จากสถานการณ์ที่ตลาดหุ้นทั่วโลกทยอยปรับตัวพุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้เหล่ามหาเศรษฐีจำนวนครึ่งหนึ่งจาก 2,568 คนทั่วโลกมีฐานะร่ำรวยมั่งคั่งเพิ่มขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าหากเทียบจากวันปีใหม่ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดย 10 อันดับแรก มีอัตราความร่ำรวยที่เพิ่มขึ้นเห็นได้จากมูลค่าความมั่งคั่งที่รวมกันแล้วเป็นเงินสูงถึง 5 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ
การจัดอันดับมหาเศรษฐีทั้ง 10 ราย ที่ร่ำรวยเพิ่มมากขึ้นที่สุดแห่งปี 2023 โดยทาง Forbes เองยังได้ประมาณการณ์เอาไว้ว่าตัวเลขความมั่งคั่งของพวกเขาเมื่อรวมกันแล้วจะมีมูลค่าสูงถึง 4.9 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นข้อมูลล่าสุดที่อัปเดตต่อเนื่องจนถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2023
มหาเศรษฐีที่มีรายชื่อถูกจัดอยู่ในอันดับครั้งนี้ จำนวน 7 ใน 10 ราย คือ หัวเรือใหญ่แห่งความมั่งคั่งด้านธุรกิจเทคโนโลยี ซึ่งตลอดช่วงปี 2023 ที่ผ่านมาถือเป็นปีแห่งการฟื้นตัวของตลาดหุ้นอเมริกา โดยดัชนีหุ้น Nasdaq Composite ที่เน้นเทคโนโลยีจะกระโดดเพิ่มขึ้นถึง 42% ถือเป็นตัวเลขเกือบสองเท่าของการเพิ่มขึ้นของ S&P 500 ที่เติบโตในอัตรา 23% อีกทั้งหุ้นส่วนใหญ่ของเหล่า “7 มหาเศรษฐี” ที่ถือครองพอร์ตอยู่ในมือคือตัวช่วยหลักที่ขับเคลื่อนมูลค่าความร่ำรวยของพวกเขาให้เพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ได้แก่ Apple, Microsoft, Alphabet, Amazon, Nvidia, Tesla และ Meta
หากเทียบจากความร่ำรวยที่เพิ่มขึ้นคงจะไม่มีใครแซงหน้าเจ้าพ่อ Tesla อย่าง Elon Musk ไปได้ ซึ่ง Forbes จัดให้เขาอยู่ในกลุ่มมหาเศรษฐีด้านยานยนต์ เหตุเพราะความมั่งคั่งส่วนใหญ่ของเขามาจากการผลิตรถยนต์ Tesla นั่นเอง โดยช่วงเริ่มต้นของปี 2023 Musk ถูกจัดอันดับให้อยู่ในฐานะบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดเป็นอันดับสองของโลก โดยมีมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 1.465 แสนล้านเหรียญ หลังจากที่ต้องสูญเสียเงินไปในปี 2022 มากกว่าใครๆ แต่สุดท้ายเขาก็สามารถกลับมาผงาดขึ้นอันดับหนึ่งในช่วงปลายปีนี้ได้อย่างเหนือชั้น โดยรายได้สุทธิของเขาเพิ่มมากขึ้นถึง 1.08 แสนล้านเหรียญ ท่ามกลางการกลับตัวของหุ้น Tesla ที่น่าทึ่ง
อย่างไรก็ตาม มีเพียงมหาเศรษฐี 2 ใน 10 อันดับแรกของปีนี้ที่มาจากนอกสหรัฐอเมริกา ได้แก่ Prajogo Pangestu ผู้ประกอบการด้านปิโตรเคมีและพลังงานของอินโดนีเซีย ซึ่งมีรายได้ความร่ำรวยเติบโตสูงสุดในแง่ของเปอร์เซ็นต์ (มากกว่า 900%) ส่วนอีกรายหนึ่งก็คือ Amancio Ortega เจ้าพ่อแห่งวงการแฟชั่นเสื้อผ้าค้าปลีกชาวสเปนผู้อยู่เบื้องหลังแบรนด์ดังอย่าง Zara นั่นเอง

1. Elon Musk
ธุรกิจยานยนต์ : Tesla, SpaceX
รวยเพิ่ม +1.084 แสนล้านเหรียญ
รายได้สุทธิ : 2.549 แสนล้านเหรียญ
หุ้นของ Tesla ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของ Elon Musk ซึ่งเริ่มส่งมอบรถยนต์ Cybertrucks เมื่อเดือนที่แล้ว เพิ่มขึ้นมากกว่า 100% และธุรกิจจรวด SpaceX ของเขาก็ประสบความสำเร็จในการเปิดตัวมากกว่า 90 ครั้งในปีนี้ ส่งผลให้มูลค่าของ SpaceX พุ่งสูงขึ้นเป็นมูลค่า 1.5 แสนล้านเหรียญในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และขณะนี้กล่าวกันว่าอยู่ในขั้นตอนการขายหุ้นที่มูลค่า 1.8 แสนล้านเหรียญ

2. Mark Zuckerberg
ธุรกิจเทคโนโลยี : Facebook
รวยเพิ่ม +7.48 หมื่นล้านเหรียญ
รายได้สุทธิ : 1.186 แสนล้านเหรียญ
หลังจากผ่านพ้นวิกฤตในปี 2022 ไปได้อย่างยากลำบากด้วยราคาหุ้นตกต่ำ ผลกำไรร่วงหล่น และการเลิกจ้างอย่างมีนัยสำคัญ แต่ทว่าในไตรมาส 4 ของปี 2023 นี้ Mark Zuckerberg สามารถกลับมายืนหยัดอย่างสง่างามอีกครั้ง โดยเพิ่มความมั่งคั่งราว 7.5 หมื่นล้านเหรียญ ขณะเดียวกันหุ้นของ Meta บริษัทแม่ของ Facebook ก็ยังเพิ่มขึ้นถึง 178% ในปีนี้ จากข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2023 ซึ่งถือเป็นปีที่ดีที่สุดของเขาเท่าที่เคยมีมา

3. Jeff Bezos
ธุรกิจเทคโนโลยี : Amazon
รวยเพิ่ม +6.5 หมื่นล้านเหรียญ
รายได้สุทธิ : 1.723 แสนล้านเหรียญฯ
หุ้นของ Amazon เพิ่มขึ้น 79% ในปี 2023 ทำให้ Bezos ได้ครอบครองเป็นเจ้าของเรือยอทช์ลำใหม่ด้วย นอกจากนี้ เขายังได้หมั้นหมายกับอดีตผู้ประกาศข่าวทางทีวี Lauren Sanchez ในปีนี้ด้วยเช่นกัน ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีหลายต่อที่ทำให้เขาน่าจะเฉลิมฉลองข่าวดีและความรวยที่พุ่งกระฉูดในปีนี้ด้วย

4. Prajogo Pangestu
ธุรกิจค้าไม้และปิโตรเคมี
รวยเพิ่ม +4.79 หมื่นล้านเหรียญ
รายได้สุทธิ : 5.28 หมื่นล้านเหรียญ
เจ้าพ่อชาวอินโดนีเซียรายนี้ร่ำรวยจากธุรกิจไม้และปิโตรเคมี เขาเข้าจดทะเบียนธุรกิจเหมืองถ่านหินในเดือนมีนาคม และในเดือนตุลาคม เขาเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานทดแทนที่เป็นเจ้าของผู้ผลิตความร้อนใต้พิภพรายใหญ่ที่สุดของประเทศ หลังจากนั้นหุ้นของเขาก็ดีดตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 200%

5. Larry Page
ธุรกิจเทคโนโลยี : Google
รวยเพิ่ม +3.44 หมื่นล้านเหรียญ
รายได้สุทธิ : 1.117 แสนล้านเหรียญ
หุ้นในบริษัทแม่ของ Google Alphabet เพิ่มขึ้น 50% ในปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนรอคอยซอฟต์แวร์ Gemini AI ของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีในปี 2567 Alphabet ซึ่ง Page ร่วมก่อตั้งกับ Sergey Brin ในปี 2541 ได้เปิดตัว AI chatbot Bard ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

6. Amancio Ortega
ธุรกิจเสื้อผ้าแฟชั่น : Zara
รวยเพิ่ม +3.32 หมื่นล้านเหรียญ
รายได้สุทธิ : 9.74 หมื่นล้านเหรียญ
Amancio Ortega มหาเศรษฐีชาวสเปน ซึ่งเป็นเจ้าของเสื้อผ้าฟาสต์แฟชั่นแบรนด์ดังอย่าง Zara รายนี้ ได้ทำการจดทะเบียนธุรกิจในเมืองมาดริด โดยหุ้น Inditex ของบริษัทเขาเพิ่มขึ้น 57% ในปี 2023 เพื่อทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ถือเป็นข่าวดีสำหรับ Ortega ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทประมาณ 60% และนั่งเป็นคณะกรรมการร่วมกับลูกสาว Marta Ortega Perez ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานที่ไม่ใช่ผู้บริหารมาตั้งแต่ปี 2022

7. Sergey Brin
ธุรกิจเทคโนโลยี : Google
รวยเพิ่ม +3.3 หมื่นล้านเหรียญ
รายได้สุทธิ : 1.073 แสนล้านเหรียญ
Sergey Brin ซีึงเคยร่วมกับ Larry Page โบกมือลาออกจาก Google ไปในปี 2019 แต่แล้วเขาก็หวนกลับมายังบริษัทเดิมในตำแหน่งที่ต้องมีหน้าที่รับผิดชอบมากที่สุดในปี 2023 โดยเขาทำงานเกี่ยวกับการพัฒนาขีดความสามารถด้านต่างๆ ของระบบ AI

8. Steve Ballmer
ธุรกิจเทคโนโลยี : Microsoft
รวยเพิ่ม +3.24 หมื่นล้านเหรียญ
รายได้สุทธิ : 1.109 แสนล้านเหรียญ
Steve Ballmer ในฐานะอดีต CEO ของ Microsoft นับตั้งแต่ปี 2000 ถึง 2014 และยังคงเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ โดยหุ้นของเขาปรับเพิ่มขึ้นถึง 55% ซึ่งส่วนใหญ่คงต้องขอบคุณการลงทุนที่มีกำไรของ Microsoft มูลค่า 1 หมื่นล้านเหรียญใน OpenAI ผู้พัฒนา Chat GPT

9. Larry Ellison
ธุรกิจเทคโนโลยี : Oracle
รวยเพิ่ม +3.08 หมื่นล้านเหรียญ
รายได้สุทธิ : 1.332 แสนล้านเหรียญ
ความต้องการบริการศูนย์ข้อมูลที่ขับเคลื่อนโดย AI ช่วยเพิ่มหุ้นของ Oracle ซึ่งเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ยักษ์ใหญ่ที่ Ellison ก่อตั้งในปี 1977 เพิ่มขึ้นได้ 26% ในปีนี้ นี่จึงเป็นผลให้ Ellison ซึ่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ Oracle ร่ำรวยขึ้นมากกว่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์ แม้ว่าจะขายออกไปเมื่อเร็วๆ นี้ก็ตาม

10. Jensen Huang
ธุรกิจเทคโนโลยี : Nvidia
รวยเพิ่ม +2.98 หมื่นล้านเหรียญ
ทรัพย์สินสุทธิ : 4.36 หมื่นล้านเหรียญ
คงไม่มีใครสามารถรวบรวมความเจริญของระบบ AI ได้ดีไปกว่า Huang ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Nvidia ซึ่งออกแบบชิปที่ใช้สำหรับระบบปัญญาประดิษฐ์มากกว่าใครๆ จึงทำให้หุ้นของเขาพุ่งขึ้นกระฉูดถึง 230% ในปี 2023 ส่งผลให้มูลค่าตลาดของ Nvidia มีมูลค่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ และทำให้ Huang ที่เกิดในไต้หวัน ซึ่งมีรอยสักโลโก้บริษัทบนแขนของเขา กลายเป็น 1 ใน 20 ชาวอเมริกันที่ร่ำรวยที่สุดด้วยเช่นกัน
แปลและเรียบเรียงจากบทความ The Biggest Billionaire Winners Of 2023: 10 Who Gained $500 BIllion
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :อานิสงส์ขาขึ้นธุรกิจพลังงานและเหมืองแร่ อัดฉีดความมั่งคั่งสู่ทำเนียบมหาเศรษฐีอินโดนีเซีย ประจำปี 2023
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine