี่ยนเป็นคอนโดฯ แต่เลือกพัฒนาเป็นตึกเตี้ย เพื่อให้ไม่บังวิวของลูกค้าที่ซื้อห้องชุดในศุภาลัย เวอเรนด้า พระราม 9 ไปแล้ว นอกจากโครงการนี้ บริษัทยังมีแผนการเปิดตัวโครงการแนวราบอีก 5 แห่งภายในไตรมาส 1/62