Edgar Sia II เจ้าสัวฟิลิปปินส์ กับเป้าหมายปั้นเชนโรงแรมระดับโลก - Forbes Thailand

Edgar Sia II เจ้าสัวฟิลิปปินส์ กับเป้าหมายปั้นเชนโรงแรมระดับโลก

FORBES THAILAND / ADMIN
21 Jun 2024 | 09:00 AM
READ 1687

Edgar Sia II เจ้าสัวด้านอสังหาริมทรัพย์และฟาสต์ฟู้ดจากฟิลิปปินส์มีความทะเยอทะยานแสนยิ่งใหญ่ หลังจากปั้นร้านไก่ย่างบาร์บีคิวให้กลายเป็นเชนร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศได้แล้ว ประธานกรรมการและซีอีโอ DoubleDragon Corp. วางเป้าหมายต่อไปไว้คือ สร้างอาณาจักรโรงแรมระดับโลกในอีก 15 ปีข้างหน้า


    ต่างจากยักษ์ใหญ่ด้านโรงแรมระดับโลกอย่าง Marriott International และ Hilton Worldwide ที่เน้นบริหารโรงแรมด้วยการบริการเต็มรูปแบบ แต่ Sia วางแผนที่จะเจาะตลาดโรงแรมที่มีการแข่งขันสูงนี้ด้วยเชนโรงแรมระดับ 3 ดาว เน้นให้การบริการเพียงสิ่งที่จำเป็น โดยเลือกเจาะกลุ่มนักเดินทางที่มีงบประมาณจำกัด และที่แน่ๆ นี่มันเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่เพราะเขาไม่ใช่คนแรกที่มุ่งเจาะตลาดระดับล่าง ปัจจุบันมีเชนโรงแรมราคาประหยัดครอบคลุมอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ในวงกว้าง ไม่ว่าจะเป็น Holiday Inn ของกลุ่ม IHG หรือ Ibis ของกลุ่ม Accor

    DoubleDragon บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดกลางในฟิลิปปินส์ ตั้งเป้าขยายธุรกิจโรงแรมน้องใหม่ภายใต้แบรนด์ “Hotel 101” จากจำนวนกว่า 1,000 ห้องใน 2 ทำเลของ Manila ให้เพิ่มเป็นกว่า 500,000 ห้องใน 100 จุดหมายปลายทางทั่วโลก โดย Sia ได้ใช้เงินลงทุนพัฒนาโครงการใน 3 ประเทศแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น สเปน และสหรัฐฯ ขณะเดียวกันเขาก็มองหาพันธมิตรที่มีศักยภาพ อาทิ นักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ที่พร้อมจะทำสัญญาบริหารจัดการโรงแรม หรือสัญญาซื้อแฟรนไชส์ Hotel101 ทั่วทั้งเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ทั้งนี้ Sia หวังที่ใช้เงินทุนจากการกู้และจากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq ในปีนี้ขยายกิจการไปในระดับโลกอย่างสนุกมือ

    “Hotel101 จะเป็นเชนโรงแรมแห่งแรกในโลกที่มีห้องพักประเภทเดียว เหมือนสายการบินราคาประหยัดสายหนึ่งที่มีที่นั่งประเภทเดียวเหมือนกันหมดทุกลำ” Sia วัย 47 ปี ให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยเฉลี่ยห้องพักขนาด 21 ตารางเมตรจะมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 100 เหรียญสหรัฐฯ ต่อคืน (ขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้ง) จะมีเตียงขนาดควีนไซซ์และเตียงเดี่ยวอีก 1 เตียง มีมุมครัวเล็กๆ อ่างล้างจาน ไมโครเวฟ และตู้เย็นขนาดเล็ก ซึ่งบ่อยครั้งมักจะไม่พบในโรงแรมราคาประหยัด


    บริษัท Hotel101 Global จดทะเบียนในสิงคโปร์ ถือเป็นบริษัทที่มีเจ้าของเป็นชาวฟิลิปปินส์แห่งแรกที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น Nasdaq ใน New York ปีนี้ Sia หวังว่า Hotel101 ซึ่งได้รับอานิสงส์จากการขยายตัวของธุรกิจท่องเที่ยวหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตของ DoubleDragon ที่มีตัวเขาและครอบครัวเศรษฐีพันล้าน Tony Tan Caktiong ผู้ก่อตั้ง Jollibee Foods ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดยักษ์ใหญ่ของฟิลิปปินส์ถือหุ้นคนละประมาณ 1 ใน 3 (Sia และ Tan เกิดปีมะโรง เป็นที่มาของชื่อบริษัท DoubleDragon) ตั้งแต่ DoubleDragon เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฟิลิปปินส์ เดือนเมษายน ปี 2014 บริษัทได้กลายเป็นผู้ให้เช่าพื้นที่สำนักงานศูนย์การค้า และพื้นที่เชิงอุตสาหกรรม ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของฟิลิปปินส์ โดยมีพื้นที่ให้เช่ารวมกว่า 13 ล้านตารางเมตร ทั้งบริษัทยังตั้งเป้าหมายขยายขนาดของพอร์ตสินทรัพย์จากมูลค่า 1.64 แสนล้านเปโซ (ณ เดือนกันยายน ปี 2023) ไปเป็น 2.5 แสนล้านเปโซ (4.5 พันล้านเหรียญ) (ไม่รวมอสังหาฯ จากต่างประเทศ) ภายในปี 2030

    หลังจากผลการดำเนินงานของบริษัทลดฮวบปี 2020 ในช่วงวิกฤตโรคระบาดอยู่ในจุดสูงสุด ในปี 2022 กำไรสุทธิของบริษัทก็สามารถฟื้นตัวกลับมาด้วยตัวเลขมากเป็นประวัติการณ์ที่ 1.29 หมื่นล้านเปโซ เนื่องจากรายได้จากค่าเช่าและยอดขายบ้านที่ปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ช่วง 9 เดือนแรกของปี 2023 ยอดขายที่อยู่อาศัยกลับลดลง ทำให้กำไรสุทธิไม่เติบโตอยู่ที่ 2.5 พันล้านเปโซเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งโดยปกติไตรมาสที่ 4 จะเป็นช่วงเวลาที่บริษัทมีกำไรสุทธิสูงสุดบริษัทกล่าว
ภายใต้พอร์ตธุรกิจของบริษัท 

     บริษัทดำเนินกิจการโรงแรมอยู่ 5 แห่งในฟิลิปปินส์ มีห้องพักราว 1,500 ห้อง ซึ่งรวมไปด้วยโรงแรมภายใต้แบรนด์ JinJiang Inn ของจีน และ Hotel101 2 แห่งแรก โดยแห่งแรกคือ DoubleDragon Meridian Park ซึ่งเปิดให้บริการในปี 2016 และอีกแห่งตั้งอยู่ที่ Bonifacio Global City นอกศูนย์กลางธุรกิจ Makati ใน Manila ในปีนี้บริษัทจะเพิ่มจำนวนเซอร์วิสอะพาร์ตเมนต์อีก 300 ห้องที่ Ascott DoubleDragon Meridian Park โดยมี DoubleDragon เป็นผู้ก่อสร้าง และ Ascott บริษัทด้านเซอร์วิสอะพาร์ตเมนต์ในเครือ CapitaLand จากสิงคโปร์เป็นผู้บริหาร

    การเดินทางสู่การเป็นผู้ประกอบการของ Sia นั้นเริ่มขึ้นในปี 1996 ตอนอายุ 19 ปี เขาลาออกจากโรงเรียนสถาปนิกเพื่อเป็นแกนนำให้กับกลุ่มเพื่อนร่วมชั้นในการสร้างโรงแรมแห่งหนึ่งเพื่อรองรับนักเดินทางเชิงธุรกิจขึ้นที่เกาะ Iloilo ในตอนกลางของฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขา และในปี 2003 เขาก่อตั้ง Mang Inasal ร้านไก่ย่างบาร์บีคิวในห้างสรรพสินค้าใน Iloilo โดยในปี 2010 เขาขายหุ้นล็อตแรกให้กับกลุ่ม Jollibee ในสัดส่วน 70% มูลค่า 3 พันล้านเปโซ และในอีก 6 ปีต่อมาก็ขายส่วนที่เหลือในราคา 2 พันล้านเปโซ 

    ตลอด 2 ทศวรรษที่ผ่านมาร้านไก่ย่างบาร์บีคิว Mang Inasal ได้ขยายไปมากกว่า 570 สาขาทั่วประเทศ และเป็นเชนร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ (วัดจากจำนวนร้าน) รองจาก Jollibee และ McDonald’s ระหว่างการเดินทางของบริษัท Sia และ Tan ในฐานะประธานกรรมการร่วมของ DoubleDragon ยังได้ร่วมลงทุนในกิจการอื่นๆ เช่น โลจิสติกส์และบริการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านออนไลน์ ในเดือนสิงหาคม ปี 2023 Sia ติดทำเนียบบุคคลที่มั่งคั่งของฟิลิปปินส์ในลำดับที่ 39 ด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิกว่า 330 ล้านเหรียญ

    หนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญที่สร้างความมั่นใจให้ Sia คือ แม้โควิด-19 จะหยิบยื่นหายนะให้กับผู้ประกอบการโรงแรมทั่วโลก แต่ ในปี 2021 Hotel101 มีอัตราเข้าพักสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 96% “การแพร่ระบาดได้ทำให้พวกเรามั่นใจมากขึ้นว่าพวกเรามีบางสิ่งบางอย่างที่แข็งแกร่งพอ” Sia กล่าว


    Sia คาดการณ์ว่า ภายในปี 2026 Hotel101 จะเปิดให้บริการใน 25 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งออสเตรเลีย แคนาดา และจีน นอกจากนี้บริษัทยังตั้งเป้าจะเปิดโรงแรมเพิ่มประมาณ 62 แห่งในทุกๆ ปีผ่านการขายแฟรนไชส์และการร่วมทุน โดยแต่ละแห่งจะมีจำนวนห้องพักเฉลี่ย 500 ห้อง เพื่อบรรลุเป้าหมายการเป็นเชนโรงแรมรายใหญ่ระดับโลกภายในปี 2040 ปัจจุบัน Sia อยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรที่มีศักยภาพ แต่เขาปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดในขณะนี้ แต่เชื่อว่าด้วยกลยุทธ์ถือสินทรัพย์ด้วยตนเองน้อยลง (asset light) จะเปลี่ยนโครงการอสังหาริมทรัพย์แต่ละแห่งให้กลายเป็นคอนโดเทลโดยใช้เงินลงทุนไม่มาก

    นอกจากนี้ “แพลตฟอร์มของเราจะช่วยสร้างมาตรฐานพื้นที่บริการโรงแรมในระดับโลก ทุกที่ที่แขกเช็กอินจะได้สัมผัสประสบการณ์เดียวกัน” Sia กล่าว



เรื่อง: Jonathan Burgos เรียบเรียง: เบ็ญจวรรณ รัตนวิจิตร ภาพ: Sonny Thakur



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : Mark Taira ผู้เปลี่ยนร้านเบเกอรี่ครอบครัว ให้เติบโตสู่ทรัพย์สินกว่า 2,000 ล้านเหรียญ

คลิกอ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนพฤษภาคม 2567 ในรูปแบบ e-magazine