Joe Falter นำ Zapp ระดมทุน 200 ล้านเหรียญฯ เปิดแนวรบใหม่ในสงครามเดลิเวอรี่ - Forbes Thailand

Joe Falter นำ Zapp ระดมทุน 200 ล้านเหรียญฯ เปิดแนวรบใหม่ในสงครามเดลิเวอรี่

FORBES THAILAND / ADMIN
31 Jan 2022 | 02:00 PM
READ 3242

Zapp แอปพลิเคชันส่งของสัญชาติอังกฤษ ระดมทุน 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายจุดให้บริการในกรุงลอนดอนและอัมสเตอร์ดัม เพื่อรองรับการจัดส่งภายใน 10 นาที

Joe Falter ด้าน Joe Falter ผู้ร่วมก่อตั้ง Zapp เผยว่า บริษัทมีแผนที่จะขยายไปยัง "เมืองใหญ่" ใหม่ๆ เช่น ลอนดอนหรืออัมสเตอร์ดัม ซึ่งมีความต้องการรถจักรยานจัดส่งเบียร์ ของว่าง และของใช้ที่มีราคาสูง เช่น สายชาร์จ iPhone ในขณะที่คู่แข่งอย่าง Getir, Gorillas และ Flink เดินหน้าขยายไปสู่เมืองและประเทศใหม่ๆ ในยุโรปในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา “เราไม่ต้องการเปิดตัวใน 100 เมืองทั่วโลก แต่เราอยากจะมุ่งเน้นไปยังเมืองที่เราสามารถระบุพฤติกรรมของผู้บริโภคได้อย่างชัดเจน และเป็นที่ที่เราสามารถสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ศูนย์กระจายสินค้าของเราได้เป็นอย่างดี” Joe Falter กล่าว “เราจำเป็นต้องรู้ว่ามีผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับบริการของเราและพร้อมที่จะจ่าย” สำหรับการระดมทุนในรอบนี้นำโดย Lightspeed Venture Partners, 486 Capital, Broadlight Capital และนักแข่งรถฟอร์มูล่าวัน Sir Lewis Hamilton รวมเป็นทุนทั้งสิ้น 300 ล้านเหรียญ  ทว่าเงินจำนวนนี้นับเป็นเพียงเศษเสี้ยวของทุนที่ Getir ระดมทุนไปกว่า 1.1 พันล้านเหรียญเมื่อปีที่แล้ว หรือที่ Gorillas คว้าเงินสนับสนุนกว่า 1.2 พันล้านเหรียญในช่วงเวลาเดียวกัน เพราะในขณะที่ Zapp มุ่งเน้นไปที่ตลาดบ้านเกิดในกรุงลอนดอน และควบคุมห่วงโซ่อุปทานด้วยคลังสินค้าของตัวเอง Getir จากตุรกี Gorillas จากเยอรมนี และสตาร์ทอัพขนาดเล็กในท้องถิ่นอย่าง Delivery Hero ได้เริ่มสร้างเครือข่าย "ร้านมืด" ในเมืองหลวงและหลายเมืองใหญ่ในยุโรปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  ท่ามกลางภัยคุกคามจากยักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ อย่าง GoPuff ที่ได้รับการสนับสนุนจาก SoftBank และ DoorDash ซึ่งมีมูลค่ากิจการ 3.29 หมื่นล้านเหรียญ ที่จ่อเข้าชิงส่วนแบ่งในตลาดยุโรป โดยล่าสุด GoPuff เพิ่งเข้าซื้อกิจการบริษัทสตาร์ทอัพ Dija และ Fancy เพื่อเปิดตัวในสหราชอาณาจักร สเปน และฝรั่งเศส ขณะที่ DoorDash เข้าซื้อกิจการ Wolt ผู้ให้บริการสัญชาติฟินแลนด์ ซึ่งเพิ่งขยายจากการจัดส่งอาหารไปยังการจัดส่งของชำในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
Joe Falter
Zapp สร้างโกดังเพื่อรองรับคำสั่งซื้อโดยตรงจากซัพพลายเออร์ และเพื่อให้ "ร้านค้ามืด" ในบริเวณใกล้เคียงสามารถเติมสต็อกได้ตลอด 24 ชั่วโมง
แต่นั่นกลับไม่ใช่ข้อกังวลสำหรับ Zapp ซึ่งเพิ่งขยายไปยังอัมสเตอร์ดัมเมื่อ 6 เดือนก่อนเท่านั้น “นี่ไม่ใช่การแย่งชิงดินแดน และเราพิสูจน์มาแล้วก่อนหน้านี้” Falter กล่าว “ถ้าคุณดูการขยายตัวของเราในเนเธอร์แลนด์...เราเป็นผู้เล่นคนที่ 3 หรือ 4 แต่กลับครองตลาดได้อย่างรวดเร็ว” เนื่องจากปัจจุบัน Zapp สามารถทำกำไรได้ราว 2 ใน 3 ของยอดคำสั่งซื้อ แม้ว่าจะมีการแข่งขันจากคู่แข่งทางการค้าที่เต็มไปด้วยใบปลิวและแคมเปญโซเชียลมีเดียจำนวนมหาศาล ที่ต่างเสนอส่วนลด 13 ถึง 20 เหรียญ (10 ถึง 15 ปอนด์) ให้กับลูกค้าใหม่และลูกค้าที่กลับมาใช้บริการซ้ำ “เราตั้งใจให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมเหนือสิ่งจูงใจจำนวนมาก” Falter กล่าว โดย Zapp มักทำข้อตกลงกับซัพพลายเออร์โดยตรง ซึ่งชี้ให้เห็นถึงโอกาสในอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น จากขนาดตะกร้าเฉลี่ยซึ่งอยู่ที่ประมาณ 30 เหรียญต่อครั้ง “เรารู้สึกมั่นใจมากในอัตราการเติบโตและเส้นทางไปสู่จุดคุ้มทุน แต่ผมจะรู้สึกประหม่ามากขึ้นถ้าผมเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่สร้างธุรกิจจากการใช้คูปองจำนวนมาก” แปลและเรียบเรียงโดย ชญาน์นัทช์ ธนินท์พงศ์ภัค จากบทความ Zapp Raises $200 Million To Open New Front In Fast Delivery War เผยแพร่บน Forbes.com อ่านเพิ่มเติม: Justin Kim เปิดตัวสตาร์ทอัพด้านการดูแลสุขภาพจิต Ami รุกตลาดเอเชีย