ธุรกิจต่างๆ ทุ่มเงินหลายล้านเหรียญลงในปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยหวังจะได้ผลตอบแทนก้อนใหญ่ในอนาคต แต่สตาร์ทอัพรายนี้ผู้เป็นคิดค้น AI ที่ชื่อ Writer ช่วยพวกเขาทุ่นค่าแรงได้ในวันนี้เลย
ณ ปี 2016 May Habib กำลังเข้าประชุมครั้งสำคัญที่สุดในชีวิต ผู้ประกอบการชาวแคนาดาเชื้อสายเลบานอนที่เพิ่งย้ายจากเมือง Dubai มาอยู่เมือง San Francisco คนนี้กำลังเอาซอฟต์แวร์แปลภาษาที่สตาร์ทอัพของเธอสร้างเองมานำเสนอกับ Visa ถ้าเธออยากมีโอกาสระดมทุนรอบซีรี่ส์ A ก็ต้องคว้าข้อตกลงธุรกิจนี้ให้ได้โดยเร็ว
แต่ผู้บริหารของ Visa ซึ่งก็อยากจะปล่อยผลิตภัณฑ์การชำระเงินผ่านระบบดิจิทัลที่รองรับกว่า 40 ภาษานั้นเคยจ้างแต่นักแปลที่เป็นมนุษย์ และนึกไม่ออกว่าจะนำซอฟต์แวร์ของเธอมาใช้ร่วมกับซอฟต์แวร์ของพวกเขาได้อย่างไร Habib ซึ่งปัจจุบันอายุ 40 ปี จึงเดินไปที่ไวท์บอร์ดแล้ววาดเป็นแผนผังขึ้นมา และเมื่อพบช่องโหว่เธอกับผู้ร่วมก่อตั้ง Waseem Alshikh จึงกลับไปที่บ้านกึ่งออฟฟิศของพวกเขาในเขต Mission District แล้วรีบใช้ GitHub สร้างตัวผสานระบบเพื่อปิดช่องโหว่
จากนั้นไม่นาน Visa ก็เข้ามาเป็นลูกค้าธุรกิจรายใหญ่รายแรกของ Habib โดยทำสัญญามูลค่า 126,000 เหรียญสหรัฐฯ แล้วอีกไม่กี่เดือนต่อมาเธอก็ระดมทุนได้ 5 ล้านเหรียญ “คุณไม่ต้องขายซอฟต์แวร์ แต่คุณต้องขายวิธีการทำงานที่แตกต่าง” เธอกล่าว
นี่คือแนวคิดเบื้องหลัง Writer บริษัทปัญญาประดิษฐ์ของ Habib ซึ่งพัฒนาจากช่วงแรกมาไกลมากแล้ว ปัจจุบันบริษัทนี้ขาย AI Studio ชุดเครื่องมือ AI สารพัดประโยชน์ที่มีเป้าหมายช่วยเร่งการทำงานในองค์กรหลายอย่าง ซึ่งเป็นงานที่เรียบง่ายไม่ต้องใช้ทักษะแต่มักจะน่าเบื่อหน่ายและค่าใช้จ่ายสูง
Writer ช่วยบริษัทเครื่องสำอางยักษ์ใหญ่ L’Oréal ร่างคำบรรยายสั้นๆ สำหรับผลิตภัณฑ์หลายพันรายการ และช่วย Uber ร่างคำตอบสำหรับคำถามที่พบบ่อยหลายร้อยคำถาม ส่วน Salesforce ให้บริษัทนี้ช่วยพ่นแคมเปญการตลาดผ่านอีเมลและสื่อโซเชียลออกมาแบบรัวๆ
3 บริษัทนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งจาก 300 บริษัทที่จ่ายเงินให้ Writer (บางรายจ่ายหลายล้านเหรียญ) เพื่อนำแอป AI ของที่นี่มาดัดแปลงใช้ทำงานทั่วไปรายวันที่กินเวลามากให้เสร็จได้โดยอัตโนมัติ และเมื่อมีลูกค้าธุรกิจกระตือรือร้นอยากใช้งาน Writer ซึ่งเป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพที่กำลังร้อนฉ่าจึงได้เข้าทำเนียบประจำปี AI 50 ของ Forbes และระดมทุนได้ประมาณ 320 ล้านเหรียญจากกลุ่มนักร่วมลงทุนระดับชั้นนำ โดยในรอบการระดมทุนเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาบริษัทได้เงินมา 200 ล้านเหรียญด้วยมูลค่าประเมิน 1.9 พันล้านเหรียญ และ Habib ยังคงถือหุ้นประมาณ 15% คิดเป็นมูลค่า 285 ล้านเหรียญ
ในระหว่างที่มีบริษัทมากมายกำลังพยายามคิดว่าจะนำ AI มาช่วยสร้างธุรกิจให้โตได้อย่างไร และการลงทุนเรื่องนี้จะคุ้มไหม ลูกค้าของ Writer ก็ใช้เครื่องมือของบริษัทช่วยลดต้นทุนในเรื่องสำคัญได้แล้ว ผู้บริหารระดับสูงด้านงาน AI ในบริษัทค้าปลีกสินค้าเพื่อสุขภาพชั้นนำรายหนึ่งกล่าวว่า ทีมของพวกเขาใช้ AI ของ Writer ทำโฆษณาใน TikTok, Amazon และ Walmart ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดต้นทุนและสร้างโอกาสการขายใหม่ๆ ได้แล้ว ยังช่วยสร้างรายได้ปีละ 5 ล้านเหรียญอีกด้วย และคาดว่าตัวเลขนี้จะเพิ่มเป็น 25 ล้านเหรียญใน 2 ปีข้างหน้า แบรนด์ชุดชั้นใน Adore Me ของ Victoria’s Secret ใช้ AI ของ Writer แปลคำบรรยายผลิตภัณฑ์ 2,900 รายการเป็นภาษาสเปน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการขยายตลาดสู่เม็กซิโก ช่วยลดเวลาทำงานลงจากหลายเดือนเหลือแค่ 10 วัน
“ผลตอบแทนการลงทุนมันอยู่ตรงหน้าคุณเลย” Sandesh Patnam หุ้นส่วนบริหารของบริษัทไพรเวตอิควิตี้ Premji Invest ซึ่งร่วมเป็นผู้นำการระดมทุนให้ Writer ในปีที่แล้วกล่าว
เมื่อช่วยให้ประหยัดได้ขนาดนี้ Writer จึงมีอัตราการรักษาลูกค้าสูงอย่างน่าทึ่งถึง 160% ซึ่งหมายความว่า มีลูกค้าเฉลี่ย 60% ขยายสัญญาเพิ่มจากเดิม โดย Habib กล่าวว่า มีลูกค้า 20 รายที่เริ่มต้นจากสัญญามูลค่า 200,000-300,000 เหรียญค้นพบวิธีใช้เครื่องมือของ Writer ในรูปแบบใหม่ๆ ตอนนี้พวกเขาจึงควักเงินเพิ่มเป็นรายละประมาณ 1 ล้านเหรียญแล้ว
เอกสารนำเสนอเมื่อฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้วบอกว่า บริษัทมีรายได้ 9.3 ล้านเหรียญในปี 2023 และคาดการณ์ว่าจะเพิ่มเป็น 28 ล้านเหรียญในปี 2024 ทว่า Writer บอกว่า ตัวเลขนี้ไม่ถูกต้องและไม่ให้ความเห็นเพิ่มเติมกับเรื่องนี้ แต่ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันบริษัทมีสัญญาที่เซ็นเรียบร้อยแล้วรวมกว่า 50 ล้านเหรียญ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น 100 ล้านเหรียญในปีนี้
ความมั่นใจของ Writer มาจากผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดชื่อ “AI HQ” ซึ่งมีเครื่องมือสร้างผู้ช่วย AI (artificially intelligent agent) สำหรับทำงานหลายอย่างที่โดยปกติแล้วจะเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการทำงานของพนักงาน เช่น นักวิเคราะห์ด้านการเงินสามารถสร้างผู้ช่วยที่จะดึงข้อมูลจากไฟล์เสียงการรายงานผลประกอบการทางโทรศัพท์เพื่อนำมาวิเคราะห์แล้วส่งอีเมลเวอร์ชั่นที่เหมาะสำหรับลูกค้าแต่ละรายไปถึงลูกค้าได้ทั้งหมด
เครื่องมือนี้ไม่ต้องเขียนโค้ด คุณแค่ใช้ภาษาอังกฤษธรรมดาอธิบายให้ผู้ช่วยรู้ลำดับขั้นตอนการทำงานที่คุณอยากให้มันทำ จากนั้นก็กดปุ่ม และสำหรับลูกค้าที่พร้อมจ่ายค่าบริการรายปีซึ่งอาจสูงถึงหลายล้านเหรียญ Writer ก็สร้างแอปไว้ให้แล้วกว่า 70 แอป และมีผู้ช่วยที่ลูกค้านำไปใช้งานได้ทันทีด้วย “คนไม่จำเป็นต้องทำงานพวกนี้” Habib กล่าว “แค่สร้าง AI มาทำแทนก็พอ”
ตอนนี้ลูกค้ารายใหญ่อย่างบริษัทเทคโนโลยีการเงิน Intuit (รายได้ 1.63 หมื่นล้านเหรียญในปี 2024) และบริษัทรับสร้างบ้าน Lennar (ยอดขาย 3.54 หมื่นล้านเหรียญ) ได้ทดลองใช้เครื่องมือผู้ช่วย AI ของ Writer แล้ว Scott Spradley ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ Lennar กล่าวว่า ทีมของเขาใช้ผู้ช่วย AI ของ Writer เขียนอีเมลตอบคำถามผู้ที่สนใจจะซื้อบ้านไปแล้วหลายพันฉบับ นัดลูกค้ามาดูบ้านแล้วหลายพันหลัง และให้ข้อมูลอย่างราคาหรือทำเลที่ตั้งได้ “มันช่วยเพิ่มยอดขาย เพิ่มกิจกรรม และขยายกลุ่มว่าที่ลูกค้าได้” เขากล่าว
เรื่องนี้ยังเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์สำหรับธุรกิจที่อยากลดต้นทุนค่าแรง บริษัทจะจ่ายเงินจ้างคนมาทำสิ่งที่ AI ทำได้ดีเหมือนกันแต่ทำได้เร็วกว่าไปทำไม นี่คือโอกาสอย่างแท้จริงสำหรับ Writer และบริษัทอื่นๆ ในตลาด AI สำหรับงานองค์กรซึ่งมีมูลค่าตลาด 5.8 หมื่นล้านเหรียญ Habib พูดอย่างไม่อ้อมค้อมว่า เรื่องนี้มีความหมายอย่างไรต่อแรงงานที่มีความรู้ในระดับธรรมดาทั่วไป “ต่อไปลดพนักงานเหลือแค่ 10% ก็พอ”
เมื่อตลาดซอฟต์แวร์ AI สำหรับงานองค์กรกำลังจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวเป็น 1.14 แสนล้านเหรียญภายในปี 2027 การแข่งขันย่อมต้องดุเดือด บริษัทกระเป๋าหนักอย่าง OpenAI กับ Anthropic ซึ่งระดมทุนได้รวม 4.2 หมื่นล้านเหรียญขายโมเดล AI ขั้นพื้นฐานให้ธุรกิจต่างๆ นำไปต่อยอดสร้างเป็นเครื่องมือเอง โดยทั่วไปแล้วพวกเขายังต้องใช้ทีมนักพัฒนาเป็นคนตั้งค่า เปิดใช้งาน และคอยอัปเดต แต่เทคโนโลยีของ Writer ส่วนใหญ่เป็นแบบที่แค่เอาลงเครื่องก็ใช้งานได้เลย โดยมีอินเทอร์เฟซแบบใช้เมาส์ลากที่ใช้งานง่าย ไม่ต้องไปยุ่งอะไรกับโมเดล AI หรือเขียนคำสั่งให้สมบูรณ์แบบทุกครั้ง “ผู้ใช้งานไม่ต้องมองเห็นเวทมนตร์ส่วนใหญ่ของเรา” Habib กล่าว
Writer ทำแบบนั้นได้โดยใช้โมเดลที่บริษัทสร้างขึ้นเองเป็นตัวขับเคลื่อน AI Studio และ AI HQ ซึ่งเรื่องนี้สำคัญต่อความปลอดภัย ข้อมูลของลูกค้าจะถูกดึงมาจากเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้เก็บข้อมูลเหล่านี้โดยเฉพาะและจะไม่ถูกนำไปใช้ฝึกโมเดล ดังนั้น จึงช่วยลดความกังวลเรื่องที่ข้อมูลอ่อนไหวจะรั่วไหลได้ โมเดลของ Writer ยังช่วยแก้ไขข้อกังวลอีกเรื่องหนึ่งที่ธุรกิจต่างๆ มีเกี่ยวกับ AI ซึ่งก็คือ การที่ AI มีแนวโน้มจะตอบมั่วในบางครั้ง
โดย AI ของ Writer จะดึงข้อมูลออกมาจากเอกสารของลูกค้าโดยตรง จึงรับประกันได้ว่าโอกาสเกิดอาการหลอน (hallucination) จะมีน้อยกว่ามาก ถึงแม้ความคิดสร้างสรรค์จะน้อยลงไปด้วย แต่ถ้าคุณใช้ AI วิเคราะห์ตลาด คุณก็คงไม่อยากให้มันเขียนบทกวีหรอกมั้ง
ในโลกที่ OpenAI ทุ่มเงิน 100 ล้านเหรียญเพื่อฝึกฝน GPT-4 Writer กลับทำงานทั้งหมดที่ว่ามาได้ด้วยต้นทุนค่อนข้างถูก โดยสร้างโมเดลมาแข่งกับ ChatGPT ได้ด้วยราคาแค่ 700,000 เหรียญ ซึ่งถูกยิ่งกว่าของ DeepSeek บริษัทจีนที่พลิกโลก AI ด้วยการสร้างโมเดลมาแข่งกับโมเดลของ OpenAI ได้ด้วยต้นทุนแค่เสี้ยวเดียว “DeepSeek ทำเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพให้ดูเท่ แต่ Writer จับงานนี้มาหลายปีแล้ว” Rob Toews กรรมการของ Writer และหุ้นส่วนของบริษัทร่วมลงทุน Radical Ventures จากเมือง Toronto กล่าว
บริษัทนี้เป็นหนึ่งในนักลงทุนของ Writer ด้วย แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เชื่อมั่น ผู้เชี่ยวชาญส่วนหนึ่งในอุตสาหกรรมนี้ยังไม่มั่นใจว่าโมเดลของ Writer ที่ตัวเล็กกว่าจะไล่กวดพวกยักษ์ใหญ่ทัน ถ้าดูในตารางจัดอันดับยอดนิยมหลายตารางซึ่งประเมินโมเดล AI โดยดูว่าสามารถตอบคำถามจำนวนมากได้ดีแค่ไหน
จะเห็นว่า Writer ยังตามหลังพวกยักษ์ใหญ่สาย AI อย่าง OpenAI กับ Anthropic ซึ่งมีรายได้หลักพันหลักหมื่นล้านเหรียญ OpenAI มีลูกค้าที่จ่ายค่าบริการเพื่อใช้ ChatGPT Enterprise 1 ล้านราย ส่วน Anthropic รายงานตัวเลขคาดการณ์ว่า บริษัทจะมีรายได้เพิ่มเป็น 3.45 หมื่นล้านเหรียญภายในปี 2027 ซึ่ง 2 ใน 3 จะมาจากผู้ใช้งานที่เป็นองค์กร “Writer มีจุดแข็งสำคัญคือ ขยันป่าวประกาศเรื่องงานที่ตัวเองทำได้ แต่ผมมองว่าความท้าทายคือ ต้องแน่ใจนะว่าเทคโนโลยีของบริษัททำได้ตามนั้นจริง” นักร่วมลงทุนรายหนึ่งที่ลงทุนในบริษัทAI สำหรับงานองค์กรรายอื่นๆ กล่าว
Habib เชื่อว่าบริษัทของเธอทำได้ บริษัทต่างๆ สนใจแรงม้าในโลกจริงมากกว่าการแข่งม้าวัดฝีเท้าในสนาม และเมื่อรายชื่อลูกค้าของ Writer มีบริษัทระดับบลูชิปอย่าง Accenture, Hilton, Spotify และ Qualcomm รวมอยู่ด้วย นักลงทุนจึงยินดีจะวางเดิมพันกับเธอต่อไป “เธอวิ่งทะลุกำแพงและทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ให้เกิดขึ้นจริง” Toews กล่าว แม้แต่นักร่วมลงทุนที่ไม่ได้ร่วมลงทุนในรอบล่าสุดก็ยังพูดถึงเธออย่างชื่นชม “เธอเป็นคนประเภทที่มีพลังเหลือล้น” นักลงทุนคนหนึ่งกล่าว
Habib กล่าวว่า เธอมีความเป็นผู้ประกอบการอยู่ในสายเลือด เธอโตในหมู่บ้านเล็กๆ แถบชายแดนเลบานอนและซีเรียที่ยับเยินเพราะสงคราม พ่อของเธอมีโรงงานผลิตเครื่องมือเฉพาะทาง ส่วนแม่ทำงานที่ร้านอบขนมปังพิต้า Habib ซึ่งเป็นลูกคนโตในบรรดาลูก 8 คนช่วยครอบครัวจัดการสมุดเช็คมาตั้งแต่ 9 ขวบ ครอบครัวของเธอหนีสงครามกลางเมืองไปอยู่แคนาดาในปี 1990 แล้วต่อมา Habib ซึ่งเป็นคนเดียวในบ้านที่พูดภาษาอังกฤษได้ในตอนนั้นก็เรียนจนจบปริญญาตรีจาก Harvard เมื่อปี 2007 ในสาขาเศรษฐศาสตร์และวิชาโทภาษาตะวันออก
ช่วงที่เธอทำงานเป็นวาณิชธนากรในเมือง Dubai เธอได้พบกับ Alshikh วัย 40 ปี ซึ่งเป็นผู้บริหารสายเทคโนโลยีชาวซีเรียที่เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองเพื่อจะได้หัดเขียนโปรแกรม Alshikh เล่าว่า บริษัทแรกของเขาซึ่งทำธุรกิจแปลงภาพถ่ายดาวเทียมเป็นแผนที่ดิจิทัลสำหรับรถยนต์ถูกรัฐบาลซีเรียเข้าครอบงำกิจการเพราะรัฐบาลคิดว่าเขาไม่ “รักชาติ” มากพอ และเขาอ้างว่า เขาแก้เผ็ดด้วยการเจาะระบบเซิร์ฟเวอร์ของรัฐบาลเพื่อตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตในประเทศ
2 คนนี้เปิดบริษัทที่เป็นจุดเริ่มต้นของ Writer คือ บริษัทใช้คอมพิวเตอร์แปลภาษาชื่อ Qordoba ในปี 2015 ก่อนจะเปลี่ยนแนวทางมาสร้าง AI ที่ผลิตคอนเทนต์เองได้ในสไตล์และโทนที่บริษัทลูกค้าต้องการ โดยเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Writer ในปี 2020 Twitter เป็นหนึ่งในลูกค้ารายแรกๆ ที่ใช้ระบบของ Writer ช่วยเขียนบล็อกโพสต์เยอะๆ (หลังจาก Elon Musk ซื้อกิจการ Twitter ในปี 2022 เขาหยุดจ่ายค่าบริการ จน Writer ต้องฟ้องร้องและได้เงินมา 95% ของยอดค้างชำระในที่สุด Twitter ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น X ไม่ตอบคำถามในเรื่องนี้)
Habib พูดติดตลกว่า Writer ต้องวิวัฒนาการบริษัทให้ต่างไปจากเดิมทุก 4-6 เดือนเพื่อจะได้ไม่ตกยุค “เราคือ Eras Tour แห่งวงการ generative AI” เธอเปรียบบริษัทตัวเองกับการทัวร์คอนเสิร์ตที่รวบรวมผลงานตลอดชีวิตศิลปินของ Taylor Swift “เราช่วยเร่งการเปลี่ยนแปลงให้บริษัทที่ไม่รู้จะทำเองยังไง”
ถ้าอย่างนั้นการที่ Writer จะก้าวสู่ขั้นต่อไปด้วยการใช้ AI ในแนวทางใหม่ที่ต่างจากเดิมไปเลยก็เหมาะสมแล้ว ซึ่ง Alshikh เรียกว่า มันคือ “การวิวัฒนาการด้วยตัวเอง” ทีมของเขากำลังสร้างโมเดล AI ที่เรียนรู้จากข้อผิดพลาดได้เองโดยไม่ต้องให้มนุษย์ช่วยแก้ไข “มันเหมือนคุณจ้างคนฉลาดไว้ในบริษัท” เขากล่าว “คุณคาดหวังได้ว่าเมื่ออยู่ไปเรื่อยๆ พวกเขาก็จะรู้เยอะขึ้นและเรียนมากขึ้น”
เรื่องนี้ทำให้ Habib มองเห็นความเป็นไปได้ใหม่ๆ และอดใจรอไม่ไหวที่จะได้เข้าห้องประชุมกับลูกค้าเพื่อช่วยกันคิดวิธีใช้งาน “แม้แต่ทุกวันนี้ทีมเราก็รู้ดีว่าไวท์บอร์ดยังจำเป็น” เธอกล่าว “ถ้าฉันจะช่วยลูกค้าคิดหรือสร้างสรรค์อะไรก็ต้องพยายามนึกภาพสิ่งที่ไม่มีตัวตนไปด้วย”
เรื่อง: RASHI SHRIVASTAVA และ KATHARINE SCHWAB เรียบเรียง: ธรรดร โสตถิอำรุง
ภาพ: GUERIN BLASK
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : Miles Lewis ได้เวลาเคี้ยว Apple
