15 สโมสร MLB มูลค่าสูงที่สุดประจำปี 2022 - Forbes Thailand

15 สโมสร MLB มูลค่าสูงที่สุดประจำปี 2022

Major League Baseball (MLB) เสนอการโฆษณาบนชุดนักกีฬา และขยายเกมหลังจบฤดู ผลักให้มูลค่าโดยเฉลี่ยของสโมสรทั้งหลายอยู่ที่ 2.07 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

Major League Baseball (MLB) ปิดสนามไม่ให้ผู้เล่นก้าวเข้ามาเป็นเวลา 3 เดือนในขณะที่พวกเขาพูดคุยกันเรื่องข้อตกลงสภาพการจ้างใหม่ (CBA) และเพียง 2 สัปดาห์หลังจากที่ข้อตกลงลงตัว สโมสรต่างๆ ก็มีเม็ดเงินหลั่งไหลเข้ามาอย่างท่วมท้น

นอกจากความสงบด้านแรงงาน ซึ่งช่วยให้เกิดเสถียรภาพทางเศรษฐกิจแล้ว ข้อตกลงสภาพการจ้างอันใหม่นี้ยังทำให้เกิดช่องทางสร้างรายได้ใหม่จากสปอนเซอร์ถึง 2 ช่องทางที่คาดว่าจะเริ่มใช้ในฤดู 2023 โดยช่องทางเหล่านั้นคือการโฆษณาบนเสื้อกีฬาและหมวกนิรภัย ช่องทางนั้นช่วยผลักให้มูลค่าโดยเฉลี่ยของสโมสร Major League ทั้งหลายเพิ่มขึ้นร้อยละ 9 ในช่วงปีที่แล้ว กลายเป็น 2.07 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นมูลค่าที่เพิ่มขึ้นมามากที่สุดในรอบ 4 ปี และสูงเป็นประวัติกาล

สโมสรใหญ่ๆ ดูท่าทีจะเป็นผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จากวิธีหาสปอนเซอร์ใหม่ๆ ซึ่งนี่ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ New York Yankees กลายเป็นสโมสรเบสบอลสโมสรแรกที่มีมูลค่าถึง 6 พันล้านเหรียญ และตามหลังสโมสร Dallas Cowboys (6.5 พันล้านเหรียญ) สโมสรเดียวเท่านั้นในทำเนียบสโมสรกีฬาที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก 

ดีลการโฆษณาบนเสื้อกีฬาดูเหมือนว่าจะเป็นดีลท้องถิ่น นั่นหมายความว่าสโมสรทั้งหลายสามารถปิดดีลเองได้ อีกทั้งยังสามารถเก็บเงินทั้งหมดจากตรงนั้นเข้ากระเป๋าตัวเองได้อีกด้วย ส่วนดีลโฆษณาบนหมวกนิรภัยอาจจะเป็นดีลระดับประเทศ ซึ่งทาง MLB จะเป็นผู้ควบคุมและผู้แบ่งเงินระหว่างสโมสรทั้ง 30 สโมสรอย่างเท่าเทียมกัน

ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาของข้อตกลงสภาพการจ้าง 5 ปีอันใหม่นี้ รายได้จากสปอนเซอร์รวมๆ แล้วอาจสูงถึง 400 ล้านเหรียญต่อปี เป็นตัวเลขที่สวยกว่า 225 ล้านเหรียญที่ทาง NBA รายงานว่าได้รับจากช่องทางรายได้หลักช่องทางเดียวของพวกเขาอย่างการโฆษณาบนเสื้อกีฬา

“MLB สามารถสร้างเม็ดเงินได้จากการโฆษณาบนเสื้อกีฬามากกว่า NBA ซะอีก เพราะว่าเบสบอลเป็นกีฬาที่ช้ากว่า และมีตารางที่ยาวนานกว่า Peter Laatz ผู้นั่งตำแหน่ง Global Managing Director ประจำ IEG บริษัทให้ปรึกษาด้านสปอนเซอร์ IEG กล่าว นี่ถือเป็นข่าวดีทีเดียวสำหรับกีฬาที่รายได้จากสปอนเซอร์ (จากทางสโมสร สนามกีฬา และ ข้อตกลงระดับลีก) ที่ทาง IEG คาดว่าเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 6 ต่อปีมาตั้งแต่ปี 2017 เท่านั้น

แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้สวยหรู เม็ดเงินบางส่วนจากกีฬานี้ก็ถูกนำไปใช้เป็นเงินโบนัส 50 ล้านเหรียญต่อปีก้อนใหม่ตามข้อตกลงสภาพการจ้างซึ่งสร้างขึ้นมาเพื่อผู้เล่นที่จะไม่ผ่านเกณฑ์ได้รับเงินเดือน

อีกหนึ่งสิ่งที่ถูกเปลี่ยนในข้อตกลงสภาพการจ้างใหม่ใหม่นี้ที่อาจจะช่วยให้มูลค่าของทีมทั้งหลายพุ่งขึ้นคือ การเพิ่มจำนวนสโมสรในรอบเพลย์ออฟจาก 10 เป็น 12 หน่ำซ้ำยังมีรอบ wild-card ที่จะเปลี่ยนจากเกม 1 เกมเป็นซีรีย์แบบ a best-of-three แทน

อีกทั้งยังมีเสียงแว่วๆ จากวงในว่า ESPN ผู้ซึ่งมีสิทธิในเกมรอบเพลย์ออฟทุกเกมภายใต้ข้อตกลงทางโทรทัศน์อันปัจจุบันของทาง MLB ก็ดูท่าจะต้องควักอย่างน้อยๆ 65 ล้านเหรียญต่อปีสำหรับเกมหลังจบฤดูใหม่เหล่านี้ เมื่อมาคำนวนดูแล้ว แต่ละสโมสรก็จะได้ไปกันคนละมากกว่า 2 ล้านเหรียญ และนี่ก็หลังจากที่ได้ดีลสตรีมมิ่งดีลใหม่กับ Apple และ Peacock ที่มีมูลค่า 115 ล้านเหรียญต่อปี

เม็ดเงินจาก Apple, Peacock และ ESPN จะเป็นตัวผลักให้ค่าสิขสิทธิ์สื่อต่อปีของกีฬาเบสบอลทะลุ 2 พันล้านได้ หรืออย่างน้อยๆ ก็ร้อยละ 30 มากกว่าการปิดดีลสื่อรอบที่แล้ว

ส่วนในระดับท้องถิ่นนั้น ดีลกับสถานีโทรทัศน์เคเบิลมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมากในการจัดอันดับสโมสรเบสบอลเหล่านี้ เพราะในขณะที่สโมสรรั้งท้ายทำเนียบ Forbes เพียงแค่ได้สัก 60 ล้านเหรียญจากการขายลิขสิทธิ์ให้กับโทรทัศน์เคเบิลท้องถิ่นก็ถือว่าโชคดีแล้ว แต่ Yankees กลับสามารถคว้าเงินจากโทรทัศน์เคเบิลมาได้ถึง 135 ล้านเหรียญในฤดูกาลที่ผ่านมา ส่วน Los Angeles Dodgers สโมสรมูลค่าสูงเป็นอันดับ 2 (4.08 พันล้านเหรียญ) คว้าเงินจากโทรทัศน์เคเบิลมาได้ถึง 189 ล้านเหรียญ

ตัวช่วยสร้างรายได้ทั้งหลายเหล่านี้จะช่วยให้สโมสรต่างๆ ฟื้นตัวจาก 2 ฤดูกาลที่ผ่านมาได้หลังจากต้องฝ่าช่วงหนึ่งของปี 2020 ไปแบบไร้เงาแฟนๆ ในสนาม และปี 2021 ทั้งปีที่สโมสรส่วนใหญ่ไม่สามารถรับผู้ชมรับเต็มจำนวนได้จนถึงเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมานี้ ในปี 2019 ฤดูกาลสุดท้ายก่อนที่โควิด-19 จะบุก รายได้โดยเฉลี่ยของสโมสรต่างๆ (รายได้ก่อนหักกำไร ภาษี ค่าเสื่อมราคา และการผ่อนชำระหนี้) อยู่ที่ 50 ล้านเหรียญ ส่วนในปี 2020 และ 2021 รายได้ตรงนั้นอยู่ที่ 60 ล้านเหรียญ และ 22 ล้านเหรียญตามลำดับ

พูดง่ายๆ ก็คือ หลังจากที่เก็บเงิน 1.5 พันล้านเหรียญเข้ากระเป๋าไปในปี 2019 ทาง MLB สูญเสียเงินไปเป็นจำนวน 1.14 พันล้านเหรียญในช่วง 2 ฤดูกาลที่ผ่านมานี้ และเพื่อให้งบดุลยังลอยตัวอยู่ได้ นายธนาคารหลานคนเผยว่า เหล่าเจ้าของสโมสรได้สร้างหนี้มากกว่า 2 พันล้านเหรียญ (ไม่รวมการยืมเงินจากบริษัทแม่) และอัดเงินราวๆ 1.5 พันล้านเหรียญในหุ้นทุนในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

สโมสรที่ฟื้นตัวได้ดีอย่างเห็นชัดที่สุดคือ Texas Rangers มูลค่าของพวกเขาเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึงร้อยละ 15 เป็น 2.05 พันล้านเหรียญ ถือว่าเป็นการเติบโตที่แซงหน้าสโมสรเบสบอลอื่นๆ โดย Rangers ดันโชคร้ายที่เปิดประตูสนามเบสบอลแห่งใหม่ Globe Life Field ในปี 2020 ปีที่สถานการณ์โรคระบาดเป็นตัวขัดขาไม่ให้แฟนๆ มาเยือน

แต่ในฤดูกาลที่ผ่านมา สโมสรแห่งนี้เป็นผู้ครองตำแหน่งสนามเบสบอลที่มียอดผู้เข้าชมโดยเฉลี่ยสูงที่สุดเป็นอันดับ 4 และสูงที่สุดใน American League (26,050) สนามเบสบอลใหม่ๆ มักจะมีราคาตั๋วที่สูง และสโมสร Rangers ก็เสมอกับ San Francisco Giants ในเรื่องราคา โดยทั้งคู่มีราคาตั๋วทั่วไปแพงเป็นอันดับที่ 8 (39 เหรียญ) และตั๋วพรีเมี่ยมแพงเป็นอันดับที่ 5 (198 เหรียญ) ในแวดวงกีฬาเบสบอลนี้

15 อันดับสโมสร MLB ประจำปี 2022

อันดับ 1 New York Yankees มูลค่า: 6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ การเปลี่ยนแปลงใน 1 ปี: ร้อยละ 14 เจ้าของ: ครอบครัว Steinbrenner กำไรจากการดำเนินงานหลังหักลบค่าใช้จ่าย: 40 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อันดับ 2 Los Angeles Dodgers มูลค่า: 4.075 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ การเปลี่ยนแปลงใน 1 ปี: ร้อยละ 14 เจ้าของ: Guggenheim Baseball Management กำไรจากการดำเนินงานหลังหักลบค่าใช้จ่าย: 8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อันดับ 3 Boston Red Sox มูลค่า: 3.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ การเปลี่ยนแปลงใน 1 ปี: ร้อยละ 13 เจ้าของ: John Henry และ Thomas Werner กำไรจากการดำเนินงานหลังหักลบค่าใช้จ่าย: 69 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อันดับ 4 Chicago Cubs มูลค่า: 3.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ การเปลี่ยนแปลงใน 1 ปี: ร้อยละ 13 เจ้าของ: ครอบครัว Ricketts กำไรจากการดำเนินงานหลังหักลบค่าใช้จ่าย: 68 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อันดับ 5 San Francisco Giants มูลค่า: 3.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ การเปลี่ยนแปลงใน 1 ปี: ร้อยละ 10 เจ้าของ: Greg Johnson กำไรจากการดำเนินงานหลังหักลบค่าใช้จ่าย: 32 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อันดับ 6 New York Mets มูลค่า: 2.65 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ การเปลี่ยนแปลงใน 1 ปี: ร้อยละ 8 เจ้าของ: Steve Cohen กำไรจากการดำเนินงานหลังหักลบค่าใช้จ่าย: 96 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อันดับ 7 St. Louis Cardinals มูลค่า: 2.45 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ การเปลี่ยนแปลงใน 1 ปี: ร้อยละ 9 เจ้าของ: William DeWitt Jr. กำไรจากการดำเนินงานหลังหักลบค่าใช้จ่าย: 34 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อันดับ 8 Philadelphia Phillies มูลค่า: 2.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ การเปลี่ยนแปลงใน 1 ปี: ร้อยละ 12 เจ้าของ: ครอบครัว Middleton และครอบครัว Buck กำไรจากการดำเนินงานหลังหักลบค่าใช้จ่าย: 17 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อันดับ 9 Los Angeles Angels มูลค่า: 2.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ การเปลี่ยนแปลงใน 1 ปี: ร้อยละ 9 เจ้าของ: Arturo Moreno กำไรจากการดำเนินงานหลังหักลบค่าใช้จ่าย: 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อันดับ 10 Atlanta Braves มูลค่า: 2.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ การเปลี่ยนแปลงใน 1 ปี: ร้อยละ 12 เจ้าของ: Liberty Media กำไรจากการดำเนินงานหลังหักลบค่าใช้จ่าย: 83 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อันดับ 11 Texas Rangers มูลค่า:  2.05 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ การเปลี่ยนแปลงใน 1 ปี: ร้อยละ 15 เจ้าของ: Ray Davis และ Bob Simpson กำไรจากการดำเนินงานหลังหักลบค่าใช้จ่าย: 97 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อันดับ 12 Washington Nationals มูลค่า: 2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ การเปลี่ยนแปลงใน 1 ปี: ร้อยละ 4 เจ้าของ: ครอบครัว Lerner กำไรจากการดำเนินงานหลังหักลบค่าใช้จ่าย: 36 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อันดับ 13 Houston Astros มูลค่า: 1.98 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ การเปลี่ยนแปลงใน 1 ปี: ร้อยละ 6 เจ้าของ: Jim Crane กำไรจากการดำเนินงานหลังหักลบค่าใช้จ่าย: 29 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อันดับ 14 Toronto Blue Jays มูลค่า: 1.78 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ การเปลี่ยนแปลงใน 1 ปี: ร้อยละ 6 เจ้าของ: Rogers Communications กำไรจากการดำเนินงานหลังหักลบค่าใช้จ่าย: 52 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อันดับ 15 Chicago White Sox มูลค่า: 1.76 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ การเปลี่ยนแปลงใน 1 ปี: ร้อยละ 4 เจ้าของ: Jerry Reinsdorf กำไรจากการดำเนินงานหลังหักลบค่าใช้จ่าย: 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

แปลและเรียบเรียงจากบทความ Baseball’s Most Valuable Teams 2022: Yankees Hit $6 Billion As New CBA Creates New Revenue Streams เผยแพร่บน Forbes.com

อ่านเพิ่มเติม: 10 “นักกีฬาหญิง” รายได้สูงสุด ประจำปี 2021


ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine

TAGGED ON