House of Gucci: คดีสะเทือนโลก สู่ Gucci ในซูเปอร์มาร์เก็ต - Forbes Thailand

House of Gucci: คดีสะเทือนโลก สู่ Gucci ในซูเปอร์มาร์เก็ต

FORBES THAILAND / ADMIN
29 Nov 2021 | 06:00 PM
READ 3905

ภาพยนต์เรื่องราวบ้าน Gucci อย่าง House of Gucci นอกจากจะพาทุกคนดำดิ่งเข้าสู่ความจริงอันน่ากลัวภายใต้แบรนด์อันสวยหรู ยังเผยให้เห็นตลาดของวินเทจที่กำลังมาแรง และแคมเปญการตลาดสุดล้ำอีกด้วย

House of Gucci
(Photo Credit: TIME)
House of Gucci ภาพยนตร์โศกนาฏกรรมอันบีบคั้นหัวใจเรื่องนี้นอกเหนือจากดาราคนดังที่ล้นจอแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังได้บอกเล่าเรื่องราวของครอบครัวที่เปรียบเสมือนยาพิษทำร้ายกันเอง ทะเลาะกันเรื่องหุ้น ดูถูกความสามารถกันและกัน จนทำรายได้อยู่อันดับต้นๆ ใน box office เลยทีเดียว Lady Gaga สวมบทบาท Patrizia Reggiani ภรรยาเก่าของ Maurizio Gucci และผู้จ้างมือปืนโดยมีสามีเก่าที่ห่างเหินของตัวเธอเป็นเป้าหมาย (ปัจจุบัน Reggiani อายุ 72 ปี หลังจากอยู่ในคุกมาถึง 18 ปี ก่อนจะถูกปล่อยตัวในปี 2016) โดยเธอกล่าวว่า “อำนาจมันเป็นเหมือนโรคสำหรับตระกูล Gucci” นอกจากนี้ยังมีนักแสดงอย่าง Adam Driver รับบทบาท Maurizio Gucci และ Jared Leto ในบทบาทของ Paolo Gucci สุดพิลึกที่มันสวมใส่สูทลายตาราง กำกับโดย Ridley Scott โดยทาง Gucci ก็ได้ส่งไอเท็มจากคลังของทางแบรนด์มาให้กับ ​Costume Designer เช่นกัน สำหรับผู้นั่งเก้าอี้ Costume Designer ประจำกองถ่ายคือ Janty Yates ได้กล่าวไว้เมื่อเร็วๆ นี้ว่าทีมศิลป์ของทางกองได้ยืมเครื่องแต่งกายวินเทจจากคลังของ Gucci มาหลายชิ้นเพื่อที่จะสามารถถ่ายทอดความเป็น Gucci ในยุค 1970s และ 1980s ให้ได้ดีที่สุด
House of Gucci
(Photo Credit: New York Post)
หนึ่งในไอเท็มที่โด่งดังที่สุดภาพยนตร์เรื่องนี้คงหนีไม่พ้นชุดแบบ two-piece ที่มีโลโก้ของทางแบรนด์เต็มไปหมด พร้อมด้วยตะเข็บหนังที่ Lady Gaga สวมใส่ในฉากที่เธอไปเยือนตลาดขายของปลอม ในฉากอื่นๆ เรายังได้เห็นรองเท้า Horsebit Loafers สี Buttercream Yellow และรองเท้าหนัง Gucci Brixton ที่ออกแบบโดย Aldo Gucci ในปี 1953 อีกด้วย ส่วนไอเท็มหลักของทางแบรนด์ที่ Rodolfo Gucci เป็นผู้ออกแบบก็ได้ปรากฎให้เห็นใน House of Gucci เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นผ้าพันคอที่เขารังสรรค์ให้กับ Grace Kelly และกระเป๋า Fifties Constance ที่ภายหลังได้ตั้งชื่อโดยมี Jackie Onassis เป็นแรงบันดาลใจ ภาพยนตร์เรื่องนี้เปรียบเสมือนฝันสำหรับสาวก Gucci ที่รักของวินเทจจากแบรนด์นี้อย่างหัวปักหัวปำ ที่เปิดประตูให้พวกเขาได้มองย้อนกลับไปในยุค 1970s และ 1980s และเสาะหาไอเท็มเด็ดๆ ที่จะสามารถหาซื้อได้ในยุคปัจจุบันตามเว็บไซต์เสื้อผ้ามือสองทั้งหลาย ซึ่งนั่นก็รวมถึงกระเป๋า Gucci รุ่น Jackie, กระเป๋า Gucci รุ่น Jackie Bardot และอีกนับไม่ถ้วน

Father, Son, and Secondhand Gucci

เสื้อผ้าจาก Gucci ในยุค 1970 และ 1980 ที่คับจอนี้ ส่งผลให้แอปขายเสื้อผ้ามือสองต่างๆ อย่าง 1stdibs, Vestiaire, Poshmark และ Etsy เต็มไปด้วยข้าวของจาก Gucci จากช่วงที่ Tom Ford เป็น Creative Director (บัญชีผู้ใช้ในอินสตาแกรม @tomfordforgucci ได้มีส่วนช่วยในการตามล่าไอเท็มหลักๆ จากยุคนั้นอีกด้วย) แม้ว่าจะยังระบุตัวเลขที่แน่ชัดไม่ได้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มีผลต่อยอดขายของ Gucci โดยเฉพาะชิ้นวินเทจต่างๆ มากแค่ไหน แต่ทางแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซอย่าง lovethesales ก็ได้รายงานว่ายอดค้นหากระเป๋า Gucci พุ่งขึ้นกว่า 250 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา
Tom Ford_House of Gucci
Tom Ford หลังเวทีแฟชั่นโชว์ของ Gucci (Photo Credit: Sleek Magazine)
ยอดที่พุ่งขึ้นนี้ แน่นอนว่ายอดนั้นส่วนหนึ่งอาจจะมาจากการช็อปในเทศกาลปลายปีก็เป็นได้ แต่เราก็ไม่สามารถมองข้ามความสนใจในแบรนด์ Gucci ที่อาจมี House of Gucci เป็นตัวกระตุ้น จนทำให้ยอดค้นหาใน Google ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มาได้ 30 วันกว่าๆ ในสหรัฐฯแล้วได้เลย กระแส Gucci วินเทจนี้ก็มาแรงในฝั่ง London ไม่แพ้กัน โดยซูเปอร์มาร์เก็ตประจำเมืองผู้ดีอย่าง Asda ได้จัดแคมเปญล่าสมบัติ โดยคัดสรรไอเท็มวินเทจจาก Gucci ทั้งหมด 30 ชิ้น และกระจายไปตาม Georges at Asda (ร้านขายเสื้อผ้าของทาง Asda) กว่า 50 สาขาเมื่อทั้งโลกกำลังบ้าคลั่งกับกระแส Gucci วินเทจที่จะมาพร้อมกับลมหนาวนี้  ชาเลนจ์ล่าสมบัติครั้งนี้เป็นการร่วมมือกับ PreLoved ร้านค้าส่งของวินเทจที่เผอิญเป็น ‘sustainability partner’ ของทาง Asda ซะด้วย “ไม่ว่าคุณจะเป็นคนรักของวินเทจ หรือแค่อยากจะหันหาตัวเลือกที่ยั่งยืนกว่า” Lauren Mallins ผู้เชี่ยวชาญจากฝ่ายซื้อของทางซูเปอมาร์เก็ตกล่าว “ของจาก PreLoved ที่เราเลือกมาเองกับมือเป็นเหมือนกับขุมสมบัติเต็มไปด้วยเพชรพลอย และตอนนี้ Gucci ก็จะเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ลูกค้าของเราจะมาหาเรา” แม้ว่าไอเท็มที่ปรากฎใน House of Gucci ที่นักช็อปทั้งหลายกำลังตามล่ากันอยู่ ทาง Gucci จะเป็นคนมอบให้กับทางกองถ่าย แต่ก็ไม่ใช่ว่าทั้งหมดที่คุณเห็นบนจอยักษ์จะมาจากคลัง Gucci หรอกนะ Yates เองก็พึ่งพา eBay และ Vestiaire Collective ในการตามล่าหา Gucci เพื่อนำมาโชว์ให้ผู้กำกับดูเหมือนกัน หน่ำซ้ำ เสื้อผ้าบางชิ้นยังมาจากตู้เสื้อผ้าของ Gaga เองอีกด้วย
Father, son and House of Gucci
(Photo Credit: i-D)
ทางฝั่งผู้เชี่ยวชาญเองก็ได้กล่าวว่า มันยากมากที่จะไล่ล่าหา Gucci วินเทจจากช่วงก่อนที่ Tom Ford จะเข้ามาเป็นดีไซน์ให้กับทางแบรนด์ตั้งแต่ปี 1990 ถึง 2004 Yates ยังได้อธิบายเพิ่มเติมด้วยว่าเธอได้หันไปยัง Museo Gucci ใน Florence เพื่อมองหาแรงบันดาลใจ เนื่องจากแบรนด์นี้ก็ได้ถือกำเนิดที่เมือง Florence ในปี 1921 “ฉันคิดว่า Gucci เป็นบริษัทที่มหัศจรรย์มาก เข็มขัดที่งดงาม รองเท้าและกระเป๋าที่สุดยอด แต่แฟชั่นในสมัยนั้นของทางแบรนด์ก็ดูค่อนข้างอนุรักษ์นิยมอยู่” เธอกล่าว “เมื่อ Tom Ford เข้ามา เขาเข้ามาประดุจมีดร้อนๆ ที่มาตัดเนยเลย แล้วมันก็เซ็กซี่ขึ้นมาก บ้าสุดๆ ไปเลย ในสมัยนั้น ฉันไม่คิดว่า ready-to-wear เป็นแนวของ Gucci เลยล่ะ” Yates กล่าวทิ้งท้าย แปลและเรียบเรียงโดย ทัตชญา บุษยากิตติกร จากบทความ
  1. ‘House Of Gucci’ Is Fueling A Vintage Gucci Craze เผยแพร่บน ​Forbes.com
  2. Asda have organised a vintage Gucci treasure hunt เผยแพร่บน ​i-D.vice.com
  3. House of Gucci is Here, But Will it Really Impact the Brand’s Sales? เผยแพร่บน ​Thefashionlaw.com
อ่านเพิ่มเติม: ‘Emily In Paris’ กลับมาอีกครั้ง พร้อมกับ ‘คอนเทนต์ช็อปได้’
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine