10 มหาเศรษฐีโลก ประจำปี 2022 มีทั้งเบอร์ 1 คนใหม่ที่หลายคนคุ้นหน้า และหน้าใหม่จากประเทศที่ไม่เคยมีเศรษฐีพันล้านมาก่อน โดยถึงแม้ว่าทั่วโลกจะประสบปัญหามากมายแค่ไหน พวกเขาก็ยังคงรวยขึ้นอย่างไม่ถอย
ในปีนี้ สงคราม โรคระบาด และสภาวะตลาดอันล่าช้า ปัจจัยเหล่านี้ได้ขัดขาเหล่ามหาเศรษฐีพันล้านทั่วโลกทั้ง 2,668 คนในทำเนียบการจัดอันดับบุคคลที่รวยที่สุดในโลกครั้งที่ 36 ของ Forbes และเป็นส่วนสำคัญทำให้มหาเศรษฐีหลุดทำเนียบมากถึง 87 คนเมื่อเทียบกับปี 2021 โดย 10 มหาเศรษฐีโลก เหล่านี้มีทรัพย์สินรวมกันทั้งสินอยู่ที่ 12.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ น้อยกว่าทรัพย์สินของพวกเมื่อปีที่แล้ว 4 แสนล้านเหรียญ
จำนวนความมั่งคั่งและมหาเศรษฐีที่หายไปจากการจัดอันดับประจำปีนี้ เกิดจากสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน หลังจาก Vladimir Putin เริ่มเดินหน้าทางการทหารเข้ายึดยูเครน ทำให้มหาเศรษฐีจากประเทศนี้ตกทำเนียบไปถึง 34 คนด้วยกัน ด้านประเทศจีนเองส่งออกมหาเศรษฐีในจำนวนที่น้อยลงเช่นกัน หลังจากรัฐบาลจีนเริ่มเพ่งเล็งบริษัทด้านเทคโนโลยีมากขึ้นทำให้มหาเศรษฐีชาวจีนหายหน้าหายตาไปจากทำเนียบนี้ถึง 87 คน
อย่างไรก็ตาม Forbes พบว่ามหาเศรษฐีพันล้านมากกว่า 1,000 คนมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว อีกทั้งยังมีมหาเศรษฐีหน้าใหม่ในปีนี้ถึง 236 คน และยังมีประเทศที่ไม่เคยได้มีรายชื่อเศรษฐีติดโผมาก่อนอย่างบาร์เบโดส, บัลแกเรีย, เอสโตเนีย และอุรุกวัย
สหรัฐอเมริกายังคงนำหน้าประเทศอื่นๆ โดยส่งออกมหาเศรษฐีพันล้านถึง 735 คน รวมสินทรัพย์ทั้งสิ้น 4.7 ล้านล้านเหรียญ โดยหนึ่งในรายชื่อนั้นคือ Elon Musk ผู้ขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 ในการจัดอันดับนี้เป็นครั้งแรก ส่วนมหาเศรษฐีชาวจีน (รวมถึงมาเก๊า และฮ่องกง) ยังครองตำแหน่งอันดับที่ 2 เอาไว้ได้เช่นเคย โดยมีมหาเศรษฐีพันล้านจากประเทศจีนถึง 607 คน สินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 2.3 ล้านล้านเหรียญ
เราใช้ราคาหุ้น และอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 11 มีนาคม 2022 ในการคำนวนมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ
10 มหาเศรษฐีโลก ประจำปี 2022
อันดับ 1
Elon Musk
Elon เดินหน้าปฏิรูปวงการคมนาคม ทั้งบนโลกผ่านธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า Tesla และนอกโลกผ่านธุรกิจผลิตยานอวกาศ SpaceX
ทรัพย์สินสุทธิ: 2.19 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
แหล่งที่มาทรัพย์สิน: Tesla และ SpaceX
ประเภทธุรกิจ: ยานยนต์
“ผมดำเนินงานโดยใช้วิธีการแบบฟิสิกส์ในการวิเคราะห์ คุณแยกแยะทุกอย่างออกมาจนพบหลักการแรกหรือไม่ก็ความจริงพื้นฐานก่อนในเรื่องนั้นๆ ก่อน แล้วคุณก็ค่อยๆ หาก้าวต่อไปอย่างมีเหตุผล” Elon Musk
อันดับ 2
Jeff Bezos
ก่อตั้ง Amazon ยักษ์ใหญ่แห่งอี-คอมเมิร์ซในปี 1998 ในโรงจอดรถของเขา ณ เมือง Seattle และตอนนี้เขาจะก้าวลงจากตำแหน่งซีอีโอ ผันตัวมาเป็นประธานกรรมการบริหารเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2021
ทรัพย์สินสุทธิ: 1.71 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
แหล่งที่มาทรัพย์สิน: Amazon
ประเภทธุรกิจ: เทคโนโลยี
“ผมไม่คิดว่าผมจะรู้สึกเสียดายที่พยายามไปแล้วก็ล้มเหลว และผมคาดว่าผมจะโดนการตัดสินใจไม่ลองต่างหากตามหลอกหลอน” Jeff Bezos
อันดับ 3
Bernard Arnault และครอบครัว
Arnault คอยดูแลอาณาจักร LVMH ที่มีแบรนด์แฟชั่นและเครื่องสำอางค์ในเครือกว่า 70 แบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น Louis Vuitton จนไปถึง Sephora
ทรัพย์สินสุทธิ: 1.58 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ
ประเทศ: ฝรั่งเศส
แหล่งที่มาทรัพย์สิน: LVMH
ประเภทธุรกิจ: แฟชั่นและรีเทล
“ผมมองว่าผมเป็นทูตแห่งวัฒนธรรมและประเพณีฝรั่งเศส เราสรรค์สร้างสัญลักษณ์ซึ่งเชื่อมโยงกับ Versailles กับ Marie Antoinette” Bernard Arnault
อันดับ 4
Bill Gates
เม็ดเงินจากบริษัทซอฟต์แวร์ Microsoft ของเขาหลากหลายขึ้นเมื่อเขานำเงินเหล่านั้นไปลงทุนต่อในพลังงานปราศจากคาร์บอน
ทรัพย์สินสุทธิ: 1.29 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
แหล่งที่มาทรัพย์สิน: Microsoft
ประเภทธุรกิจ: เทคโนโลยี
“เงินไม่ประโยชน์สำหรับผมเมื่อเลยจุดๆ หนึ่งมาแล้ว ประโยชน์ของมันคือการที่นำมาสร้างองค์กรและแจกจ่ายทรัพยากรให้กับผู้ที่ยากไร้บนโลกนี้” Bill Gates
อันดับ 5
Warren Buffett
หนึ่งในนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จที่สุดตลอดกาล จนได้รับฉายาว่า “Oracle of Omaha” หรือ “นักทำนายแห่ง Omaha”
ทรัพย์สินสุทธิ: 1.18 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
แหล่งที่มาทรัพย์สิน: Berkshire Hathaway
ประเภทธุรกิจ: การเงินและการลงทุน
“คนที่มีเหตุผลจะไม่เอาสิ่งที่ตัวเองมีและจำเป็นต้องมีไปเสี่ยงแลกกับอะไรที่เขาไม่มีและไม่จำเป็นต้องมี” Warren Buffett
อันดับ 6
Larry Page
ในเดือนธันวาคม ปี 2019 Page ได้ก้าวลงจากตำแหน่งซีอีโอแห่ง Alphabet บริษัทแม่ของ Google แต่อย่างไรก็ตาม เขายังคงเป็นหนึ่งในสมาชิกบอร์ดบริหาร และผู้ถือหุ้นที่มีอำนาจตัดสินใจอยู่
ทรัพย์สินสุทธิ: 1.11 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
แหล่งที่มาทรัพย์สิน: Google
ประเภทธุรกิจ: เทคโนโลยี
“ความฝันไม่เคยสูญหายไป แต่มันถูกฟักจนกลายเป็นงานอดิเรกต่างหาก” Larry Page
อันดับ 7
Sergey Brin
ในเดือนธันวาคม ปี 2019 Brin ก็ได้ก้าวลงจากตำแหน่งประธานบริษัท Alphabet เช่นกัน แต่ก็ยังคงเป็นหนึ่งในสมาชิกบอร์ดบริหาร และผู้ถือหุ้นที่มีอำนาจตัดสินใจ
ทรัพย์สินสุทธิ: 1.07 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
แหล่งที่มาทรัพย์สิน: Google
ประเภทธุรกิจ: เทคโนโลยี
“แน่นอนว่าทุกคนอยากจะประสบความสำเร็จ แต่ผมอยากให้คนมองย้อนกลับไปแล้วมองว่าผมล้ำสมัย ได้รับการไว้วางใจ มีศีลธรรม และสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโลกใบนี้ได้มากที่สุด” Sergey Brin
อันดับ 8
Larry Ellison
ผู้ร่วมก่อตั้ง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี และผู้นั่งเก้าอี้ประธานบริษัทซอฟต์แวร์ยักษ์ใหญ่ Oracle โดยเขาถือหุ้นในบริษัทอยู่ร้อยละ 35
ทรัพย์สินสุทธิ: 1.06 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
แหล่งที่มาทรัพย์สิน: ซอฟต์แวร์
ประเภทธุรกิจ: เทคโนโลยี
“เมื่อคนเริ่มทักว่าคุณบ้าไปแล้ว นั่นอาจหมายความว่าคุณกำลังสร้างนวัตกรรมที่สำคัญที่สุดในชีวิตคุณอยู่” Larry Ellison
อันดับ 9
Steve Ballmer
อดีตซีอีโอไฟแรงแห่ง Microsoft โดยเขาดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี 2000 จนถึง 2014
ทรัพย์สินสุทธิ: 9.14 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
แหล่งที่มาทรัพย์สิน: Microsoft
ประเภทธุรกิจ: เทคโนโลยี
“วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์คือระบบปฏิบัติการของนวัตกรรรมทุกอย่าง” - Steve Ballmer
อันดับ 10
Mukesh Ambani
ประธานและผู้ดำเนินการแห่งบริษัทรายได้ 7.4 หมื่นล้านเหรียญอย่าง Reliance Industries ที่ให้ความสนใจทั้งเรื่องปิโตรเคมี น้ำมัน ก๊าซ โทรคมนาคม และรีเทล
ทรัพย์สินสุทธิ: 9.07 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ
ประเทศ: อินเดีย
แหล่งที่มาทรัพย์สิน: หลากหลาย
ประเภทธุรกิจ: หลากหลาย
“ทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะอะไรก็ตามที่สามารถก้าวเข้าสู่โลกดิจิทัลได้ก็ก้าวเข้าสู่โลกนั้นแล้ว อินเดียไม่สามารถโดนทิ้งไว้ข้างหลังได้” Mukesh Ambani
สามารถเข้าดูรายชื่อ มหาเศรษฐีโลก ประจำปี 2022 ทั้งหมดได้ที่นี้
และสามารถเข้าถึงรายงานทรัพย์สินสุทธิของเหล่ามหาเศรษฐีทั้ง 2,668 คนแบบวันต่อวันได้บนกระดานการจัดอันดับแบบ real-time ของทาง Forbes
บทความโดย ทัตชญา บุษยากิตติกร แปลและเรียบเรียงจากบทความ Forbes World
s Billionaires List: The Richest in 2022 เผยแพร่บน Forbes.com
อ่านเพิ่มเติม: 15 สโมสร MLB มูลค่าสูงที่สุดประจำปี 2022
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine