Tang Xiaoou ศาสตราจารย์ด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของจีน เตรียมก้าวเข้าสู่ทำเนียบมหาเศรษฐีโลก หลังนำ SenseTime บริษัท AI ที่เขาร่วมก่อตั้งเมื่อ 7 ปีก่อน เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ซึ่งคาดว่าจะระดมทุนไ้ด้มากถึง 2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
Tang Xiaoou วัย 53 ปี ผู้ซึ่งสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก ด้าน Computer Vision จาก Massachusetts Institute of Technology ในปี 1996 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 2.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
Tang ดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารบริษัทมูลค่า 1.2 หมื่นล้านเหรียญ และผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่อย่างน้อยร้อยละ 21.7 ถึงประมาณร้อยละ 27 ตามการประมาณการของ Forbes ซึ่งอ้างอิงจากหนังสือชี้ชวนเบื้องต้น
โดยบริษัทซึ่งถูกเพิ่มเข้าไปในบัญชีดำการค้าของสหรัฐฯ ในปี 2019 และต้องเผชิญกับข้อจำกัดในการเข้าถึงอุปกรณ์และเทคโนโลยีของอเมริกา มีแผนที่จะใช้ประมาณ 2 ใน 3 ของรายได้ในอนาคตสำหรับการวิจัยและพัฒนา
ขณะที่ในปีที่แล้ว
SenseTime สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 จากปีก่อน มาอยู่ที่ 3.5 พันล้านหยวน (533 ล้านเหรียญ) จากการขาย AI, คอมพิวเตอร์วิทัศน์ (computer vision) และซอฟต์แวร์ประมวลผลข้อมูล ขณะที่มูลค่าการขาดทุนสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 1.22 หมื่นล้านหยวน
ปัจจุบัน Tang ยังคงสอนหลักสูตรต่างๆ เช่น การประมวลผลภาพและการวิเคราะห์สัญญาณที่ Chinese University of Hong Kong
Tang ได้ร่วมก่อตั้ง SenseTime ในปี 2014 ร่วมกับนักศึกษาปริญญาเอก 2 คนของเขา ได้แก่
Xu Li ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร วัย 31 ปี ผู้ดูแลการปฏิบัติงานประจำวัน และ
Xu Bing กรรมการบริหาร วัย 31 ปี ผู้รับผิดชอบด้านการระดมทุนและการลงทุนเชิงกลยุทธ์ ขณะที่เขาดูแลรับผิดชอบด้านกลยุทธ์การวิจัยของบริษัท
นอกจากนี้
Wang Xiaogang พี่เขยของ Tang ก็ยังดำรงตำแหน่งคณะกรรมการและดูแลทีมวิจัยของบริษัทด้วย
ทั้งนี้ SenseTime ได้รับประโยชน์จากการใช้ AI ในวงกว้างของจีน โดยปีที่แล้ว มียอดขายร้อยละ 40 จากภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล ซึ่งใช้ซอฟต์แวร์เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ เช่น การตรวจสอบการจราจรและสถานที่สาธารณะ ตลอดจนการตรวจจับว่าผู้คนสวมหน้ากากอย่างที่กำหนดหรือไม่ ขณะที่ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 48
อย่างไรก็ดี บริษัทเตือนว่าต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนจากกฎหมายความเป็นส่วนตัวของข้อมูลฉบับใหม่ ซึ่งประกาศครั้งแรกในเดือนสิงหาคม และจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน
“…ข้อกำหนดด้านกฎระเบียบดังกล่าวเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูลมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและอาจอยู่ภายใต้การตีความที่แตกต่างกัน หรือการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับขอบเขตความรับผิดชอบของเราในเรื่องนั้น”
แปลและเรียบเรียงโดย ชญาน์นัทช์ ธนินท์พงศ์ภัค จากบทความ Chinese Professor Set To Join Billionaire Ranks As His AI Company Files To Go Public เผยแพร่บน Forbes.com
อ่านเพิ่มเติม:
Google ขาย AI มูลค่า 2.5 ล้านเหรียญฯ ให้เพนตากอนใช้ในสถานการณ์โควิด-19