กว่าจะเป็นแบรนด์ความงามระดับโลกไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ Sunnies Face แบรนด์เครื่องสำอางจากฟิลิปปินส์ สามารถก้าวขึ้นมาคว้าตำแหน่งนั้นได้ภายในเวลาข้ามคืน
เมื่อตอนที่เปิดตัวแบรนด์ในประเทศฟิลิปปินส์ เว็บไซต์ Sunnies Face ก็ล่มก่อนที่ยอดผู้เข้าชมจะแตะ 3 ล้าน และผลิตภัณฑ์ที่วางขายในงานปาร์ตี้เปิดตัวก็ขายเกลี้ยงภายใน 10 นาที โดยผลิตภัณฑ์ตัวชูโรงของพวกเขาคือ Fluffmatte ลิปสติกเนื้อแมตต์ที่ขายไปเกือบ 3 ล้านแท่ง โดยขายได้ 1 แท่งทุกๆ 30 วินาที จนกลายเป็นลิปสติกที่ขายดีที่สุดในฟิลิปปินส์
แบรนด์เครื่องสำอางนี้เกิดมาจากแบรนด์ไลฟ์สไตล์ Sunnies Studios ซึ่งเป็นธุรกิจแว่นตา และธุรกิจอาหาร Sunnies Cafe ก่อตั้งโดย Jessica Wilson ผู้นั่งตำแหน่ง Brand Manager, Creative Director สาว Martine Ho และ Brand Director คนเก่ง Georgina Wilson โดยแบรนด์เครื่องสำอางจากฟิลิปปินส์นี้ก็สามารถผลักธุรกิจความงามจากเอเชียอาคเนย์ให้กลายเป็นผู้เข้าแข่งขันแนวหน้าในเวทีความงามโลก และในวันนี้พวกเขาก็กำลังเดินหน้าบุกตลาดสหรัฐฯ
ความงามที่เข้าใจชาวอาเซียน
“เมื่อไรก็ตามที่เราจะเปิดตัวแคมเปญ ทุกคนจะถามว่า พวกนางแบบทาลิปสติกสีอะไร” Georgina Wilson กล่าว “เราคลั่งไคล้ในการร่วมมือทำงานกับช่างแต่งหน้าในการผสมสีต่างๆ เข้าด้วยกันเพื่อให้ได้สีที่ใช่กันสุดๆ อีก 5 ปีต่อมา เราก็เปิดตัว Sunnies Face เราอยากสร้างผลิตภัณฑ์ที่จะทำให้การแต่งหน้าเป็นเรื่องง่าย ไม่ยุ่งยากสำหรับพวกพ้องชาวฟิลิปปินส์ทั้งหลาย”
Georgina Wilson กล่าวต่อว่า “นานมากแล้วที่พวกเราสังเกตเห็นคนจำนวนมากในชีวิตเราทาลิปสติกที่สีไม่เข้าซึ่งเป็นสีที่ขายดีระดับโลกด้วยนะ แต่มันดันไม่เข้ากับสีผิวของพวกเรา เราอยากจะทำแบรนด์ความงามที่สร้างมาเพื่อเชื้อสายเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเราๆ ซึ่งถูกธุรกิจความงามในวงกว้างมองข้ามมานานแสนนาน”
เมื่อปี 2018 ที่ทางแบรนด์เปิดตัวในฟิลิปปินส์ พวกเขาก็มาพร้อมกับ tagline ที่ว่า “we are beauty that gets you.” หรือ “เราคือความงามที่เข้าใจคุณ” โดย Georgina Wilson เชื่อว่าข้อความสั้นๆ นั้นตรงใจใครหลายคน และเป็นเบื้องหลังความสำเร็จของพวกเธอ
“เมื่อตอนเรารังสรรค์ผลิตภัณฑ์ของเรา เราคิดว่าเราจะทำอย่างไรให้ชีวิตผู้คนมันง่ายขึ้นโดยที่ไม่ต้องแลกกับการเสียคุณภาพและดีไซน์” เธอกล่าว “เราออกแบบผลิตภัณฑ์ของเราให้ใช้ง่าย โดยมีเป้าหมายคือการยกระดับความงามในทุกๆ วัน”
หลักปรัชญาของแบรนด์ก็ตรงไปตรงมา “‘ความงามที่เข้าใจคุณ’ มันไม่ซับซ้อน” Jessica Wilson กล่าว “เราคือคุณ เราคือลูกค้า เราใช้เวลาหลายปีออกกองถ่ายแคมเปญในขณะที่เราเองก็นั่งอยู่ที่เก้าอี้แล้วโดนแต่งหน้า อีกทั้งได้เรียนรู้เกี่ยวกับการแต่งหน้า รวมไปถึงขั้นตอนวิธีแต่งหน้าต่างๆ ที่ง่ายและไม่ง่ายเลย และเราก็อยากที่จะสร้างอะไรสักอย่างที่จะทำให้การแต่งหน้าในแต่ละวันของทุกคนง่ายขึ้น โดยไม่ต้องแลกกับคุณภาพ”
พวกเขาเปิดตัวมาด้วยผลิตภัณฑ์เพียงชิ้นเดียว นั่นก็คือ Fluffmatte 9 เฉดสี “Fluffmatte เบาสบาย เป็นลิปสติกแมตต์สมัยใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีโครงสร้างไหมเพื่อมอบความรู้สึกเหมือนผิวให้กับคุณ” Jessica Wilson กล่าว
“แต่ละเฉดถูกออกแบบมาให้เข้ากับทุกคน และสามารถทาได้ง่ายๆ เพียงปาดครั้งเดียว ลิปสติกเนื้อเนียนนุ่มของ Fluffmatte เกลี่ยง่าย แล้วก็ไม่หนักปากอีกด้วย อีกทั้งมันยังสามารถใช้ทาตากับแก้มได้อีกต่างหาก!” พวกเขาลองสีกันมามากกว่า 350 สีกว่าจะคัดเลือกให้เหลือ 9 เฉดสีสุดสมบูรณ์แบบที่สุด เพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนบนโลกนี้จะสามารถทาทุกสีได้
“Sunnies Face คือความสวยแบบไม่พยายาม” Georgina Wilson กล่าว “มันคือการทาสีปากแบบง่ายๆ การแต้ม Airblush ไปตามโหนกแก้มของคุณ เพื่อให้คุณรู้สึกพร้อมในแต่ละวัน มันไม่ซับซ้อนเกินไป แต่มันก็ทำให้คุณมั่นใจไปได้ทั้งวัน”
สาวๆ ผู้ก่อตั้งหวังว่าการเปิดตัวในสหรัฐอเมริกาจะช่วยให้ธุรกิจความงามแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นที่พูดถึงในระดับนานาชาติมากขึ้น “ประเทศฟิลิปปินส์คือหม้อหลอมวัฒนธรรมอันหลากหลายอันเนื่องมาจากประวัติศาสตร์อันยาวนานของเรา” Jessica Wilson กล่าว “ถึงแม้จะปฎิเสธไม่ได้ว่ามีอิทธิพลอเมริกันอยู่อย่างมาก เรารู้ว่ามันถึงเวลาแล้วที่ความงามแบบฟิลิปปินส์จะได้ไปเฉิดฉายบนเวทีโลก”
แบรนด์ความงามฟิลิปปินส์นี้ เฉลิมฉลองในวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นและเชื้อสายของพวกเขามาตลอด “ตั้งแต่นางแบบของเรา จนไปถึงเฉดสีที่เรามี หรือแม้กระทั้งฝ่ายสร้างสรรค์เบื้องหลังรูปแคมเปญ คอมมิวนิตี้ชาวฟิลิปปินส์ก็มาต้องก่อนเสมอ” Ho กล่าว “สำหรับเรา มันสำคัญมากที่จะเป็นตัวแทนประเทศของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนนี้ที่เรากำลังขยายตัวออกนอกเอเชีย และเราหวังว่าจะสามารถเกลี่ยทางช่วยให้ธุรกิจและผลิตภัณฑ์ความงามฟิลิปปินส์เป็นที่รู้จักให้ได้”
ความงามที่เข้าใจโลก
ในด้านความพยายามช่วยเหลือโลกใบนี้ ทางแบรนด์ก็ได้ร่วมทีมกับ 1% for the Planet องค์กรระดับโลกที่เหล่าสมาชิกพร้อมมอบอย่างน้อยๆ ร้อยละ 1 จากยอดขายรายปีเพื่อช่วยเหลือสิ่งแวดล้อม
“เราร่วมมือกับพวกเขาเพราะเราเชื่อในภารกิจของพวกเขาในการ ‘สร้าง สนับสนุน และกระตุ้นให้เกิดพันธมิตรทางธุรกิจที่มีพันธะสัญญาทางการเงินว่าจะช่วยสร้างโลกที่แข็งแรง’” Georgina Wilson กล่าว
เราได้แรงบันดาลใจจากแนวคิดของพวกเขาในการตั้งเป้าในการขายและมอบทรัพยากรที่นำมาใช้คืนสู่สิ่งแวดล้อม เรายังเชื่อในองค์กรต่างๆ ที่พวกเขาร่วมงานด้วยอีกด้วย และเราเองก็คอยเลือกร่วมงานกับองค์กรไม่แสวงกำไรจากเอเชียด้วย โดยเฉพาะองค์กรที่มาจากฟิลิปปินส์”
ความงามที่พร้อมบุกตลาดสหรัฐฯ
นับตั้งแต่วันที่เปิดตัวในฟิลิปปินส์ ทางผู้ก่อตั้งทั้ง 3 ก็ได้รับคำเรียกร้องให้นำแบรนด์สุดฮิตนี้มายังสหรัฐฯ เป็นจำนวนนับไม่ถ้วน “เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของคอมมิวนิตี้ชาวฟิลิปปินส์ที่แข็งแกร่งซึ่งคอยสนับสนุนในสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ในทั่วทุกมุมโลก” Ho กล่าว “ตอนที่เราสร้าง Sunnies Face เราก็มีความตั้งใจว่าจะพาแบรนด์ไประดับโลก และจะกลายเป็นแบรนด์ที่หลายๆ คน สามารถเข้าถึงและสนุกไปกับมันได้”
พวกเขาได้เรียกตัว SuperOrdinary พาร์ตเนอร์ด้านการขยายแบรนด์ระดับโลก และผู้แทนจำหน่ายแบรนด์ความงามจำนวนมากทาง omnichannel ซึ่งยังเป็นผู้ถือสิทธิพิเศษในการจำหน่ายแบรนด์นี้ในจีนเพียงผู้เดียว ให้มาเป็นผู้ช่วยเหลือในการก้าวเข้าสู่ และจัดการแบรนด์ในตลาดสหรัฐฯ
“ในฐานะผู้ก่อตั้ง เราเข้าไปมีส่วนร่วมและใส่ใจกับการดำเนินการวันต่อวันของแบรนด์เรามาก ในขณะที่เราก็ต้องจัดการชีวิตครอบครัวในบ้านของเราไปด้วย” Georgina Wilson กล่าว “การขยายตัวสู่สหรัฐฯ เป็นโปรเจ็กต์ใหญ่ และเราต้องการคำชี้แนะและการสนับสนุนเพิ่มเติมตรงนั้นอย่างมาก โดย SuperOrdinary ทำให้เรารู้สึกสบายใจว่า พวกเขาคือบริษัทที่จะสามารถมีกลยุทธ์เปิดตัวใหม่ตลาดใหม่เอี่ยมนี้แบบ 360 ให้เราได้จริงๆ”
SuperOrdinary จะเป็นผู้จัดการเรื่องการลงทะเบียนผลิตภัณฑ์, การวางแผนอุปสงค์, การตลาด, การสื่อสาร, ซัพพลายเชน,คลังสินค้า, การค้า และกลยุทธ์การตลาดของทางแบรนด์ในสหรัฐฯ “ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Sunnies Face ได้สร้างฐานแฟนๆ ผู้คลั่งไคล้ในตลาดเอเชีย ซึ่งเป็นตัวผลักให้เกิดความต้องการในแบรนด์ในสหรัฐฯ อย่างมาก” Julian Reis ผู้ก่อตั้งและซีอีโอแห่ง SuperOrdinary กล่าว
“เห็นแล้วก็รู้เลยว่า Sunnies Face กำลังมาเติมเต็มช่องว่างในตลาดความงามด้วยผลิตภัณฑ์หรูหรา ราคาเอื้อมถึง และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่รังสรรค์ขึ้นมาอย่างพิถีพิถัน นอกจากนี้ ฐานลูกค้าแฟนๆ ตัวยงของทางแบรนด์ก็ตัวชี้บอกในตัวมันเองแล้ว เราได้พัฒนากลยุทธ์ go-to-market ที่ครอบคลุมทุกอย่าง เพื่อที่จะสามารถตอบสนองความต้องการตรงนั้น และแนะนำแบรนด์อันเป็นที่รักนี้ให้แก่ลูกค้ารายใหม่ๆ ทั่วโลกด้วย” Reis กล่าวต่อ
ทางแบรนด์จะใช้โมเดลแบบ direct-to-consumer ในสหรัฐอเมริกา ต่างจากในจีนที่ทางแบรนด์วางขายบนตลาดอย่าง TMALL และ Little Red Book “ในขณะที่แบรนด์สหรัฐฯ ยังสามารถถูกค้นพบได้จากช่องทางทางโซเซียลอย่าง Instagram โดยตรงนั้นก็จะผลักคนเข้ามายังหน้าเว็บไซต์ต่อ” Reis อธิบาย
“เราจะให้ความสำคัญกับ direct-to-consumer ในสหรัฐฯ เพื่อที่เราได้มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าลูกค้าของเราคือใคร และสร้างคอมมิวนิตี้นั้นขึ้นมาก่อนที่จะขยายตัวทางรีเทลอย่างรอบคอบในปีต่อๆ ไป” เขาเสริมด้วยว่า ความท้าทายในการนำแบรนด์เอเชียเข้าตลาดสหรัฐฯ คือค่าใช้จ่ายด้านการตลาดและการหาลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
เนื่องจากความต้องการในแบรนด์นี้ในตลาดสหรัฐฯ นั้นมันสูงอยู่แล้ว การที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์ของเราสามารถเข้าถึงได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้จริงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเรา” เขากล่าว
สุดท้ายแล้ว นี่ก็เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของแบรนด์จากฟิลิปปินส์แบรนด์นี้ พวกเขามีผลิตภัณฑ์พร้อมเปิดตัวอีกมากตลอดทั้งปี 2022 นี้ “เรากำลังผลิตสินค้าใหม่ๆ เยอะเลย และแน่นอนว่าการขยายตัวระดับโลกก็เป็นเป้าหมายใหญ่สำหรับเรา” Jessica Wilson กล่าว “เรารอวันที่ทุกคนจะสามารถเข้าถึง Sunnies Face ได้ไม่ไหวแล้วล่ะ”
บทความแปลและเรียบเรียงจากบทความ Cult-Favorite Filipina Beauty Brand Sunnies Face Lands In The U.S. เผยแพร่บน Forbes.com
อ่านเพิ่มเติม: เจาะ "ตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมในจีน" อันหรูหรามาแรง
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine