ใช่ว่ามหาเศรษฐีทุกรายจะสามารถรักษาความมั่งคั่งได้ตลอดไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางความผันผวนในปี 2021 ที่ธุรกิจหลากหลายภาคส่วนต่างได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
โดยหนึ่งในสาเหตุหลักของความมั่งคั่งชั่วพริบตาของ 10 ผู้ประกอบการแห่งทำเนียบนี้มาจากผลงานของบริษัทหลายแห่งที่ไม่ดีนักหลังเดินหน้าเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ไม่ว่าจะด้วยวิธีเสนอขายหุ้น IPO แบบดั้งเดิม หรือวิธี SPAC ที่กำลังได้รับความนิยมในปีที่ผ่านมา
ทว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวสูงขึ้นในตอนแรกกลับดิ่งลงอย่างรวดเร็วโดยใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือน วัน หรือบางครั้งเพียงเศษเสี้ยวนาที จนทำให้สถานะ “มหาเศรษฐีพันล้าน” ของพวกเขาดำรงอยู่เพียงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น
พบไฮไลท์ 10 ผู้ประกอบการ ขึ้นแท่น “มหาเศรษฐีพันล้าน” เพียงชั่วพริบตาในปี 2021 โดยไล่เรียงจากระยะเวลาที่น้อยที่สุด เทียบเคียงมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2021
อันดับ 1
Anthony Tan
ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอ Grab
สัญชาติ: สิงคโปร์
สถานะมหาเศรษฐี: น้อยกว่า 1 วัน
ทรัพย์สินสุทธิ: 600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
Tan ก้าวขึ้นเป็นมหาเศรษฐีเพียงไม่กี่ชั่วโมงในวันที่ 2 ธันวาคม 2021 หลังนำ Grab ผู้ให้บริการเรียกรถรายใหญ่แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq ด้วยวิธี SPAC ที่มูลค่ากิจการ 4 หมื่นล้านเหรียญ พร้อมขึ้นแท่นเป็น ‘ดีล SPAC ที่ใหญ่ที่สุดในโลก’
ด้วยสัดส่วนการถือหุ้นของ Tan ที่มีมูลค่าสูงถึง 1 พันล้านเหรียญ ทำให้การปรับตัวลงอย่างรวดเร็วจนมาอยู่ที่7.14 เหรียญต่อหุ้น หลังเปิดการซื้อขายที่ 13.06 เหรียญต่อหุ้น ได้ส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินของเขากว่า 1 ใน 3 ที่อิงกับบริษัทอายุ 6 ขวบแห่งนี้ลดลงอย่างต่อเนื่อง
อ่านเพิ่มเติม: 5 มหาเศรษฐีสิงคโปร์ ธุรกิจทะยานท่ามกลางสถานการณ์โควิดอันดับ 2
Tim Chen
ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ Nerdwallet
สัญชาติ: อเมริกัน
สถานะมหาเศรษฐี: น้อยกว่า 1 วัน
ทรัพย์สินสุทธิ: 499 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
Chen ใช้เวลาเพียงช่วงสั้นๆ กับมูลค่าทรัพย์สินสุทธิถึง 10 หลัก หลังนำ Nerdwallet เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน
โดยบริษัทการเงินส่วนบุคคลที่ให้คำปรึกษาด้านบัตรเครดิต การจำนอง และบริการทางการเงินอื่น ๆ เปิดตลาดที่ 23.50 เหรียญต่อหุ้นก่อนที่จะปรับตัวสูงขึ้นเป็น 34.44 เหรียญ และที่จุดสูงสุดนี้ส่งผลให้ Chen ในฐานะผู้ก่อตั้งและซีอีโอมีมูลค่าทรัพย์สินแตะ 1.09 พันล้านเหรียญ จากการถือหุ้นทั้งหมด 31.7 ล้านหุ้นในบริษัท
ทว่าในช่วงวันเดียวกันก่อนปิดตลาด มูลค่าหุ้นกลับตกลงมาอยู่ที่ 23.40 เหรียญและไม่เคยปรับตัวสูงถึง 30 เหรียญเลยนับตั้งแต่นั้นมา
อันดับ 3
Jean Qing Liu
ประธาน DiDi Global
สัญชาติ: จีน
สถานะมหาเศรษฐี: น้อยกว่า 1 สัปดาห์
ทรัพย์สินสุทธิ: 466 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
Jean Qing Liu ประธาน DiDi Global แพลตฟอร์มเรียกรถรายใหญ่ของจีน และซีอีโอ Will Wei Cheng สามีของเธอ ก้าวขึ้นเป็นมหาเศรษฐีพันล้านด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1.1 พันล้านเหรียญ และ 4.4 พันล้านเหรียญ ตามลำดับ หลังนำ DiDi เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กในเดือนมิถุนายน
ทว่าในระยะเวลาน้อยกว่า 1 สัปดาห์ต่อมา หุ้น DiDi กลับปรับตัวลงกว่าร้อยละ 27 โดยได้รับผลกระทบจากข่าวหน่วยงานกำกับดูแลของจีนเข้าสอบสวนบริษัท ส่งผลให้ Liu มีทรัพย์สินลดลงกว่า 1 พันล้านเหรียญอย่างรวดเร็ว
ล่าสุดในเดือนพฤศจิกายน สถานการณ์ของบริษัทกลับยิ่งแย่ลง เมื่อมีรายงานว่าหน่วยงานกำกับดูแลของจีนขอให้บริษัทจัดทำแผนการที่จะเพิกถอนออกจากการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก
ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการรั่วไหลของข้อมูลที่ละเอียดอ่อน หุ้นของ “Uber จีน” ได้ปรับตัวลงกว่าร้อยละ 60 นับตั้งแต่เสนอขายหุ้น IPO (ปัจจุบัน Cheng มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิประมาณ 1.9 พันล้านเหรียญ)
อ่านเพิ่มเติม: DiDi Global จาก “Uber จีน” สู่การให้บริการใน 15 ประเทศอันดับ 4
JoeBen Bevirt
ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ Joby Aviation
สัญชาติ: อเมริกัน
สถานะมหาเศรษฐี: น้อยกว่า 3 เดือน
ทรัพย์สินสุทธิ: 670 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
หุ้นของสตาร์ทอัพแท็กซี่อากาศไฟฟ้าจากเมือง Santa Cruz รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 5.8 ที่ 10.90 เหรียญสหรัฐฯ เมื่อวันอังคารที่ 24 สิงหาคม ส่งผลให้ JoeBen Bevirt วัย 47 ปี ขึ้นแท่น 'มหาเศรษฐีคนแรกของอุตสาหกรรม'
แม้ว่าเขาจะเริ่มพัฒนาเครื่องบินที่สามารถบินขึ้นและลงจอดในแนวตั้งได้เสมือนเฮลิคอปเตอร์ในชุมชนเมืองที่คับแคบ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการจราจรติดขัดมาตั้งแต่ปี 2009 แต่ด้วยรูปแบบธุรกิจที่ต้องได้รับการอนุมัติก่อนให้บริการอย่างเต็มรูปแบบจาก Federal Aviation Administrationในปี 2023 จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกที่จะดึงดูดเงินทุนได้น้อยลง เป็นผลให้หุ้นของบริษัท ณ วันที่ 15 ธันวาคม ปรับตัวลงกว่าร้อยละ 42 จากราคา IPO
อ่านเพิ่มเติม: JoeBen Bevirt ผู้ก่อตั้ง Joby Aviation ขึ้นแท่น “มหาเศรษฐีแท็กซี่อากาศไฟฟ้า”อันดับ 5
Carl Daikeler
ซีอีโอและประธาน BeachBody
สัญชาติ: อเมริกัน
สถานะมหาเศรษฐี: น้อยกว่า 4 เดือน
ทรัพย์สินสุทธิ: 320 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
Daikeler นำธุรกิจฟิตเนส Beachbody วัย 23 ปี เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ด้วยวิธี SPAC เพื่อให้มีศักยภาพเทียบเท่าคู่แข่งอย่าง Peloton ที่เติบโตอย่างรวดเร็วจากรูปแบบสมัครสมาชิกและการให้บริการชั้นเรียนออกกำลังกายรายบุคคล
ทว่ามูลค่าหุ้นของบริษัทกลับร่วงลงมากกว่าร้อยละ 80 นับตั้งแต่นั้นมา ขณะที่รายรับในไตรมาสที่ 3 ของ Beachbody ลดลงร้อยละ 17 จากปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ 208.1 ล้านเหรียญ และขาดทุนเพิ่มขึ้นเป็น 39.9 ล้านเหรียญจาก 13.8 ล้านเหรียญในปีก่อน
อ่านเพิ่มเติม: กล้ามแขนโตๆ…กระเป๋าตุงๆ ของ ‘Carl Daikeler’ เศรษฐีพันล้านเจ้าของ Beachbodyอันดับ 6
Anne Wojcicki
ผู้ร่วมก่อตั้ง 23andMe
สัญชาติ: อเมริกัน
สถานะมหาเศรษฐี: น้อยกว่า 6 เดือน
ทรัพย์สินสุทธิ: 765 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
หลังนำ 23andMe บริษัทวิจัยพันธุกรรมเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ด้วยวิธี SPAC ผ่านการควบรวมกิจการกับ VG Acquisition Corp. ซึ่งก่อตั้งโดย Sir Richard Branson มหาเศรษฐีพันล้านชาวอังกฤษ หุ้นของบริษัทก็ปรับตัวสูงขึ้นกว่าร้อยละ 21 เป็น 13.32 เหรียญในช่วงวันแรกของการซื้อขาย
อย่างไรก็ดี ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่มีนาคม 2020 ถึง ธันวาคม 2020 บริษัทขาดทุนเกือบ 117 ล้านเหรียญจากรายได้ 155 ล้านเหรียญ ซึ่งลดลงร้อยละ 30 จากช่วงเดียวกันในปีก่อน ขณะที่ในเดือนมกราคม 2020 ก่อนที่จะเกิดวิกฤตโรคระบาด บริษัทก็ได้ทำการเลิกจ้างพนักงาน 100 คน หรือราวร้อยละ 14 ของพนักงานทั้งหมด
“23andMe คาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายจำนวนมากและมีแนวโน้มว่าจะขาดทุนจากการดำเนินงานต่อไปในอนาคตอันใกล้ เนื่องจาก 23andMe ยังคงขยายความพยายามในการวิจัยและพัฒนาการรักษาอย่างต่อเนื่อง” บริษัทกล่าวในการยื่นเอกสารต่อ ตลาดหลักทรัพย์ก่อนการควบรวมกิจการด้วยวิธี SPAC
ล่าสุด หุ้นของบริษัทปรับตัวลงกว่าร้อยละ 43 นับตั้งแต่การควบรวมกิจการในเดือนมิถุนายน
อ่านเพิ่มเติม: Anne Wojcicki มหาเศรษฐีหน้าใหม่จาก 23andMe บริษัทวิจัยพันธุกรรมอันดับ 7
Anthony Hsieh
ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ LoanDepot
สัญชาติ: อเมริกัน
สถานะมหาเศรษฐี: น้อยกว่า 8 เดือน
ทรัพย์สินสุทธิ: 649 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
การเสนอขายหุ้น IPO ได้เพิ่มมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของ Hsieh เป็น 2 พันล้านเหรียญ จากสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 54 ในบริษัท
ล่าสุด ในช่วงกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา Hsieh วัย 56 ปีมีมูลค่าน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนนั้น เนื่องจากหุ้น LoanDepot ตกลงมาต่ำกว่าราคา IPO เกือบร้อยละ 80 ท่ามกลางการต่อสู้กับข่าวคราวที่โจมตีบริษัทเรื่อยมา และความกังวัลเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยในหมู่ผู้บริโภค
อันดับ 8
Whitney Wolfe Herd
ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอ Bumble
สัญชาติ: อเมริกัน
สถานะมหาเศรษฐี: น้อยกว่า 11 เดือน
ทรัพย์สินสุทธิ: 970 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
Whitney Wolfe Herd ก้าวขึ้นเป็นมหาเศรษฐีอายุน้อยที่สุดแห่งปี 2021 ด้วยวัยเพียง 31 ปี หลังนำแอปพลิเคชันหาคู่ที่ออกแบบมาสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq ไปได้ 2.2 พันล้านเหรียญ
ทว่าจากการรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการเติบโตของผู้ใช้โดยรวมลดลง เมื่อเทียบกับแอปหาคู่อื่นๆ อย่าง Badoo ซึ่งเป็นที่นิยมนอกสหรัฐอเมริกา ได้ส่งผลให้ทรัพย์สินของ Wolfe Herd ปรับตัวลงเรื่อยๆ กระทั่งมีมูลค่าต่ำกว่า 1 พันล้านเหรียญ
อ่านเพิ่มเติม: Whitney Wolfe Herd ผู้ร่วมก่อตั้ง Bumble ก้าวขึ้นเป็นมหาเศรษฐีอายุน้อยที่สุดแห่งปี 2021อันดับ 9
John Foley
ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอ Peloton
สัญชาติ: อเมริกัน
สถานะมหาเศรษฐี: น้อยกว่า 1 ปี
ทรัพย์สินสุทธิ: 707 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
Foley ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอ Peloton มีรายชื่อปรากฎในทำเนียบมหาเศรษฐีของ Forbes ในเดือนเมษายน ด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1.5 พันล้านเหรียญ
บริษัทอุปกรณ์ออกกำลังกายซึ่งจัดจำหน่ายจักรยานออกกำลังกายและลู่วิ่งภายใต้ระบบสมัครสมาชิกสำหรับออกกำลังกายที่บ้าน ได้รับความสนใจในช่วงต้นของการระบาดใหญ่เป็นอย่างดี ส่งผลให้บริษัทมียอดขายปรับตัวสูงขึ้นกว่าร้อยละ 250 ในช่วงไตรมาสแรก
ทว่าหลังจากที่ยิมกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง Peloton ก็ต้องสูญเสียสถานะมหาเศรษฐี เนื่องจากหุ้น Peloton ร่วงลงกว่าร้อยละ 30 ในระยะเวลาเพียง 1 วันหลังจากรายงานผลประกอบการ
อันดับ 10
Jack Schuler
นักลงทุนและเศรษฐีใจบุญ
สัญชาติ: อเมริกัน
สถานะมหาเศรษฐี: น้อยกว่า 1 ปี
ทรัพย์สินสุทธิ: 757 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
Schuler อดีตประธาน Abbott Laboratories ซึ่งหันมาสนใจด้านการลงทุนในธุรกิจดูแลสุขภาพเป็นเวลาหลาย 10 ปี ได้รับผลตอบแทนครั้งใหญ่ในช่วงต้นของการระบาดใหญ่ จนมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิสูงถึง 1.1 พันล้านเหรียญ
โดยได้รับอานิสงส์จากการเดิมพันในเทคโนโลยีการแพทย์สมัยใหม่ ช่น การทดสอบโควิด-19 ที่พัฒนาโดย Quidel Corp. (หนึ่งในบริษัทแรกๆ ที่ได้รับการอนุมัติจาก FDA) และ Inspirotec ในอุปกรณ์ที่สามารถตรวจจับไวรัสในอากาศ
แต่ในที่สุดราคาหุ้นที่ลดลงอย่างรวดเร็วจากการลงทุนบางส่วนของเขา ซึ่งรวมถึง Accelerate Diagnostics, Biodesix และ Aspira Women's Health กลับทำให้เขาสูญเสียทรัพย์สินไปมากกว่า 300 ล้านเหรียญ
แปลและเรียบเรียงโดย ชญาน์นัทช์ ธนินท์พงศ์ภัค จากบทความ Super-Rich, But Only For A Second—Meet The Briefest Billionaires Of 2021 เผยแพร่บน Forbes.com อ่านเพิ่มเติม: 10 อันดับ “ยูทูบเบอร์” รายได้สูงสุดในโลก ประจำปี 2021