Aggarwal รับไม้ต่อพาบริษัทก้าวสู่ตำแหน่งผู้เล่นรายสำคัญของโลก หลังพ่อของเขาหัวเสียกับการต่อแถวยาวเหยียดเพื่อรอคิวยื่นวีซ่าจนตัดสินใจเปิดธุรกิจ "บริการรับยื่นขอวีซ่า" ขึ้นเอง
เมื่อ Shikhar Aggarwal ก้าวเข้าไปช่วยกิจการของครอบครัวในปี 2014 เขามีความมุ่งมั่นที่จะรุกตลาดใหม่ๆ โดยบริษัท BLS International นั้นเป็นผู้ให้บริการรับยื่นคำร้องขอวีซ่า หนังสือเดินทาง และงานด้านกงสุลมีสำนักงานใหญ่อยู่ใน New Delhi ซึ่งลูกค้ารายสำคัญที่ทำรายได้ส่วนใหญ่ให้กับบริษัท คือรัฐบาลและสถานกงสุลของอินเดีย
เขาเดินอยู่บนเส้นทางสายบัญชีและกำลังฝึกงานอยู่กับ Grant Thornton ก่อนตัดสินใจหันมาช่วยธุรกิจครอบครัว เขาลงมือปรับโครงสร้างธุรกิจที่พ่อของเขาก่อตั้งขึ้นในปี 2005 อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้รองรับเทคโนโลยีข้อมูลชีวภาพ (Biometric) ต่างๆ เช่น สแกนลายนิ้วมือและม่านตา ร่นระยะเวลาการพิจารณาข้อมูล ไปจนถึงปรับปรุงเว็บไซต์และศูนย์บริการทางโทรศัพท์
สี่ปีหลังจาก Aggarwal ก้าวเข้ามาช่วยพัฒนาบริษัท BLS สามารถทำรายได้พุ่งขึ้นเกือบสองเท่าเป็น 122 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และขยายตลาดจนมีธุรกิจครอบคลุมกว่า 62 ประเทศทั่วโลก ทำให้ตัวเลขกำไรของ BLS บริษัทหน้าใหม่ในทำเนียบ Best Under A Billion ของ Forbes Asia ปีนี้อยู่ที่ 15 ล้านเหรียญสำหรับปีงบประมาณ 2018 ซึ่งเติบโตก้าวกระโดดมากกว่าสี่เท่าเมื่อเทียบกับปี 2014
- ติดตามบริษัท Best Under a Billion อื่นๆ ได้ที่ 10 สุดยอดบริษัทรายได้ต่ำกว่าพันล้านเหรียญแห่งเอเชีย ปี 2018
ทว่า Aggarwal วัย 27 ปีเล็งเป้าหมายไปไกลกว่าแค่ธุรกิจ บริการรับยื่นขอวีซ่า หนุ่มไฟแรงผู้นี้ได้ริเริ่มนำเสนอบริการอื่นๆ ให้กับรัฐบาล ตั้งแต่การออกหนังสือรับรองการเกิด ใบมรณบัตร ทะเบียนสมรส ไปจนถึงเอกสารแสดงสัญชาติ บัตรประจำตัวประชาชน และบัตรประจำตัวผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
โดยบริการของ BLS จะทำให้ผู้ยื่นคำร้องไม่จำเป็นต้องเดินทางไปศูนย์บริการวีซ่าและเสียเวลาทั้งวันเพื่อรอคิว ในทางกลับกัน กลุ่มผู้บริการจะไปให้บริการถึงที่โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม นับเป็นเป้าหมายที่ท้าทายในการท้าชิงตำแหน่งจากผู้นำตลาดในปัจจุบันอย่าง VFS Global จาก Dubai ซึ่งอยู่ภายใต้ EQT กลุ่มกองทุนเพื่อการลงทุนในบริษัทเอกชนนอกตลาดสัญชาติสวีเดน เนื่องด้วยการบริการที่ครอบคลุมถึง 139 ประเทศทั่วโลก ทำให้ VFS ครองส่วนแบ่งตลาดราวครึ่งหนึ่งและมีตัวเลขรายได้ที่ 459 ล้านเหรียญในปี 2017
แต่ BLS ก็สร้างผลงานที่น่าประทับใจเช่นกัน เมื่อบริษัทได้ทำสัญญามูลค่า 140 ล้านเหรียญกับรัฐบาลสหราชอาณาจักร โดยจะให้การสนับสนุนบริษัทจากฝรั่งเศสในเรื่องการขอต่ออายุวีซ่า และยังคว้างานใหญ่มูลค่า 200 ล้านเหรียญเป็นสัญญาระยะเวลา 5 ปีจากรัฐบาลสเปนในการวางระบบศูนย์บริการวีซ่าทั่วโลก
Aggarwal มีทีมงานทั้งที่อยู่ในยุโรป ตะวันออกกลาง และเอเชีย ที่คอยเล็งหาโครงการงานใหม่ๆ โดย BLS ได้มุ่งเน้นไปที่ตลาดจีนเป็นสำคัญ “การจัดจ้างงานจากภายนอกไม่ค่อยเกิดขึ้นมากนักในจีน แต่จีนเป็นตลาดท่องเที่ยวที่มีขนาดใหญ่” Aggarwal ซึ่งลงมือสร้างทีมงานในจีนกล่าว ปัจจุบันบริษัทมีสำนักงานในจีน 18 แห่ง โดย 3 แห่งดูแลการยื่นขอวีซ่าอินเดีย ที่เหลือเป็นตัวแทนรับยื่นวีซ่าให้กับสถานทูตสเปน
ปัจจัยที่คาดว่าจะเป็นแรงหนุนให้ BLS เติบโตคืออุปสงค์การท่องเที่ยวโลกที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว และกระแสการจัดจ้างหน่วยงานภายนอกเข้ามาดูแลงานด้านวีซ่าที่กำลังมาแรง ซึ่งปัจจุบันทั่วโลกมีสถานทูตที่ใช้บริการหน่วยงานภายนอกเพียง 1 ใน 3 เท่านั้น
จุดเริ่มต้นของ BLS เกิดจากการที่ Diwakar Aggarwal ผู้ก่อตั้งบริษัทต้องยืนรอต่อแถวที่ยาวเหยียดเพื่อรอยื่นเอกสารขอวีซ่า โดย BLS Group บริษัทเอกชนนอกตลาด ปัจจุบันสร้างรายได้เข้ากระเป๋าปีละกว่า 1.2 พันล้านเหรียญประกอบธุรกิจด้านการศึกษาและผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์เป็นหลัก
BLS International นั้นดูแลเอกสารคำร้องขอวีซ่าประมาณ 10,000 รายการในปี 2005 ตัวเลขใบสมัครขอวีซ่าและการรับรองสัญชาติทะยานขึ้นเป็น 11 ล้านรายการในปีงบประมาณ 2018 ทั้งนี้ Shikhar Aggarwal เชื่อว่าความสามารถในการปรับตัวที่รวดเร็วคือปัจจัยหนุนสำคัญ ตัวอย่างเช่น บริษัทต้องขยายพื้นที่ศูนย์บริการยื่นวีซ่าประเทศสเปนในกรุง Moscow จาก 12,000 ตารางฟุต เป็น 20,000 ตารางฟุต เนื่องจากการเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่บริษัทต้องปิดศูนย์บริการในประเทศเยเมนหลังจากสงครามปะทุขึ้นเมื่อปี 2015
“เรามีความยืดหยุ่นอย่างมาก” Aggarwal กล่าว “ในธุรกิจนี้ความต้องการของลูกค้ามีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และเราเต็มใจที่จะปรับเปลี่ยนเพื่อตอบโจทย์สิ่งที่ลูกค้าต้องการ”
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจนี้จำเป็นต้องใช้ทรัพยากรบุคคลจำนวนมาก BLS จ้างงานกว่า 9,000 ตำแหน่งทั่วโลกเพื่อขับเคลื่อนบริการของบริษัท พนักงานในแต่ละพื้นที่จะรวบรวม ประมวลผล และจัดส่งเอกสาร โดยพนักงานจะต้องเข้ารับการอบรมและผ่านหลักสูตรทบทวนซ้ำๆ มากมายเพื่อให้รับรู้และเข้าใจประเด็นกฎหมายที่มีการเปลี่ยนแปลงล่าสุดนอกจากนี้ BLS ยังต้องปรับเปลี่ยนบริการของตนเพื่อให้เหมาะสมกับวัฒนธรรมที่แตกต่างกันออกไป เช่น แยกเคาน์เตอร์เก็บข้อมูลทางชีวภาพเฉพาะสำหรับผู้หญิงในประเทศซาอุดีอาระเบีย จัดเตรียมห้องรับรองพิเศษจำนวนมากกว่าปกติในตะวันออกกลาง หรือให้ความช่วยเหลือในการกรอกข้อมูลสำหรับผู้ที่มีอุปสรรคด้านภาษา
Aggarwal ตระหนักดีถึงการแข่งขันในตลาดโลกที่ทั้งรุนแรงและมีความซับซ้อน เขากำลังจัดตั้งโครงการสนับสนุนธุรกิจหน้าใหม่เพื่อเข้าลงทุนในสตาร์ทอัพที่มีนวัตกรรมเทคโนโลยี สำหรับนำไปใช้ในขั้นตอนการบริการยื่นคำร้องขอวีซ่าและโครงการรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์
“เราเป็นมวยรอง” เขายอมรับ “และเราต้องการอยู่ในสถานะนี้จนกระทั่งเราก้าวขึ้นเป็นบริษัทมูลค่าหลักหมื่นล้านเหรียญ”
เรื่อง: Anuradha Raghunathan เรียบเรียง: นวตา สันติวัฒนา
อ่านบทความฉบับเต็มของ "ช่องทางด่วน" ได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนธันวาคม 2561