Henley & Partners เผยทำเนียบพาสปอร์ตทรงอิทธิพลของโลก 6 ประเทศครองอันดับ 1 - Forbes Thailand

Henley & Partners เผยทำเนียบพาสปอร์ตทรงอิทธิพลของโลก 6 ประเทศครองอันดับ 1

Henley & Partners ผู้นำการลงทุนเพื่อการย้ายถิ่นฐานระดับโลก เผยผลการจัดอันดับพาสปอร์ตทรงอิทธิพลของโลกจากดัชนีพาสปอร์ตเฮนลีย์ (Henley Passport Index) ณ วันพุธที่ 10 มกราคม 2024 ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี สเปน ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ ครองอันดับ 1 ร่วมกัน


    ดัชนีพาสปอร์ตเฮนลีย์จะอ้างอิงตัวเลขที่พาสปอร์ตแต่ละเล่มใช้เดินทางไปยังจุดหมายต่างๆ ได้โดยไม่จำเป็นต้องขอวีซ่า อ้างอิงจากข้อมูลพิเศษที่ได้รับจากสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลด้านการเดินทางที่ใหญ่และแม่นยำที่สุด นำมาศึกษา วิเคราะห์ และเรียบเรียงโดยทีมวิจัยของ Henley & Partners

    พาสปอร์ตประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ยังคงทรงอิทธิพลอย่างยิ่งในปี 2024 นี้ อันดับ 1 ในทำเนียบทั้งหมด 6 ประเทศ เป็น EU ไปแล้วถึง 4 ประเทศ ได้แก่ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี และสเปน ส่วนประเทศเอเชียอีก 2 ประเทศคือญี่ปุ่นและสิงคโปร์ ผู้ถือพาสปอร์ตเหล่านี้สามารถเดินทางไปยัง 194 จุดหมายปลายทางจากทั้งหมด 227 แห่งทั่วโลกได้โดยไม่จำเป็นต้องขอวีซ่า

    สำหรับ 10 อันดับพาสปอร์ตทรงอิทธิพลประจำปี 2024 มีดังนี้


    อันดับ 1 เดินทางได้ 194 จุดหมายปลายทาง

    ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี สเปน ญี่ปุ่น สิงคโปร์


    อันดับ 2 เดินทางได้ 193 จุดหมายปลายทาง

    ฟินแลนด์ สวีเดน เกาหลีใต้


    อันดับ 3 เดินทางได้ 192 จุดหมายปลายทาง

    ออสเตรีย เดนมาร์ก ไอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์


    อันดับ 4 เดินทางได้ 191 จุดหมายปลายทาง

    เบลเยียม ลักเซมเบิร์ก นอร์เวย์ โปรตุเกส สหราชอาณาจักร


    อันดับ 5 เดินทางได้ 190 จุดหมายปลายทาง

    กรีซ มอลตา สวิตเซอร์แลนด์


    อันดับ 6 เดินทางได้ 189 จุดหมายปลายทาง

    ออสเตรเลีย เช็กเกีย นิวซีแลนด์ โปแลนด์


    อันดับ 7 เดินทางได้ 188 จุดหมายปลายทาง

    แคนาดา ฮังการี สหรัฐอเมริกา


    อันดับ 8 เดินทางได้ 187 จุดหมายปลายทาง

    เอสโตเนีย ลิธัวเนีย


    อันดับ 9 เดินทางได้ 186 จุดหมายปลายทาง

    ลัตเวีย สโลวาเกีย สโลวีเนีย


    อันดับ 10 เดินทางได้ 185 จุดหมายปลายทาง

    ไอซ์แลนด์


    ส่วนประเทศไทยอยู่ที่อันดับ 63 ร่วมกับโบลิเวีย โดยสามารถเดินทางไปยัง 82 จุดหมายปลายทางทั่วโลกโดยไม่ต้องขอวีซ่า

    “ตัวเลขจุดหมายปลายทางที่นักเดินทางสามารถไปถึงได้โดยปราศจากวีซ่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจาก 58 ในปี 2006 เป็น 111 ในปี 2024” ดร. Christian H. Kaelin ประธาน Henley & Partner และผู้คิดค้นคอนเซ็ปต์ดัชนีพาสปอร์ตกล่าว “อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าสู่ปีใหม่ พาสปอร์ตประเทศอันดับสูงๆ สามารถเดินทางเยือนกว่า 166 จุดหมายโดยไม่ต้องขอวีซ่า ทว่าอัฟกานิสถานที่อยู่อันดับท้ายสุดกลับไปได้เพียง 28 ประเทศเท่านั้น”

    ความต่างนี้ชี้ให้เห็นช่องว่างที่กว้างขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนนับตั้งแต่ Henley & Partner ทำการจัดอันดับพาสปอร์ตมาตลอด 19 ปี อันเป็นผลมาจากการเมืองทั้งในและนอกประเทศอันร้อนระอุในหลายภูมิภาคทั่วโลก

    นอกจากนี้ งานวิจัยใหม่ของ Henley & Partners ยังเน้นถึงความสัมพันธ์ระหว่างฟรีวีซ่าและความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ โดยเปรียบเทียบเกณฑ์สำคัญต่างๆ ระหว่างภูมิภาคและกลุ่มทางเศรษฐกิจทั่วโลก ซึ่งรวมถึง ASEAN, AU, EU, G7, G20, GCC MERCOSUR และ BRICS

    งานวิจัยดังกล่าวพบว่าการที่ผู้คนและเงินทุนสามารถเดินทางได้อย่างอิสระข้ามพรมแดนนานาชาติ ส่งผลให้การลงทุนและทักษะความสามารถต่างๆ ไหลไปยังพื้นที่ที่ต้องการสิ่งนั้นๆ อย่างที่สุด ก่อให้เกิดผลตอบแทนสูงสุดตามมา

    และหากมองจากหลายๆ มุม ความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจของโลกในอนาคตก็ขึ้นอยู่กับภูมิภาคที่ยังคงล้าหลังแต่ได้เผยความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมโดยการเปิดกว้างแก่กันและกัน ตลอดจนการที่บรรดาประเทศที่มั่งคั่งเปิดกว้างทางการค้าแก่ประเทศกำลังพัฒนา


แหล่งที่มา:

These Are the World’s Most (and Least) Powerful Passports in 2024

Travel Freedom and Economic Success: A Mutually Reinforcing Connection


เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : จีนแจกฟรีวีซ่า หวังดึงนักท่องเที่ยวกลับเยียวยาเศรษฐกิจหลังโควิด-19

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine