Taylor Swift ป๊อปสตาร์ มหาเศรษฐีนี และสตรีทรงอิทธิพลของโลก - Forbes Thailand

Taylor Swift ป๊อปสตาร์ มหาเศรษฐีนี และสตรีทรงอิทธิพลของโลก

ด้วยทัวร์คอนเสิร์ตทุบสถิติ ความสามารถในการสั่นคลอนเศรษฐกิจ และมูลค่าความมั่งคั่ง 1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซูเปอร์สตาร์วัย 33 ปีผู้นี้จึงผงาดอย่างสง่างามบนทำเนียบสตรีทรงอิทธิพลที่สุดในโลกประจำปี 2023


    “พวกคุณทำให้ฉันรู้สึกยอดเยี่ยมมากเลยค่ะ” Taylor Swift มักเอ่ยประโยคนี้กับแฟนๆ ในทุกๆ เวทีคอนเสิร์ต Eras Tour ที่ตั๋วหมดเกลี้ยง ก่อนเริ่มแสดงเพลงชาติเฟมินิสต์อย่าง The Man

    ท่ามกลางเสียงร้องชื่นชม นักร้องสาววัย 33 ปีผู้นี้จะยกแขนขึ้นและก้มลงจูบกล้ามของตัวเอง เรียกเสียงเชียร์อย่างบ้าคลั่งจากบรรดาผู้ชม “พวกคุณทำให้ฉันรู้สึก” เธอกล่าวยามคลี่ยิ้มกว้าง “ทรงพลัง”

    แม้ดูเป็นการแสดงที่ออกจะเวอร์วังไปสักหน่อย แต่ชาวสวิฟตี้ต่างเข้าใจดีว่าขุมพลังของ Taylor Swift คือตัวเธอเอง และเป็นเช่นนี้เสมอมา ตลอด 17 ปีในฐานะนักร้อง วันนี้คือวันที่เธอทรงอิทธิพลยิ่งทั้งด้านเศรฐกิจ วัฒนธรรม ไปจนกระทั่งการเมือง พาให้เธอทะยานจากอันดับ 79 บนทำเนียบสตรีทรงอิทธิพลที่สุดในโลกประจำปี 2022 สู่อันดับ 5 ในปีนี้


    ต้องขอบคุณความสำเร็จถล่มทลายของ Eras Tour ที่ทำให้ Swift กลายเป็นมหาเศรษฐีนีพันล้านในเดือนตุลาคม โดยเป็นหนึ่งในศิลปินจำนวนเพียงสิบรายที่ได้รับเกียรตินี้ ตามหลัง Jay-Z (มูลค่าทรัพย์สิน 2.5 พันล้านเหรียญ) และ Rihanna (1.4 พันล้านเหรียญ)

    คอนเสิร์ตยาวสามชั่วโมงครึ่งสะท้อนความเป็นศิลปินมืออาชีพของเธอ กวาดรายได้เกือบ 850 ล้านเหรียญจากทุกรอบการแสดงในสหรัฐฯ ทัวร์คอนเสิร์ตช่วงแรกนี้เพิ่มมูลค่าทรัพย์สินแก่ Swift ราว 190 ล้านเหรียญหลังหักภาษีแล้ว ทำให้เธอมีความมั่งคั่งสุทธิที่ 1.1 พันล้านเหรียญ สำหรับปีถัดไป เธอจะเดินหน้าขึ้นเวทีที่ยุโรปและเอเชียต่อ

    อิทธิพลของเธอทรงพลังมากเสียจนส่งผลกระทบด้านการเงินในวงกว้างและเกิดนิยามใหม่ว่า Taylor Swift Effect การแสดงในเดนเวอร์เพียงสองคืนเติมจีดีพีแก่รัฐโคโลราโด 140 ล้านเหรียญ ต้องขอบคุณแฟนคลับที่จ่ายเงินกันคนละราว 1,300 เหรียญเป็นค่าโรงแรม ร้านอาหาร และชอปปิ้ง

    ธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟียยังกล่าวถึง Swift ในรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจเมื่อเดือนมิถุนายน ชี้ว่าในเดือนพฤษภาคมอันเป็นเดือนที่นักร้องสาวดาวเด่นมาขึ้นแสดงคอนเสิร์ตที่ Lincoln Financial Field ในฟิลาเดลเฟีย 3 คืน นับเป็นช่วงเวลาที่โรงแรมต่างๆ ในเมืองมีรายได้สูงสุดตั้งแต่ก่อนโควิด-19 แพร่ระบาด

    สมาคมการท่องเที่ยวแห่งสหรัฐฯ ประเมินว่า โดยรวมแล้ว รอบการแสดง Eras Tour ที่จัดขึ้นภายในประเทศจะอัดฉีดเงินกว่า 5 พันล้านเหรียญแก่เศรษฐกิจของรัฐต่างๆ



    “เธอเป็นเหมือนกับบริษัทขนาดใหญ่ มีบทบาทสำคัญยิ่งในการขับเคลื่อนหลายภาคส่วน” Carolyn Sloan นักเศรษฐศาสตร์แรงงานและศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยชิคาโกกล่าว “นานแล้วที่ผู้ชมของเธอมีอายุน้อยและเป็นผู้หญิงจนทุกคนอาจประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจต่ำเกินไป ฉันไม่คิดว่าวันนี้จะมีใครนึกกังขาอีกแล้ว”

    ผู้ชมเพศหญิงอายุน้อยทรงอิทธิพลเหล่านี้ยังตามไปดันยอดขายตั๋วชมภาพยนตร์ของ Swift ในปีนี้ด้วยเช่นกัน เป็นอีกครั้งที่เธอฉายแววความเป็นนักธุรกิจในการปล่อยภาพยนตร์บันทึกคอนเสิร์ต The Eras Tour กับทางโรงภาพยนตร์ AMC โดยตรงไม่ผ่านสตูดิโอใน Hollywood แม้เธอจะไม่มีทีมการตลาดแบบดั้งเดิมคอยสนับสนุนก็ตาม เพราะไม่ว่าอย่างไร ตัวเธอก็คือพลังแห่งการตลาดอันเหนือชั้นอยู่แล้ว

    Stacy Jones ผู้ก่อตั้งเอเจนซีด้านการตลาด Hollywood Branded ประเมินว่านักร้องสาวผู้นี้สร้างมูลค่าการตลาดจากการถูกพูดถึงบนโซเชียล (Earned Media) มากกว่า 1.3 แสนล้านเหรียญตลอดสองปีที่ผ่านมาเลยทีเดียว ถึงการคาดคะเนมูลค่าของสื่อแบบฟรีจะค่อนข้างดูเป็นการมโนก็ตาม

    คำพูดแบบปากต่อปากและการปรากฏตัวอย่างมีชั้นเชิงในการแข่งขันอเมริกันฟุตบอลของทีม Kansas City Chiefs นั้นชัดเจนเกินพอที่จะเรียกให้แฟนๆ ต้องยอมเสียเงินซื้อตั๋ว ซึ่งภาพยนตร์ของ Swift ก็ทำรายได้ 93 ล้านเหรียญในสัปดาห์เปิดตัว และกวาดรายได้กว่า 250 ล้านเหรียญทั่วโลก

    เช่นเดียวกับทัวร์และภาพยนตร์คอนเสิร์ต อิทธิพลส่วนมากของ Swift กำเนิดจากอำนาจควบคุมธุรกิจโดยตรงของเธอเอง


    การทวงคืนสิทธิ์ความเป็นเจ้าของเพลงโดยการอัดอัลบั้มใหม่นั้นถือว่าน่าประทับใจและสร้างกำไรอย่างงดงาม หลังผลงานเหล่านั้นถูกนำไปขายด้วยมูลค่า 300 ล้านเหรียญซึ่งเธอไม่ได้รับผลประโยชน์ด้วย

    ตอนนี้เธออัดและปล่อยผลงานเก่าของตนออกมา 4 อัลบั้มแล้ว (จากทั้งหมด 6 อัลบั้ม) ล่าสุดคือ 1989 (Taylor’s Version) ที่สร้างสถิติศิลปินที่มีการสตรีมเพลงมากที่สุดในวันเดียวบน Spotify ณ วันที่ปล่อยออกมาช่วงปลายเดือนตุลาคม

    หากลองพิจารณาว่า Katy Perry และ Justin Bieber ขายลิขสิทธิ์เพลงของตนเป็นมูลค่ากว่า 200 ล้านเหรียญในปี 2023 นี้แล้ว มูลค่าเพลงของ Swift มีแต่จะเติมความมั่งคั่งให้เธอในช่วงเวลานับจากนี้

    อย่างไรก็ตาม Swift ยังไม่ใช่สตรีทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ตำแหน่งนั้นเป็นของประธานกรรมาธิการยุโรป Ursula von der Leyen เจ้าของนโยบายและการตัดสินใจด้านงบประมาณที่ส่งผลต่อชาวยุโรป 450 ล้านคน ตัวเลขนี้จะทะลุ 500 ล้านในไม่ช้า ในการแถลงนโยบายประจำปีเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา von der Leyen กล่าวย้ำว่า เธอตั้งใจจะรับยูเครนและประเทศอื่นๆ ทางตะวันตกของบอลข่านเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการ

    ส่วนสตรีทรงอิทธิพลอันดับ 2 ประจำปีนี้คือ Christine Lagarde ประธานธนาคารกลางยุโรป ผู้ก่อร่างสร้างนโยบายทางการเงินของยุโรป ณ ช่วงเวลาที่อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูง อีกสองคนที่มีอันดับเหนือ Swift คือรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ Kamala Harris (อันดับ 3) และนายกรัฐมนตรีอิตาลี Giorgi Meloni (อันดับ 4)

    ทั้งสองต่างเป็นสตรีคนแรกที่ได้รับตำแหน่งที่กำลังถือครองอยู่ โดย Meloni ได้ใช้อิทธิพลของตนเสนอการปฏิรูปรัฐธรรมนูญของอิตาลีเพื่อให้ประชาชนสามารถเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีได้โดยตรง จากเดิมที่ต้องผ่านการเห็นชอบจากรัฐสภา

    “สตรีที่มีอำนาจทางการเมือง (Hard Power) เหล่านั้นคือสตรีทรงอิทธิพลโดยแท้จริง” Stacey Jones ผู้เชี่ยวชาญด้านแบรนด์อธิบาย “แต่พวกเธอก็ไม่สามารถเปลี่ยนโลกไปในทิศทางเดียวกับที่ Taylor Swift ทำได้”

    สำหรับ Taylor Swift เธอคือสตรีทรงอิทธิพลที่สุดในโลกอันดับ 5 จากการจัดอันดับของ Forbes ในปีนี้ และล่าสุดนิตยสาร Time ได้ยกย่องให้เธอเป็นบุคคลแห่งปี 2023 พิสูจน์ให้เห็นว่าอำนาจทางวัฒนธรรม (Soft Power) ก็ทรงพลังมากพอจะสะเทือนโลกในด้านต่างๆ ด้วยเช่นกัน


แปลและเรียบเรียงจาก Taylor Swift’s Power Era: Why The Billionaire Pop Star Is One Of The World’s Most Powerful Women

อ้างอิงเพิ่มเติม 2023 Person of the Year Taylor Swift


เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : 10 อันดับ สตรีทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ประจำปี 2023

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine