จากปัญหาค่าธรรมเนียม สู่ฟินเทคมูลค่า 6.2 พันล้านเหรียญ เส้นทางเดิมพันของ Lucy Liu ผู้พา Airwallex ขึ้นแท่นสตาร์ทอัพมาแรง!

จากปัญหาค่าธรรมเนียม สู่ฟินเทคมูลค่า 6.2 พันล้านเหรียญ เส้นทางเดิมพันของ Lucy Liu ผู้พา Airwallex ขึ้นแท่นสตาร์ทอัพมาแรง!

FORBES THAILAND / ADMIN
09 Dec 2025 | 08:36 AM
READ 639

หนึ่งในบริษัทฟินเทคที่ร้อนแรงที่สุดจากออสเตรเลีย Airwallex ระดมทุนได้มากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ จากการระดมทุนล่าสุดโดยมีมูลค่าประเมินอยู่ที่ 6.2 พันล้านเหรียญ ตอนนี้ Lucy Liu ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการใหญ่กำลังเดินหน้าพิชิตพันธกิจที่จะนำพาแพลตฟอร์มการชำระเงินนี้ไปใช้ทั่วทุกมุมโลก


    10 ปีก่อน Lucy Liu กำลังนั่งพูดคุยกับ Jack Zhang และ Max Li ณ ร้านอาหารแห่งหนึ่งในย่านหรูประจำเมืองบนถนน Collins ในบทสนทนาสองเพื่อนร่วมรุ่นจาก University of Melbourne พูดถึงความยุ่งยากและค่าใช้จ่ายที่สูงในการโอนเงินระหว่างประเทศซึ่งเป็นปัญหาที่ Zhang และ Li กำลังเผชิญจากการนำเข้าสินค้ามาใช้ในร้านกาแฟที่พวกเขาเป็นเจ้าของอยู่ในย่าน Docklands เมือง Melbourne แต่ Zhang ก็มีแนวคิดอยู่ในใจในการสร้างแพลตฟอร์มฟินเทคที่จะทำให้การชำระเงินข้ามประเทศมีราคาถูกลง สะดวกและรวดเร็วขึ้น

    เขาต้องการเงินสัก 500,000 เหรียญออสเตรเลีย (ประมาณ 325,000 เหรียญสหรัฐฯ) เพื่อเริ่มต้นแนวคิดของเขา ส่วน Liu ซึ่งเริ่มลงทุนมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย และได้รับการสนับสนุนจากคุณพ่อได้ตัดสินใจที่จะเสี่ยงโดยเสนอเงินให้ถึง 1 ล้านเหรียญออสเตรเลียแทน

    Zhang ถึงกับตกตะลึงเมื่อเงินจำนวนนี้โอนเข้าบัญชีของเขาภายในเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์ “การตัดสินใจที่กล้าหาญครั้งนั้นสะท้อนถึงความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้า (ของ Liu) และมันชัดเจนว่า เธอไม่ได้แค่สนับสนุนความคิดนี้ แต่กำลังสนับสนุนทั้งทีมงานและอนาคตด้วย” เขากล่าว

    Liu หัวเราะเมื่อนึกย้อนไปถึงแผนธุรกิจตอนแรกเริ่ม “มันเป็นเรื่องตลกสิ้นดีเลย” Liu ซึ่งปัจจุบันอายุ 34 ปีกล่าว “แต่โครงสร้างพื้นฐานมันมีอยู่แล้ว” โดยเริ่มจากการชำระเงินแบบ B2B ข้ามพรมแดนที่ทำให้ใช้งานได้ง่ายและขยายไปได้อีก ปัจจุบันเธอเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ของ Airwallex หนึ่งในบริษัทฟินเทคที่ร้อนแรงที่สุดจากออสเตรเลีย มีพนักงานมากกว่า 1,800 คนใน 26 สำนักงานทั่วโลก ให้บริการลูกค้ากว่า 150,000 ราย

    นอกจากบริการโอนเงินระหว่างประเทศความเร็วสูงแล้ว Airwallex ซึ่งชื่อมาจากคำว่า air, wallet และ X (แทนคำว่า exchange) ยังมีบริการบัญชีหลายสกุลเงินระดับโลกและบัตรเครดิตองค์กร รวมถึงระบบจัดการค่าใช้จ่ายและเครื่องมือชำระเงินออนไลน์

    เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา Airwallex ระดมทุนได้ 300 ล้านเหรียญในรอบซีรี่ส์ F บริษัทซึ่งมีสำนักงานใหญ่ ณ สิงคโปร์แห่งนี้ได้รับการประเมินมูลค่าอยู่ที่ 6.2 พันล้านเหรียญ ระบุว่าจะใช้เงินทุนใหม่นี้ในการขยายธุรกิจระหว่างประเทศและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยเฉพาะการผนวก AI เข้าในบริการต่างๆ มากยิ่งขึ้น “ในระยะยาวพวกเราต้องการเป็นอนาคตของการเงินระดับโลก” Liu กล่าว

    บริษัทที่ปรึกษาระดับโลก McKinsey คาดการณ์ว่า รายได้รวมของตลาดการชำระเงินทั่วโลกจะเติบโตปีละ 5% จนแตะ 3.1 ล้านล้านเหรียญภายในปี 2028 Airwallex หวังจะครอบครองส่วนแบ่งก้อนโตจากตลาดนั้น ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาบริษัทมีปริมาณการประมวลผลธุรกรรมรายปีอยู่ที่ 1.3 แสนล้านเหรียญ และมีรายได้ถึง 720 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากปีก่อนหน้า

    Airwallex ระบุว่า บริษัทเริ่มมีกระแสเงินสดเป็นบวกตั้งแต่ปี 2023 และตั้งเป้ารายได้ 1 พันล้านเหรียญภายในปีนี้ วิสัยทัศน์ของ Airwallex คือ โลกที่สถาบันการเงินแบบดั้งเดิมจะถูกแทนที่ด้วยฟินเทคที่คล่องตัวกว่า แข็งแกร่งกว่า และสามารถตรวจจับการฉ้อโกงและการฟอกเงินได้ดีกว่า

    “เราต้องการสร้างโลกที่การเงินเป็นสิ่งที่ฝังอยู่ในระบบ ไร้พรมแดน อัตโนมัติ และราบรื่นเหมือนเทคโนโลยีชั้นนำในปัจจุบัน” Liu กล่าว ปัจจุบันเธอถือหุ้นประมาณ 4% ของบริษัท และมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิราว 248 ล้านเหรียญ


    วิสัยทัศน์นี้เองที่ดึงดูดนักลงทุนเข้ามาอย่างล้นหลาม “Airwallex เป็นบริษัทที่เราเฝ้าจับตามานานแล้ว” Michael Tolo หุ้นส่วนจากบริษัทเงินร่วมลงทุน (VC) ของออสเตรเลีย Blackbird กล่าว โดย Blackbird เข้าร่วมลงทุนในเดือนพฤษภาคม (มูลค่าไม่เปิดเผย) และ Tolo ก็ยอมรับว่าเสียดายที่ไม่ได้เข้าร่วมเร็วกว่านี้ นักลงทุนรายอื่น ได้แก่ Tencent ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีจากจีน Mastercard และบรรดาบริษัทเงินร่วมลงทุนอย่าง HongShan (เดิมชื่อ Sequoia Capital China) และ Square Peg เมื่อถูกถามถึงการเสนอขายหุ้น IPO ทาง Airwallex กล่าวว่า จะพร้อมภายในสิ้นปี 2026 แต่ขณะนี้ยังไม่มีแผนที่ชัดเจน

    ต่างจากนักลงทุนรายอื่น Liu ไม่ได้แค่ให้เงินทุนแก่ฟินเทครายนี้เท่านั้น แต่เธอมีบทบาทสำคัญในการสร้างบริษัทขึ้นมาด้วย ขณะที่ผู้ร่วมก่อตั้งคนอื่นๆ มุ่งเน้นด้านเทคนิคและวิศวกรรม Liu เป็นผู้นำด้านการระดมทุนและบริหารจัดการ (Zhang เป็นซีอีโอ, Li เป็นรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ด้านผลิตภัณฑ์และออกแบบ, Jacob Dai เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี และ Ki Lok Wong เป็นหัวหน้าสถาปนิกระบบ)

    “เราต้องสร้างทีมและจ้างคนเพิ่ม และเรารู้ว่าเราต้องการเงินมากกว่านั้นเพื่อให้เริ่มต้นธุรกิจได้” Liu กล่าว เธอเล่าย้อนไปช่วงนั้นว่า บริษัทเงินร่วมลงทุนในออสเตรเลียมักจะให้เงินสนับสนุนเพียงเล็กน้อยแก่สตาร์ทอัพ ดังนั้น พวกเธอจึงต้องหาทุนจากต่างประเทศเพิ่มเติม

    Square Peg กลายเป็น VC ออสเตรเลียรายแรกที่ให้การสนับสนุนบริษัท โดยลงทุน 6 ล้านเหรียญออสเตรเลียในปี 2017 ผู้ร่วมก่อตั้งและพันธมิตรอย่าง Paul Bassat กล่าวว่า “พวกเขาเป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของผู้ประกอบการประเภทที่เราชื่นชอบและพร้อมสนับสนุน มีความสามารถสูง ฉลาดปราดเปรื่อง มีความรู้ลึกในอุตสาหกรรม ขับเคลื่อนด้วยแรงผลักดัน และต้องการแก้ไขปัญหาระดับโลกที่ใหญ่และแท้จริง” 2 ปีถัดมาบริษัทก็กลายเป็นยูนิคอร์น เมื่อ DST Global นักลงทุนรายใหญ่ที่เคยหนุนหลัง Facebook (ปัจจุบันคือ Meta), Airbnb และ Spotify เข้ามานำการระดมทุนในรอบ 100 ล้านเหรียญ

    การสร้างโครงสร้างพื้นฐานระหว่างประเทศของ Airwallex เกี่ยวข้องกับการขอใบอนุญาตและปฏิบัติตามกฎระเบียบเฉพาะของแต่ละประเทศ ซึ่งเป็นงานที่ Liu และ Zhang ดูแลรับผิดชอบโดยตรง ซึ่งทั้งสองมีความเชื่อมโยงกับความเป็นเอเชียอยู่แล้ว Liu เล่าว่า งานส่วนใหญ่ในช่วง 2-3 ปีแรกเธอทำอยู่บนเครื่องบิน เนื่องจากต้องบินไปมาระหว่างบ้านของเธอที่ Shanghai “ธุรกิจบริการทางการเงินเป็นอุตสาหกรรมที่มีการควบคุมอย่างเข้มงวด เราต้องมีบัญชีธนาคารและเครือข่ายธนาคารในเอเชีย ฉันจึงเริ่มใช้เวลาในฮ่องกงมากขึ้นเพื่อขอใบอนุญาตให้สามารถดำเนินงานได้” Liu กล่าว

    ลูกค้าส่วนใหญ่ของ Airwallex จะได้รับเงินเข้าบัญชีภายในวันเดียวกัน หัวใจสำคัญที่ช่วยเร่งกระบวนการนี้คือ การที่บริษัทใช้ประโยชน์จากสิ่งที่เรียกว่า “ระบบการจ่ายและโครงสร้างพื้นฐานในท้องถิ่น” (local rails) ซึ่งเป็นเครือข่ายที่ได้รับการออกแบบมาสำหรับชำระเงินเฉพาะแต่ละประเทศ เพื่อลดการพึ่งพาระบบ SWIFT ซึ่งเป็นระบบส่งข้อความระดับโลกที่สถาบันการเงินใช้ติดต่อกันเพื่อทำธุรกรรม

    Cory Johnson นักวิเคราะห์ฟินเทคจาก San Francisco กล่าวว่า Airwallex คือ ผลิตภัณฑ์ยุคใหม่สำหรับเศรษฐกิจยุคใหม่ “พวกเขาสร้างระบบการชำระเงินระดับโลกที่ข้ามระบบ SWIFT ไปเลย ซึ่งถือว่าช้า แพง และยังติดอยู่ในยุค 1970” และ “แทนที่จะส่งเงินผ่านธนาคารตัวกลางจำนวนมาก Airwallex เลือกส่งตรงแบบจุดต่อจุด ทำให้ธุรกิจสามารถโอนเงินข้ามพรมแดนได้รวดเร็วขึ้นและราคาถูกลง”

    Scott Farquhar ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทซอฟต์แวร์ของออสเตรเลียอย่าง Atlassian และเจ้าของบริษัทลงทุน Skip Capital ที่ร่วมลงทุนใน Airwallex กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้พลิกโฉมการโอนเงินข้ามประเทศโดยสิ้นเชิง “พวกเขาสร้างประสบการณ์ที่น่าทึ่งให้คนสามารถเข้าถึงการค้าและธนาคารระดับโลกได้ และยังทำสิ่งนี้ได้อย่างยอดเยี่ยมในระดับสากลท่ามกลางการแข่งขันกับยักษ์ใหญ่ตัวจริงในอุตสาหกรรม”

    คู่แข่งเหล่านี้รวมถึง Stripe ยักษ์ใหญ่ด้านการชำระเงินที่มีสำนักงานใหญ่ใน San Francisco และ Dublin ซึ่งมียอดการชำระเงินรวมในปี 2024 สูงถึง 1.4 ล้านล้านเหรียญ (Airwallex เคยปฏิเสธข้อเสนอซื้อกิจการมูลค่า 1.2 พันล้านเหรียญจาก Stripe เมื่อ 7 ปีก่อน) อีกทั้งยังมี Revolut ธนาคารดิจิทัลที่มีสำนักงานใหญ่ใน London ที่ให้บริการบัตรเดบิตเสมือนจริง บัญชีหลายสกุลเงินสำหรับธุรกิจ และเครื่องมือจัดการค่าใช้จ่าย Revolut มีปริมาณธุรกรรมเกือบ 1.3 ล้านล้านเหรียญในปีที่แล้ว

    แม้การแข่งขันจะเข้มข้นขึ้นทุกที แต่ Liu ก็ยังมุ่งมั่นที่จะขยายการดำเนินธุรกิจของ Airwallex ไปในระดับโลกอย่างจริงจัง ถึงขั้นย้ายไปอยู่ที่สิงคโปร์เมื่อต้นปี 2023 ซึ่งเป็นช่วงที่บริษัทตั้งสำนักงานใหญ่ระดับโลกที่นั่น


    Liu กล่าวว่า ตอนนี้บริษัทให้ความสำคัญกับภูมิภาค APAC (เอเชียแปซิฟิก), EMEA (ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา) และอเมริกา โดยมีแผนขยายโครงสร้างพื้นฐานทางการเงิน Airwallex ระบุว่า การควบรวมและเข้าซื้อกิจการ (M&A) คือ กลยุทธ์หลักในการเข้าสู่ตลาดใหม่

    ในเดือนมกราคมบริษัทปิดดีลซื้อกิจการบริษัทประมวลผลการชำระเงิน MexPago ในเม็กซิโก และได้รับใบอนุญาตในบราซิลที่เปิดโอกาสให้บริษัทสามารถให้บริการบัญชีท้องถิ่นออกบัตรและให้บริการอื่นๆ จากนั้นในเดือนมีนาคมบริษัทได้บรรลุข้อตกลงเพื่อเข้าซื้อบริษัทชำระเงิน CTIN Pay ในเวียดนาม

    ภูมิภาค APAC เป็นตลาดที่สำคัญของ Airwallex บริษัทระบุว่ารายได้ในภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัวในไตรมาสแรกของปี 2025 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากได้แรงหนุนจากการเปิดตัวบริการ Airwallex Yield ในออสเตรเลียและฮ่องกง ซึ่งเป็นบริการบริหารสินทรัพย์ที่ให้ลูกค้าสร้างผลตอบแทนจากบัญชีหลายสกุลเงิน รวมถึงการขยายโปรแกรม Airwallex for Start-Ups ที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจเกิดใหม่ที่ไปยังสิงคโปร์ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ บริษัทเปิดสำนักงานแห่งแรกในนิวซีแลนด์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และกำลังจับตามองประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เป็นลำดับถัดไป

    Michael Tolo จาก Blackbird กล่าวว่า Airwallex แสดงให้เห็นถึง “ผลิตภัณฑ์และตลาดที่สอดคล้องกันอย่างแข็งแกร่งในสหราชอาณาจักรและสหรัฐฯ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการขยายตัวในวงกว้างต่อไปในทวีปอเมริกาและยุโรป” เมื่อปีที่แล้ว Airwallex เปิดสำนักงานใน Paris และประกาศหาผู้บริหารระดับอาวุโสใน London และ Amsterdam โดยในระยะยาว บริษัทระบุว่า อาจยื่นขอใบอนุญาตธนาคารในสหราชอาณาจักรและสหรัฐฯ

    Liu ทราบดีว่าภูมิรัฐศาสตร์ทั่วโลกกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แต่เธอกล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินผลกระทบจากมาตรการทางการค้า หรือภาษีที่เปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยๆ ว่าจะส่งผลต่อปริมาณธุรกรรมของ Airwallex อย่างไร “เรากำลังกระจายไปยังตลาดเกิดใหม่เพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงด้านการค้า” เธอกล่าว “ถ้ามีข้อจำกัดเกิดขึ้นในเส้นทางใดเส้นทางหนึ่งเราก็สามารถช่วยลูกค้าเปิดบัญชีในตลาดทางเลือกได้อย่างรวดเร็ว และจัดการการจ่ายเงินให้ซัพพลายเออร์ด้วยสกุลเงินท้องถิ่นได้ทันที”

    McKinsey ระบุว่า การพัฒนาระบบป้องกันการฟอกเงินและการฉ้อโกงคือ หัวใจสำคัญของการสร้างคุณค่าในยุคถัดไปของตลาดการชำระเงิน และนี่คือประเด็นที่ทีมผู้ก่อตั้งของ Airwallex เข้าใจดี Liu เล่าว่า “ครั้งหนึ่งตอน Jack ไปอเมริกาเขาถูกขโมยกระเป๋าไปทั้งใบ รวมถึงบัตรทั้งหมดและโทเค็นธนาคาร” เธอเล่าว่าขโมยเอาบัตรไปรูดซื้อของที่ห้าง Macy’s แม้ว่าบัตรหลายใบจะถูกยกเลิกไปแล้ว แต่บัญชีธนาคารในฮ่องกงใบหนึ่งถูกมองข้าม “เรามารู้ว่ามีการใช้จ่ายเกิดขึ้นเมื่อได้รับใบแจ้งยอดในอีก 2-3 สัปดาห์ต่อมา”

    เหตุการณ์นั้นแสดงให้เห็นว่าระบบธนาคารสำหรับธุรกิจ (B2B) ยังตามหลังภาคผู้บริโภค (B2C) อยู่มาก Liu กล่าวว่า “ถ้าเป็นบัตรเครดิตของผู้บริโภคคุณจะได้รับโทรศัพท์แจ้งทันที และสามารถอายัดและขอออกบัตรใหม่ได้ง่าย แต่สำหรับฝั่งธุรกิจมันไม่เหมือนกันเลย” เหตุการณ์นี้จึงกลายเป็นแรงผลักดันให้ Airwallex ต้องปรับปรุงหลายอย่าง รวมถึงการยกเลิกบัตรที่ทำได้ง่ายขึ้น “ตอนที่เราสร้างผลิตภัณฑ์บัตรของเรา เราทำให้แน่ใจว่าผู้ใช้สามารถล็อกบัตรได้ทันทีผ่านแอป” Liu อธิบาย

    Liu เกิดทางตอนเหนือของประเทศจีน แม่ของเธอเป็นครูอนุบาล ส่วนพ่อเป็นเทรดเดอร์หุ้นและผู้ประกอบการต่อเนื่อง เธอไม่ได้เติบโตมาด้วยความฝันว่าจะเป็นผู้ปฏิวัติแวดวงการธนาคาร “ฉันไม่เคยมีอาชีพในฝันชัดเจน ไม่เคยมีความคิดว่า นี่แหละสิ่งที่ฉันอยากทำจริงๆ” เธอกล่าว “ฉันคิดว่าความฝันมันเปลี่ยนทุกวันเลยด้วยซ้ำ”

    เธอเรียนภาษาอังกฤษในโรงเรียนประถม 2 ภาษาที่ Shanghai ก่อนจะย้ายไปอยู่ที่ Auckland กับครอบครัวตอนอายุ 12 ปี การย้ายประเทศช่วยให้เธอเรียนรู้ความยืดหยุ่นและปรับตัวได้ดี Liu กล่าว ต่อมาเธอเรียนที่ University of Melbourne สำเร็จปริญญาตรี สาขาพาณิชยศาสตร์ สาขาการเงินและบัญชี และต่อด้วยปริญญาโทด้านการเงิน หลังเรียนจบเธอทำงานให้กับทีมบริหารความมั่งคั่งของ Barclays Bank ที่ฮ่องกงก่อนจะไปเป็นที่ปรึกษาด้านการลงทุนที่ Chinese International Capital (CICC) ซึ่งเป็นธนาคารเพื่อการลงทุนที่ Shanghai

    Liu เริ่มลงทุนในตลาดการเงินตั้งแต่อายุ 18 ปี ตามคำแนะนำของคุณพ่อ ราวปี 2013 ตอนที่เธอยังทำงานอยู่กับ CICC เธอเริ่มสนใจเป็นการลงทุนในสตาร์ทอัพขนาดเล็ก “เพราะฉันไม่ใช่นักลงทุนมืออาชีพหรือทำงานในกองทุน VC การเข้าถึงสตาร์ทอัพจึงค่อนข้างจำกัด เลยเริ่มสำรวจไอเดียต่างๆ ด้วยตัวเอง” เธอกล่าว ในปี 2015

    เธอลาออกจาก CICC เพื่อใช้ชีวิตในยุโรปและออสเตรเลีย ตอนที่เธอมาพบกับ Zhang และ Li เธอกำลังตั้งคำถามกับตัวเองว่าควรกลับไปทำงานในองค์กรหรือไม่ “การทำงานในสถาบันการเงินมันซ้ำซาก” Liu กล่าว “ถ้าคุณทำสิ่งนี้ก็จะได้ผลลัพธ์แบบนี้ แล้วคุณก็จะบรรลุเป้าหมายนี้ใช่ไหม จากนั้นมันก็วนลูปซ้ำไปเรื่อยๆ”

    แต่การเดิมพันของเธอกับ Airwallex กลับกลายเป็นโอกาสอันดีเยี่ยมในการเปลี่ยนเส้นทางชีวิตตัวเอง “ถ้าคุณมองว่าการลงทุนเป็นการสร้างบางสิ่งขึ้นมามันก็ไม่ใช่การใช้เงินไปเปล่าๆ หรอก” เธอกล่าว “เบื้องหลังมันคือเหตุผลคนละแบบกันโดยสิ้นเชิง” -รายงานเพิ่มเติมโดย Catherine Wang



เรื่อง: SHIVAUNE FIELD เรียบเรียง: จารุณี แตมสำราญ ภาพ: JUSTIN RIDLER

บทความนี้ดัดแปลงมาจาก Forbes Australia ฉบับที่ได้รับอนุญาตจาก Forbes Media



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : 'Kong Wan Sing' สร้าง JustCo ออฟฟิศยืดหยุ่นเจาะทุกตลาด

อ่านเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2568 ในรูปแบบ e-magazine