“หากมีใครคนหนึ่งหยิบกระป๋องของเราขึ้นมาสักใบ และสามารถหาความเชื่อมโยงระหว่างความรู้สึกที่ได้จากงานศิลปะบนกระป๋องและรสชาติของไวน์ได้ เราก็ถือว่าเราทำสำเร็จแล้ว” เธอกล่าวเสริม ศิลปะบนกระป๋องเหล่านั้น มันทำให้เห็นภาพมากๆ เลยล่ะ จนกระทั่งลูกค้าหลายๆ คนลังเลว่าจะโยนกระป๋องทิ้งไปหลังดื่มหมดดีหรือไม่ “ลูกค้าหลายคนบอกเราว่ามัน ‘รู้สึกไม่ใช่’ ที่จะโยนกระป๋องทิ้งไปเมื่อดื่มหมดแล้ว” เธอกล่าว “ฉันชอบแนวคิดที่ว่า แม้กระทั่งหลังจากดื่มด่ำกับไวน์เสร็จแล้ว ลูกค้าเองก็อาจจะสร้างแกลลอรี่ขนาดมินิบนชั้นวางของในห้องครัวเพื่อที่จะได้ชื่นชมงานศิลปะเหล่านั้นต่อไปอีกสักพัก” และเพื่อสร้างมิติสัมผัสในการดื่ม Nomadica ให้หลากหลายยิ่งขึ้น ทางแบรนด์จึงได้ร่วมมือกับนักดนตรีและดีเจจำนวนมากในการสร้างเพลย์ลิสต์สำหรับไวน์แต่ละกระป๋อง โดยนักดื่มทั้งหลายสามารถตามลิ้งก์หลังกระป๋อง หรือไปฟังเพลย์ลิสต์เหล่านั้นได้บน Spotify ของแบรนด์ที่ใช้ชื่อว่า @nomadicaradio “เป้าหมายสูงสุดของเราก็คือสร้างประสบการณ์ที่ผสานทั้งรูป รส กลิ่น และเสียง” Duffy กล่าว “เราอยากจะเทเลพอร์ตผู้คนไปในที่ที่สวยงามด้วยไวน์สักกระป๋องต่อวัน เราทำการแบรนด์ดิ้งเล็กน้อยมากๆ เพื่อที่งานศิลปะจะได้โดดเด่น และให้ไวน์เป็นตัวพูดเอง”