MindsDB เร่งพัฒนา AI ระดมทุนเพิ่ม 16.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ - Forbes Thailand

MindsDB เร่งพัฒนา AI ระดมทุนเพิ่ม 16.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

FORBES THAILAND / ADMIN
11 Feb 0023 | 11:50 AM
READ 730

แม้ Bill Gates จะออกมาประกาศถึงความสำคัญของเทคโนโลยีในยุคปัจจุบันที่ไม่ต่างจากการถือกําเนิดของเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีแบบตั้งต๊ะในยุคแรก แต่ทว่าทาง Benchmark ซึ่งถือเป็น 1 ในบริษัทผู้ร่วมทุนรายใหญ่จาก Silicon Valley กลับให้มุมมองที่ค่อนข้างระมัดระวังเกี่ยวกับยุคตื่นทองของระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ขณะนี้

    Chetan Puttagunta ผู้ดำรงตำแหน่ง General Partner ของ Benchmark เผยว่า กลุ่มสตาร์ทอัพส่วนใหญ่ที่เสนอขายไอเดียเพื่อการระดมทุนแก่เหล่าพันธมิตรหรือนักลงทุนมักอ้างว่ากําลังศึกษาเกี่ยวกับเรื่องของระบบ machine learning 

    แต่ในขณะเดียวกันนั้น Puttagunta ยังบอกกับ Forbes ด้วยว่า พวกเขาส่วนใหญ่กลับไม่สามารถสร้างความแตกต่างที่โดดเด่นจากคู่แข่งที่มีอยู่ในตลาดจํานวนมากได้


1 ข้อยกเว้นที่เกิดขึ้นได้น้อยมาก

    MindsDB บริษัทสตาร์ทอัพใน San Francisco Bay Area ได้ช่วยนักพัฒนาระบบสร้างแอปพลิเคชัน AI แม้ว่าจะขาดความเชี่ยวชาญด้าน AI  ได้ประกาศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า เขาได้รับการสนับสนุนหลักจาก Benchmark เป็นจำนวน 16.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในการระดมทุนรอบ Series A โดยมี Puttagunta เข้าร่วมเป็น 1 ในคณะกรรมการบริหาร ซึ่งในรอบนี้มีการประเมินมูลค่าบริษัทอยู่ที่ 56 ล้านเหรียญ

    ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอ Jorge Torres กําลังเดิมพันว่าช่วงเวลาของ AI ในการเปลี่ยนแปลงโลกธุรกิจได้มาถึงแล้ว "ฉันคิดว่านี่จะเป็นช่วงเวลาแห่งการเกิดใหม่ของแอปพลิเคชันรุ่นใหม่" นับตั้งแต่อีเมลไปจนถึงระบบ CRM ในการดูแลข้อมูลลูกค้าสัมพันธ์ "โดยการออกแบบดีไซน์ของเราจะคำนึงถึงความสามารถด้านต่างๆ ของ AI เป็นหลัก” Torres กล่าวกับ Forbes

    ทั้งนี้ ในอดีตที่่ผ่านมาบริษัทต่างๆ ต้องการให้ทีมข้อมูลของเขาจัดการกับงานที่ใช้เวลานานในการเชื่อมต่อระหว่างข้อมูลทางธุรกิจ (ที่เก็บไว้ในฐานข้อมูล) รวมถึงระบบเทคโนโลยี machine learning ยกตัวอย่าง เช่น แอปพลิเคชันที่ตรวจจับการฉ้อโกงหรือคาดการณ์ผลลัพธ์ด้านสุขภาพของผู้ป่วย ซึ่งทาง MindsDB ต้องการแทรกฟังก์ชัน AI ลงไปในฐานข้อมูลโดยตรงเพื่อให้เหล่านักพัฒนาระบบสามารถทํางานได้ง่ายด้วยตนเอง

    Torres เปิดตัว MindsDB ในปี 2017 ร่วมกับ Adam Carrigan ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของบริษัท โดยพวกเขารู้จักกันตั้งแต่ตอนเป็นนักศึกษาที่ Australian National University 

    ทั้งคู่เริ่มสร้าง MindsDB ในรูปแบบ Open-Source หรือระบบซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาให้เข้าถึงได้ทุกคน และยังสามารถดัดแปลง แก้ไขระบบซอฟต์แวร์ดังกล่าวได้ หลังจากนั้นจึงได้เปิดตัวระบบซอฟต์แวร์แบบให้บริการผ่านการชำระเงินในช่วงปลายปี 2020 และในปี 2021 บริษัทสตาร์ทอัพอย่าง MindsDB ยังมีชื่อติดอยู่ในโผรายงานประจำปีของ Forbes ที่จัดทำรายชื่อ “50 บริษัทผู้สร้างระบบ AI ที่น่าจับตา” อีกด้วย

Jorge Torres (CEO) และ Adam Carrigan (COO) 2 หนุ่มผู้ก่อตั้ง MindsDB

    ในระหว่างที่ MindsDB พยายามสร้างแรงดึงดูดใจให้แก่เหล่านักพัฒนาระบบแม้พวกเขาจะยังไม่เห็นว่าซอฟต์แวร์ดังกล่าวจะมีความสำคัญต่อธุรกิจมากนัก แต่ทว่า ณ ตอนนี้ Torres กล่าวว่า มีจำนวน 20 บริษัทแล้วที่สนใจเตรียมควักกระเป๋าจ่ายเงินให้กับเวอร์ชั่นที่ต้องจ่ายค่าบริการ 

    แนวทางดังกล่าวก็ดำเนินการเช่นเดียวกับสตาร์ทอัพส่วนใหญ่รายอื่นๆ ทั่วไป ที่เริ่มต้นธุรกิจในแบบไม่คิดเงินหลังจากนั้นจึงค่อยๆ ขยับขึ้นมาหารายได้เชิงพาณิชย์มากขึ้นเนื่องจากรายได้ของบริษัทต่อปียังแตะไม่ถึง 1 ล้านเหรียญ Carrigan กล่าว

    เมื่อระบบ AI โมเดลใหม่ทยอยออกมาล้นตลาดโดยเฉพาะอย่างยิ่งกระแสความร้อนแรงของ GPT-3 ที่ทุกคนสามารถทดลองใช้ได้ Puttagunta ได้ให้ความเห็นว่า MindsDB จะได้ประโยชน์จากกรณีดังกล่าว เพราะจากเดิมที่เหล่านักพัฒนาระบบต้องคอยพูดกับเจ้านายว่า “เราจําเป็นต้องใช้ระบบ machine learning” ก็จะกลายเป็นตอนนี้เหล่าบรรดาเจ้านายในหลายๆ ลำดับขั้นของพวกเขากําลังพูดว่า 'ฉันได้เห็นการสาธิตที่ยอดเยี่ยมนี้แล้ว บริษัทเราจะไม่ลองใช้ระบบดังกล่าวสักหน่อยหรือ" 

    ดังนั้นคุณจึงไม่จําเป็นต้องเสียเวลาโน้มน้าวใจให้เหล่าเจ้านายหรือผู้บริหารในหลายลำดับขั้นเข้าใจถึงประโยชน์ของการใช้ระบบเทคโนโลยี Machine Learning อีกต่อไป"

    Puttagunta ยังกล่าวเสริมด้วยว่า “ถึงแม้บริษัทของคุณจะมีขนาดใหญ่ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะจ้างทีมนักวิทยาศาสตร์ด้านข้อมูลได้ทันทีถึง 1,000 คน ภายในวันพรุ่งนี้” สำหรับกรณีที่ทีมข้อมูลต้องประสบกับปัญหาไม่สามารถติดตามปริมาณงานที่จำเป็นในการเชื่อมต่อกับระบบ AI ต่างๆ เข้ากับฐานข้อมูลได้อีกต่อไป

Chetan Puttagunta ผู้ดำรงตำแหน่ง General Partner ของ Benchmark

    ด้านผู้ก่อตั้ง MindsDB ให้ความเห็นว่า ระบบ AI ที่เขาคิดค้นขึ้นจะช่วยเติมเต็มปัญหาช่องว่างดังกล่าวได้ “เราเชื่อมั่นว่าเหล่านักพัฒนาระบบจะทำงานเสมือนเป็นวิศวกรด้าน Machine Learning คนต่อไปได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องเรียกตัวเองว่าเป็นวิศวกรด้าน Machine Learning เลย” Torres กล่าว

    บริษัทผู้ร่วมทุน Benchmark เชื่อมั่นว่าบริษัทสตาร์ทอัพ อย่าง MindsDB ที่โดดเด่นในเรื่องของพื้นที่ข้อมูลที่มีการผสมผสานระหว่างฐานข้อมูลที่รวมกันเป็นกลุ่มอย่างเป็นระบบในรูปแบบ Array และระบบ AI มากกว่า 70 รายการ รวมถึงสตาร์ทอัพอย่าง Hugging Face ที่เพิ่งประกาศตัวไปล่าสุดด้วยระบบฐานข้อมูลแบบ open-source และ OpenAI ที่เพิ่งจะเปิดตัว GPT-3 และ DALL-E ไปได้ไม่นาน 

    “พวกเขามองเห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ และในตอนนี้เทคโนโลยีก็มีการปรับปรุงการทำงานให้ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” Puttagunta กล่าว ซึ่งสามารถเปรียบเปรยได้ว่า ในยุคเริ่มต้นของ MindsDB ก็เหมือนกับยุคเริ่มต้น 5 ปีแรกของเว็บไซต์ Amazon ที่ค่อยๆ สั่งสมความได้เปรียบของระบบอย่างเงียบๆ หลังจากนั้นการประมวลผลของระบบคลาวด์จึงได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม 

    Benchmark และ MindsDB ได้ตกลงระดมทุนร่วมกันเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เนื่องจากกระแสการนำเทคโนโลยีมาใช้ในองค์กรต่างๆ เริ่มแพร่ขยายเป็นวงกว้าง การอัดฉีดเม็ดเงินจึงเกิดขึ้นเพื่อกระตุ้นการพัฒนาระบบให้บริการได้ดียิ่งขึ้นในเชิงพาณิชย์ Carrigan กล่าว

    ปัจจุบัน MindsDB มีพนักงานทั้งสิ้น 22 ราย พร้อมตั้งเป้าว่าจะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นภายในสิ้นปี 2023 นี้เป็น 40 ราย นอกจากนี้ Carrigan ยังกล่าวเสริมด้วยว่า มีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งที่เราจะได้ร่วมงานกับเหล่าลูกค้าบริษัทใหญ่ๆ แบรนด์ดัง อาทิ ธนาคารชั้นนำระดับ top 5 และหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ที่สุดของโลก 

    “พวกเขาอาจมีวิศวกร Machine Learning จำนวน 300 คน แต่มีนักพัฒนาระบบจำนวน 10,000 คน ซึ่งหลังจากนี้นักพัฒนาระบบเหล่านั้นสามารถทํางานด้าน Machine Learning เสมือนเหล่าวิศวกรได้เช่นกัน"

    อย่างไรก็ตาม MindsDB ยังต้องการสร้างจุดดึงดูดกลุ่มลูกค้าใหม่รายเล็กๆ ด้วยการใช้แพลตฟอร์ม Salesforce ในการบริหารจัดการของฐานข้อมูลลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) 

“ผมไม่อยากบอกว่าแพลตฟอร์ม Salesforce กำลังจะจบลง แต่ผมรับประกันได้เลยว่าในอีกหนึ่งหรือสองปีข้างหน้าจะมีกลุ่มคนวัยรุ่น 100 คน ที่ทํางานอยู่นอกโรงรถด้วยแนวทาง CRM ที่ออกแบบมาตั้งแต่ต้นด้วยระบบ AI" Torres กล่าว


แปลและเรียบเรียงโดย กนกวรรณ มณีแสงสาคร จากบทความ Startup MindsDB Raises $16.5 Million To Power The AI Race In The Workplace ซึ่งเผยแพร่บน forbes.com


อ่านเพิ่มเติม: David Tran จากผู้อพยพสู่มหาเศรษฐีซอสพริกพันล้านชาวเวียดนามคนแรกของอเมริกา


ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine