ผู้เล่นหลักในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์อย่าง TSMC และ ASE มองเห็นยอดขายและหุ้นที่พุ่งขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากการเติบโตของ AI ในเวลาเดียวกันพวกเขาพยายามลดความเสี่ยงในธุรกิจด้วยการขยายกิจการออกไปนอกประเทศ
เกาะซิลิคอน เป็นชื่อที่ไต้หวันได้รับการขนานนามเนื่องจากเป็นผู้ป้อนเซมิคอนดักเตอร์ส่วนใหญ่ให้กับโลกมาอย่างยาวนานและนี่ก็ได้สร้างความมั่งคั่งให้กับเศรษฐีพันล้านผู้ก่อตั้งบริษัทผลิตชิป ปัจจุบันโปรเซสเซอร์ขั้นสูงที่เป็นส่วนสำคัญที่ใช้ในการขับเคลื่อนปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีความต้องการที่เพิ่มขึ้น ซึ่งนี่จะเพิ่มความมั่งคั่งให้กับพวกเขามากขึ้นไปอีก เห็นได้จากกลุ่มผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ท้องถิ่นเติบโตขึ้น 43% จากปีก่อน ซึ่งดีกว่าตลาดโดยรวมที่มีการเติบโตอยู่ที่ 31%
ตามรายงานของ Counterpoint Research จากฮ่องกงระบุว่า Taiwan Semiconductor Manufacturing Co. หรือ TSMC เป็นโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีส่วนแบ่งการตลาด 60% ในตลาดโลกในปี 2023 โดยบริษัทรายงานว่า มีรายได้เติบโตเพิ่มขึ้น 17% ไปเป็น 5.93 แสนล้านเหรียญไต้หวัน (หรือ 1.9 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ) ในไตรมาสแรกของปีนี้ หลังจากที่ลดลง 5% ในปี 2023
การเติบโตนี้ได้ส่งผลให้ความมั่งคั่งของผู้ก่อตั้ง Morris Chang เพิ่มขึ้นอย่างเป็นกอบเป็นกำ 44% ไปเป็น 3.3 พันล้านเหรียญตั้งแต่เข้าติดในทำเนียบ 50 ผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ในบรรดาลูกค้ารายใหญ่ของ TSMC หนึ่งในนั้นคือ Nvidia ซึ่งได้จัดหาซูเปอร์ชิปให้กับ Grace Hopper ใน California สำหรับการประมวลผลขั้นสูง
Tsai Ming-kai ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการ MediaTek ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะบิดาแห่งอุตสาหกรรมการออกแบบชิปของไต้หวันมองเห็นอนาคตแห่งความมั่งคั่งของเขาเพิ่มขึ้นเกือบ 1 ใน 3 เป็น 3.2 พันล้านเหรียญ โดยบริษัทของเขากำลังออกแบบสร้างชิปสำหรับ generative AI และ edge AI ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ขับเคลื่อนอุปกรณ์ต่างๆ โดยไม่เชื่อมต่อกับคลาวด์ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ ทั้งนี้รายได้ของ MediaTek ทะยานถึง 40% ในไตรมาสแรกไปเป็น 1.34 แสนเหรียญไต้หวัน หลังจากปีที่แล้วมีรายได้ลดลง 21%
“ผู้ประกอบการเซมิคอนดักเตอร์ของไต้หวันประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเพราะอุตสาหกรรมชิปโดยรวมเติบโตขึ้นด้วยดีด้วยแรงหนุนจาก AI” Chris Miller ผู้เขียนหนังสือ Chip War และรองศาสตราจารย์ที่ Tufts University ใน Massachusetts กล่าว ยอดขายเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 13% ไปเป็น 5.88 แสนล้านเหรียญในปีนี้ แม้ว่าได้ลดลงราว 9% ในปี 2023 หลังจากที่ได้ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2022 ตามข้อมูลของกลุ่มอุตสาหกรรม World Semiconductor Trade Statistics ที่ได้ระบุไว้
ผู้ได้รับผลประโยชน์จากความเฟื่องฟูนี้อีกคนหนึ่งก็คือ Archie Hwang ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการ Hermes-Epitek ซึ่งเป็นบริษัทนอกตลาด โดยความมั่งคั่งของเขาเพิ่มขึ้นเป็น 1.65 พันล้านเหรียญจาก 1.55 พันล้านเหรียญ Hermes-Epitek ก่อตั้งในปี 1977 มีความเชี่ยวชาญในอุปกรณ์ออปโตอิเล็กทรอส์นิกส์ที่ถูกใช้ในการผลิตไมโครโปรเซสเซอร์ขั้นสูง โดยบริษัทอ้างว่า ได้ป้อนสินค้าให้กับโรงงานหล่อในไต้หวันและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ขณะที่ผู้ผลิตชิปของไต้หวันกำลังเริ่มขยายกิจการไปต่างประเทศด้วยการตั้งโรงงานใหม่ๆ “โดยแรงขับเคลื่อนสำคัญนี้คือความต้องการห่วงโซ่อุปทานในท้องถิ่น” Brady Wang รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยที่ Counterpoint Research และอดีตวิศวกรของ TSMC กล่าว
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ในโลกฟองสบู่ของ Eva Mendes นักแสดงสาวผู้รักการล้างจาน
