Ryan Petersen ซีอีโอแห่ง ‘Flexport’ ส่งความคาดหวังข้ามทะเล - Forbes Thailand

Ryan Petersen ซีอีโอแห่ง ‘Flexport’ ส่งความคาดหวังข้ามทะเล

FORBES THAILAND / ADMIN
05 Jul 2022 | 08:00 PM
READ 1416

เมื่อปี 2021 Ryan Petersen ซีอีโอแห่ง Flexport แจ้งเกิดในวงการโซลูชันห่วงโซ่อุปทานด้วยความกล้าคิดนอก “ตู้คอนเทนเนอร์” ในเวลานี้ธุรกิจสตาร์ทอัพมูลค่า 8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ของเขาจะต้องพิสูจน์ให้เห็นว่า พวกเขาเป็นมากกว่าคำโฆษณาจาก Silicon Valley

เรือเฟอร์รี่มุ่งหน้าสู่ San Francisco กำลังเตรียมตัวออกจากท่าเรือที่ Oakland โดยมี Ryan Petersen ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ Flexport สังเกตการณ์รถเครนความสูง 370 ฟุต ใช้ตะขอเกี่ยวตู้สินค้าขนส่งทีละหลังขึ้นสู่ดาดฟ้าเรือ Ryan Petersen หลงรักภาพที่เห็นตรงหน้า ตู้สินค้าสี่เหลี่ยมสีน้ำเงินเปื้อนคราบสนิมสีแดงซ้อนกันเป็นกองสูงอยู่บนเรือขนาด Post Panamax มุ่งหน้าสู่เมือง Yokohama ประเทศญี่ปุ่น นกเป็ดน้ำบินผ่านมาเป็นระยะๆ “ผมน่าจะมีแว่นโฮโลเลนส์ไว้ส่องดูว่าตู้สินค้าไหนที่เป็นของ Flexport” Petersen กล่าว เขาหมายถึงแว่นตาเสมือนจริงที่มีคุณสมบัติเอ็กซ์เรย์ของ Microsoft “ผมรับประกันได้เลยว่าบนเรือสินค้าทุกลำที่เดินทางไปยังชายฝั่งตะวันตกจะต้องมีตู้สินค้าของเรา” ฟังดูเหมือนคำคุย แต่สำหรับ Petersen วัย 41 ปีแล้วมันก็แค่คณิตศาสตร์ง่ายๆ Flexport ไม่มีรถไฟ เครื่องบิน หรือเรือเป็นของตัวเอง แต่พวกเขาเป็นผู้เล่นที่เติบโตเร็วที่สุดรายหนึ่งในธุรกิจตัวแทนผู้ประสานงานการขนส่งสินค้าทางดิจิทัล บริษัทของ Petersen ก่อตั้งขึ้นมาได้เพียง 8 ปี แต่ในเวลานี้ครองตำแหน่งผู้ซื้อห้องเก็บสินค้ารายใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลกบนเส้นทางทรานส์แปซิฟิกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กล่าวคือ เรือทุกลำที่มุ่งหน้าเข้าสู่ทวีปเอเชียจะต้องมีตู้สินค้าอย่างน้อย 1-2 ตู้ที่บรรทุกอัลมอนด์จาก California หรือชิ้นส่วนยานยนต์ซึ่งบรรทุกผ่านซอฟต์แวร์ของ Flexport ธุรกิจขนส่งสินค้าคือโอกาสขนาดมหึมา ข้อมูลจากบริษัทที่ปรึกษา Armstrong & Associates ระบุว่า ค่าใช้จ่ายด้านโลจิสติกส์ทั่วโลกแตะระดับ 9 ล้านล้านเหรียญในปี 2020 หรือคิดเป็น 11% ของ GDP โลก ขณะที่ธุรกิจบริการโลจิสติกส์จากผู้ให้บริการภายนอกมีมูลค่าเกือบ 1 ล้านล้านเหรียญ เฉพาะในสหรัฐฯ คิดเป็นมูลค่า 2.3 แสนล้านเหรียญ หรือ 14% ของ GDP ขณะที่ความต้องการยังสูงเป็นประวัติการณ์ ข้อมูลจาก Euler Hermes บริษัทย่อยของ Allianz เผยว่า ปริมาณการซื้อขายสินค้าทั่วโลกเพิ่มขึ้น 8.3% ในปี 2021 โดยในฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมาชาวอเมริกันจับจ่ายซื้อสินค้ามากกว่าเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2020 ถึง 20% แต่อุปทานไม่สามารถเติบโตตามได้ทัน ในเวลานี้การขนส่งสินค้าจากจีนไปยังสหรัฐฯ ใช้เวลานานกว่าปี 2019 กว่า 1 เดือน ขณะที่ต้นทุนค่าขนส่งตู้สินค้า 1 หลังเพิ่มขึ้นจาก 2,000 เหรียญก่อนการระบาดของโรคโควิด-19 จนสูงกว่า 20,000 เหรียญในฤดูร้อนที่ผ่านมา (ปัจจุบันอยู่ที่ราว 15,000 เหรียญ) คนทั่วไปที่ไม่เคยคิดถึงเรื่องห่วงโซ่อุปทานในระดับโลกมาก่อนเริ่มหันมาให้ความสนใจ Oracle สำรวจประชากรวัยผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ จำนวน 1,000 คนพบว่า 87% ได้รับผลกระทบจากอุปสรรคในการขนส่ง โดยมีครึ่งหนึ่งที่ตัดสินใจยกเลิกคำสั่งซื้อในระยะเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมา สำหรับ Flexport แล้วทั้งหมดนี้หมายถึงธุรกิจกำลังรุ่งเรือง พวกเขามียอดขาย 3.3 พันล้านเหรียญในปี 2021 เพิ่มขึ้นจาก 1.3 พันล้านเหรียญในปี 2020 และ 670 ล้านเหรียญในปีก่อนหน้านั้น (Flexport จะแบ่งรายได้ประมาณ 80% ให้กับพันธมิตรด้านการขนส่ง) เมื่อปีที่แล้วบริษัทใน San Francisco แห่งนี้ทำกำไรเป็นครั้งแรกจากรายรับสุทธิ 37 ล้านเหรียญ ไม่น่าแปลกใจเท่าไรนักที่บรรดานักลงทุนผู้ทรงอิทธิพลให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด Andreessen Horowitz บริษัทเงินร่วมลงทุนชื่อดังก็เข้ามาร่วมวงกับ Founders Fund หรือแม้กระทั่งอี-คอมเมิร์ซผู้โดดเด่นอย่าง Shopify รวมถึงรายอื่นๆ ที่ช่วยกันระดมทุนล่าสุดได้ 900 ล้านเหรียญไว้เป็นเงินทุนสำรอง จากการประเมินมูลค่าบริษัทไว้ที่ 8 พันล้านเหรียญ เมื่อเดือนมกราคม Forbes ประเมินว่า หุ้น 9% ที่ Petersen มีอยู่ใน Flexport เมื่อหักอัตราคิดลดสำหรับบริษัทเอกชน 10% แล้วจะมีมูลค่า 650 ล้านเหรียญ และเมื่อรวมกับพอร์ตการลงทุนอันอู้ฟู่และการมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของธุรกิจเสริมที่ทำกำไรจะทำให้เขามีมูลค่าทรัพย์สินเข้าใกล้ 750 ล้านเหรียญ ทำให้เข้าเดินหน้าเข้าสู่สถานะเศรษฐีพันล้าน (หาก Forbes ประเมินมูลค่าหุ้นของ Petersen โดยใช้ราคาหุ้นของ Flexport ในตลาดรองจะทำให้เขาขึ้นแท่นเศรษฐีพันล้านไปแล้วด้วยมูลค่าทรัพย์สินมากกว่า 1.1 พันล้านเหรียญ)  

- โลกของโลจิสติกส์ -

สำหรับคนในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ ซึ่งโดยปกติเป็นอุตสาหกรรมที่เงียบสงบอยู่แล้วนั้น การปรากฏตัวในสัมภาษณ์หรือทางหน้าจอโทรทัศน์แต่ละครั้งมักจะแสดงให้เห็นว่า Petersen เป็นนักฉวยโอกาสมากกว่าเป็นผู้นำตลาด แต่ในเรื่องของความสามารถนั้นไม่มีใครค้าน Petersen ได้ “ในทุกวิกฤตเราต้องการวีรบุรุษ Ryan Petersen วางตำแหน่งตัวเองไว้อย่างนี้” Craig Fuller ยอมรับ โดย Fuller เป็นผู้บริหารเว็บไซต์ข้อมูลและข่าวสารประจำอุตสาหกรรมที่มีชื่อว่า FreightWaves เมื่อโลกของการขนส่งเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะใกล้เคียงกับสถานการณ์ปกติ (ซึ่ง Petersen หวังว่าจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้) เขาจะวางตำแหน่งให้ Flexport เปิดเกมรุกและสยบข้อกังขาทั้งหลาย “หากเราสามารถแก้ปัญหาให้กับ Flexport ได้ เราก็จะสามารถแก้ปัญหาให้กับโลกที่กว้างกว่านี้ได้” Petersen กล่าว “เราเองก็รู้สึกน้อยใจ พวกเขาน่าจะเชื่อมั่นในตัวเราบ้าง” หลังจากที่เผชิญความเสียหายมามากเกินพอ Flexport ดำเนินการระดมทุนอย่างแข็งขัน และสามารถคว้าเงินทุนมาได้กว่า 2 พันล้านเหรียญจนถึงตอนนี้ แม้จะทำให้การถือหุ้นส่วนตัวของ Petersen จะลดลง ปัจจุบันเขาถือหุ้นเพียง 9% ในบริษัทของตัวเองแม้จะเป็นผู้ก่อตั้งเพียงคนเดียว เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2020 สถานการณ์การปิดประเทศของจีนจากการระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบมาจนถึงห่วงโซ่อุปทาน Petersen เริ่มตกใจ เขาปลดพนักงานออก 50 คน หรือประมาณ 3% ของพนักงานทั้งหมดของ Flexport บรรดานักข่าวที่กำลังต้องการสร้างกระแสเรื่องบริษัทในกลุ่ม SoftBank ต่างระริกระรี้ การปลดพนักงานไม่ช่วยอะไร เพราะในขณะที่ค่าใช้จ่ายลดไปเพียงเล็กน้อย แต่กลับกระทบกระเทือนต่อขวัญและกำลังใจของพนักงานอย่างรุนแรง Petersen ยอมรับว่าเป็น ความผิดพลาดที่รุนแรงที่สุดในชีวิตการเป็นซีอีโอ ท่ามกลางโรคโควิด-19 ที่ระบาดเป็นวงกว้าง เจ้านายใหญ่ผู้บอบช้ำแห่ง Flexport และพนักงานของเขากลับพบจุดมุ่งหมายได้อย่างรวดเร็ว ย้อนกลับไปเมื่อปี 2017 Petersen เปิดตัวโครงการที่เขาภาคภูมิใจมากที่สุดคือ Flexport.org ซึ่งเป็นองค์การไม่แสวงหาผลกำไรที่ให้บริการขนส่งราคาพิเศษแก่หน่วยงานเอกชนและอำนวยความสะดวกให้แก่บรรดาองค์การไม่แสวงหาผลกำไรในการขนส่งสินค้าบริจาค ในตอนแรกส่วนงานดังกล่าวขนส่งหน้ากากอนามัย 350,000 ชิ้นจากสหรัฐฯ ไปยัง Wuhan แต่เมื่อโควิด-19 ระบาดเข้ามาใกล้ตัว Flexport จึงรวบรวมหน้ากากอนามัยจำนวนมากส่งไปตามโรงพยาบาลในท้องถิ่นต่างๆ แทน ไม่นานนักพนักงานจำนวน 25 คนในประเทศจีนก็สามารถจัดหาชุด PPE ให้ Flexport นำไปบริจาคได้เต็มกำลัง Petersen ต้องกลับมาเช่าเครื่องบินเหมาลำอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เพื่อการกุศลล้วนๆ “ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมาเราหายใจกันได้ไม่ทั่วท้องเลย” เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาขณะที่ Petersen รับประทานอาหารค่ำกับ Patrick Collison ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Stripe นั้น Flexport กับตลาดของพวกเขาดูแตกต่างไปจากเดิมมาก ตลอดปี 2021 Flexport ได้ทำให้การคาดการณ์ของเขาเกิดขึ้นอย่างสุดแสนประทับใจ โดยสามารถพลิกทำกำไรได้อย่างเหนือความคาดหมายหลังจากทำรายได้เพิ่มขึ้นเท่าตัว (บริษัทลงทุนขยายกิจการ พวกเขาจึงไม่ได้คาดว่าผลประกอบการจะออกมามีกำไร) แต่เนื่องจากแหล่งรายได้มาจากลูกค้าที่ต้องจ่ายค่าบริการราคาแพงแลกกับการขนส่งที่ล่าช้า จึงไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีสำหรับ Petersen เท่าไรนัก Collison อยากรู้ว่า ความแออัดตามท่าเรือต่างๆ ใน California เป็นอย่างไรเมื่อเปรียบเทียบกับสภาวะคอขวดในโลกการชำระเงินออนไลน์ของเขาที่ยังหาคำตอบไม่ได้ ทำให้ Petersen รู้ตัวว่าเขาเองไม่ได้เข้าใจสถานการณ์โดยแท้จริง เขาจึงเดินทางไป Los Angeles ให้เห็นกับตา ในวันหลังจากที่เขาเช่าเรือเหมาลำท่องไปตามท่าเรือที่ Long Beach นั้น Petersen บอกเล่าสิ่งที่เขาค้นพบผ่านทาง Twitter เขาอธิบายแนวทางแก้ไขฉุกเฉิน ไม่ว่าจะซ้อนตู้สินค้าให้สูงขึ้นและสร้างหัวรถไฟใหม่ โพสต์ของ Petersen ถูกรีทวีตไปอย่างเร็วรวดกว่า 15,000 ครั้ง ซึ่งรวมถึง Brian Armstrong ซีอีโอเศรษฐีพันล้านของ Coinbase ขณะที่ Robert Garcia นายกเทศมนตรี Long Beach ส่งรายการสิ่งที่ต้องทำไปให้กับทีมงาน ในวันต่อมาก็มีการคลายกฎระเบียบเรื่องการวางซ้อนตู้สินค้า โทรศัพท์ของ Petersen ต้อนรับสายเรียกเข้าจากบรรดาผู้กำหนดนโยบายเช่น Gavin Newsom ส่วนทีมงานจากรายการ Axios ทาง HBO และ 60 Minutes ขอให้เขานำทีมงานสำรวจท่าเรือด้วยตนเอง นี่คือก้าวที่ยิ่งใหญ่ทางการตลาดสำหรับ Flexport แม้ Petersen จะสาบานว่า เขาไม่ได้มีเจตนาอย่างนั้นก็ตาม สำหรับคนอื่นในธุรกิจโลจิสติกส์ มันเป็นเรื่องน่าหมั่นไส้ “เวลา Ryan Petersen ให้สัมภาษณ์ มีหลายคนในอุตสาหกรรมจะไม่พอใจ มันเหมือนกับว่าเขาทำให้สิ่งต่างๆ มันดูง่ายลงไปมาก บางครั้งเขายังไม่มีข้อมูลเลยด้วยซ้ำ” Robert Khachatryan ผู้ก่อตั้ง Freight Right Global Logistics บริษัทผู้ประสานงานการขนส่งสินค้าที่มีพนักงาน 55 คนใน Greater Los Angeles ขึ้นมาเมื่อปี 2007 กล่าว
Ryan Petersen ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ Flexport
ความคิดที่ว่า Petersen ได้รับการยกย่องน้อยกว่าที่ควรจะเป็นนั้นเป็นความคิดที่ฝังลึกยิ่งกว่าเสียงชื่นชมที่ได้รับเสียอีก ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาหลายคนตั้งข้อสงสัยว่า ซอฟต์แวร์ของ Flexport ทำประโยชน์ได้เพียงน้อยนิด แม้กระทั่งทุกวันนี้คู่แข่งไม่ว่าจะรายเล็กหรือรายใหญ่ยังไม่เสนอให้บริการด้วยซ้ำ หากเดินเข้าไปในสำนักงานของ Flexport และ Expeditors (รายหลังคือบริษัทผู้ประสานงานการขนส่งสินค้าอายุ 40 ปีที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีมูลค่าตลาด 1.9 หมื่นล้านเหรียญ) ปลดป้ายแบรนด์และโลโก้ออกหมด หลายคนบอกว่า ทั้งสองแห่งมีการดำเนินงานที่ดูแล้วเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้ว หากเป็นเมื่อ 6 ปีก่อนที่ว่ากันมาก็ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ “ในโลกของความเป็นจริงการเป็นบริษัทใหม่ในธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อนก็เป็นอย่างนี้” Ben Braverman กล่าว เขาดำรงตำแหน่งผู้บริหารของ Flexport มายาวนาน และยังเป็นคนสนิทของ Petersen ด้วย ลูกค้าไม่ได้เลือก Flexport ด้วยเหตุผลที่ว่า Petersen เอาของเก่ามาทำใหม่ แต่พวกเขาเลือกซอฟต์แวร์อเนกประสงค์ที่ทำให้ชีวิตง่ายขึ้น  

- ก้าวต่อไปหลังวิกฤต -

ปัจจุบัน Flexport กำลังทดสอบการให้บริการรูปแบบ “ฟรีเมียม” ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวในปีนี้ ครอบคลุมการพยากรณ์ การติดตามคาร์บอน และการส่งข้อความไปยังผู้ใช้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย แม้ว่าจะไม่ใช่ลูกค้าบริการขนส่งของ Flexport ก็ตาม นอกจากนี้ Petersen ยังมีแผนที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ “คลังสินค้าพร้อมบริการจัดส่ง” ที่สามารถระบุสินค้าที่มีความสำคัญสูง เช่น แบรนด์ที่จำหน่ายสินค้าให้แก่ผู้บริโภคด้วยตนเอง พร้อมทั้งดำเนินการขนส่งอย่างรวดเร็วผ่านช่องทาง “HOV” “Flexport คือ คนรุ่นใหม่ผู้ชนะตัวจริงในอุตสาหกรรม” David George นักลงทุนในระยะเติบโตกล่าว เขาคือผู้นำร่วมในรอบการระดมทุนครั้งล่าสุดของ Flexport ในนามของ Andreessen Horowitz “พวกเขารู้วิธีที่จะเอาชนะ” เขากล่าวเสริม ซึ่ง Petersen เห็นด้วย “ผมเรียกกระบวนการขายของเราว่าเหมือนกับการเล่นเกม Battleship คุณจมเรือรบด้วยเข็มเพียงเล่มเดียวไม่ได้หรอก” คนที่ไม่เชื่ออย่างไรก็ย่อมจะไม่เชื่อ “การพยากรณ์เป็นทางแก้ปัญหาที่ไม่ควรมีอยู่จริง” Adam Banks อดีตประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีและสารสนเทศของ Maersk บริษัทผู้ให้บริการเรือเดินสมุทรที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกด้วยรายได้ปีละ 4 หมื่นล้านเหรียญกล่าว เขาบอกด้วยว่า Maersk กับบริษัทอื่นๆ ในระดับเดียวกันมีตู้สินค้าของตนเองและต้องการเป็นเจ้าของข้อมูล โดยจะไม่ปล่อยให้ Petersen แย่งไปได้ ขณะที่อีกหลายคนจะตั้งคำถามว่า สุดท้ายแล้ว Flexport จะชนะหรือไม่ ผู้ท้าชิงรายหนึ่งที่ได้เปรียบกว่าคือ project44 ใน Chicago ซึ่งเข้ามาดำเนินการในเรื่องข้อมูลโลจิสติกส์ล้วนๆ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา พวกเขาระดมทุนได้ 420 ล้านเหรียญ จากการประเมินมูลค่า 2.6 พันล้านเหรียญ Jett McCandless ซีอีโอของ project44 บอกว่า หลายคนอยากทำงานร่วมกับ “Switzerland” ของ project44 มากกว่าคู่แข่งตัวฉกาจอย่าง Flexport Petersen เองดูเหมือนว่าจะชินชากับเสียงกระแซะพวกนี้เสียแล้ว “ในอุตสาหกรรมนี้พวกเขาคิดว่าผมเป็นตัวตลก ซึ่งผมก็ไม่ว่าอะไร” Petersen กล่าว “ผมอยากตอกย้ำความเชื่อพวกนั้นด้วยซ้ำว่าผมมันบ้า พวกเขาจะได้ไม่ต้องคอยเตรียมตัวเพื่อแข่งกับเรา”   เรื่อง: ALEX KONRAD เรียบเรียง: รัน-รัน ภาพ: JAMEL TOPPIN อ่านเพิ่มเติม:
คลิกอ่านฉบับเต็มเรื่อง "ส่งความคาดหวังข้ามทะเล" และบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนมิถุนายน 2565 ในรูปแบบ e-magazine