5 มหาเศรษฐีสิงคโปร์กับขาขึ้นของธุรกิจ - Forbes Thailand

5 มหาเศรษฐีสิงคโปร์กับขาขึ้นของธุรกิจ

FORBES THAILAND / ADMIN
24 Sep 2018 | 11:06 AM
READ 12148

จาก 50 มหาเศรษฐีสิงคโปร์ประจำปี 2018 เราได้นำ 5 อันดับมหาเศรษฐีสิงคโปร์ที่ลงทุนในหลากหลายอุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในกอง REIT นอกประเทศ การลงทุนในอุตสาหกรรมเกม พลังงาน และสุขภาพ นับเป็นช่วงเวลาที่ดีของพวกเขาในการลงทุนและการสานสัมพันธ์กับนักลงทุนต่างชาติ ในขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจของสิงคโปร์จะชะลอตัวไปบ้างก็ตาม

อันดับที่12 PETER LIM อายุ: 65 ปี มูลค่าทรัพย์สิน: 2.45 พันล้านเหรียญ แหล่งที่มา: Thomson Medical Group Lim จัดการทำข้อตกลงในปี 2017 เพื่อถ่ายโอนสินทรัพย์ด้านบริการสุขภาพในสิงคโปร์และมาเลเซียไปยังบริษัทมหาชนชื่อ Rowsley ซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็น Thomson Medical Group อดีตนายหน้าซื้อขายหุ้นผู้นี้ขึ้นชื่อเรื่องการลงทุนแบบชาญฉลาด ซึ่งครอบครองหุ้นเกือบ 90% ของ Thomson ได้รับการแสดงความยินดีบนโฆษณาครึ่งหน้าในหนังสือพิมพ์ Straits Times ของสิงคโปร์ จากผู้ที่ไม่ใช่ใครอื่นคือดาราฟุตบอล Cristiano Ronaldo Lim (ซ้ายมือส่วนขวามือคือ Cherie ผู้เป็นภรรยา) คือแฟนกีฬาตัวยง และเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์รูปของ Ronaldo รวมถึง Valencia สโมสรฟุตบอลสัญชาติสเปน แม้โครงการรถไฟความเร็วสูงระหว่างสิงคโปร์และมาเลเซียเผชิญโชคชะตาอันไม่แน่นอน แต่ Thomson ยังตั้งเป้าว่า แผนการยิ่งใหญ่มูลค่า 1.2 พันล้านเหรียญเพื่อสร้างเมืองแห่งบริการสุขภาพในเมือง Johor ที่อยู่ใกล้เคียง ยังคงดำเนินการต่อไป อันดับที่ 32 ติดอันดับเป็นครั้งแรก Gordon Tang (ซ้าย) มูลค่าทรัพย์สิน: 1 พันล้านเหรียญ แหล่งที่มา: SingHaiyi Holdings Tang ผู้อาศัยถาวรของสิงคโปร์ซึ่งเป็นชาวจีนโดยกำเนิด เข้าสู่อันดับ Top 50 เป็นครั้งแรก หุ้นของเขาประกอบด้วยหุ้นที่มีอำนาจในการควบคุมกิจการใน SingHaiyi Group บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นซึ่งเขาบริหารงานจนถึงปี 2013 แล้วจึงมอบให้ Celine ภรรยาของเขาดูแลต่อ ขณะนี้ Tang ซึ่งเป็นกรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร ทุ่มความสนใจให้กับการพัฒนาเขตชุมชนในเมือง Shantou ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน หุ้นส่วนธุรกิจของ Tang และประธานของ SingHaiyi คือ Neil Bush (ขวามือ) น้องชายของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ George W. Bush (ในปี 2015 Tang บริจาคเงิน 1.3 ล้านเหรียญให้กับ Jeb Bush พี่ชายของ Neil สำหรับแคมเปญหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2016) Tang และภรรยายังครอบครองหุ้นคุณค่าในกองทุนทรัสต์อสังหาริมทรัพย์ Suntec REITCromwell European REIT และ OUE Commercial REIT อันดับที่ 34 Muhammed Aziz Khan อายุ: 63 ปี มูลค่าทรัพย์สิน: 910 ล้านเหรียญ แหล่งที่มา: Summit Group Khan ซึ่งเป็นชาวบังกลาเทศโดยกำเนิด คือผู้อาศัยถาวรของสิงคโปร์นับตั้งแต่ปี 1988 และประธานบริษัท Summit Group กำลังรอยื่นจดทะเบียนบริษัทพลังงานของเขาชื่อ Summit Power Internationalในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ Summit คือผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในภาคเอกชนของบังกลาเทศ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก International Finance Corp มีโรงงานนับสิบแห่งที่มีกำลังการผลิตรวมกัน 1,508 เมกะวัตต์ บริษัทยังมีโครงการใหม่มูลค่า 3 พันล้านเหรียญ ร่วมกับ GE และ Mitsubishi ของญี่ปุ่น เพื่อสร้างโรงไฟฟ้ารวมถึงคลังก๊าซและน้ำมันหลายแห่งในบังกลาเทศ Summit Power ซึ่งตั้งอยู่ที่สิงคโปร์และเลื่อนการขาย IPO ออกไปเมื่อไม่นานนี้เนื่องจากความไม่แน่นอนในตลาดบริหารโดย Ayesha บุตรสาวของ Khan ที่จบการศึกษาด้านธุรกิจจาก Columbia University Khan เป็นบุตรชายของเจ้าหน้าที่ทหารซึ่งมีธุรกิจก่อสร้างเขาได้ก่อตั้ง Summit ขึ้นในปี 1985 และขยายกิจการสู่ธุรกิจปุ๋ยและธุรกิจเทรดดิ้ง ก่อนปักหลักที่ด้านโครงสร้างพื้นฐานความสนใจด้านอื่นๆ ของ Summit ยังประกอบด้วย ท่าเรือใยแก้วนำแสง และอสังหาริมทรัพย์ ลำดับที่ 38  JOHN LIM อายุ: 62 ปี มูลค่าทรัพย์สิน: 780 ล้านเหรียญ แหล่งที่มา: ARA ผู้ร่วมก่อตั้ง ARA Asset Management มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นกว่า 1 ใน 3 จากข้อมูลการเงินใหม่ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทที่เพิ่งผ่านการแปรรูปไปเป็นกิจการของเอกชนของเขา สินทรัพย์ภายใต้การจัดการของบริษัทและหน่วยอื่นๆ ในเครือเพิ่มมูลค่ากว่าสองเท่าเป็น 5.8 หมื่นล้านเหรียญ ในปี 2017 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเข้าซื้อกิจการ Lim ซึ่งถือหุ้น ARA เกือบ 1 ใน 3 ขยายพอร์ตการลงทุนด้วยการซื้อหุ้นบริษัทสัญชาติญี่ปุ่น Kenedix และ Cromwell Property Group จากออสเตรเลียซึ่งมีสินทรัพย์อยู่ในยุโรป เป็นเงิน 575 ล้านเหรียญ ARA ยังเดินหน้าลงทุนเพิ่มเติมในจีนผ่านกิจการร่วมค้ากับ AVIC ทรัสต์เพื่อการลงทุนในจีน ขณะนี้ ARA บริหารจัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) 21 แห่ง และกองทุนอสังหาริมทรัพย์เอกชนอีกกว่า 70 แห่ง ใน 20 ประเทศ อันดับที่ 42 ติดอันดับเป็นครั้งแรก Forrest Li อายุ: 40 ปี มูลค่าทรัพย์สิน: 738 ล้านเหรียญ แหล่งที่มา: Sea ชาวเมือง Tianjin ผู้นี้จบจาก Stanford University แล้วมาก่อตั้งและบริหารงานบริษัทเกมออนไลน์ชื่อ Sea ซึ่งเขายังมีหุ้นในอี-คอมเมิร์ซ (Shopee) และอี-เพย์เมนต์ (AirPay) ด้วยเช่นกัน Li เข้าสู่รายชื่อ 50 อันดับแรกหลังยื่นจดทะเบียน Sea (เดิมชื่อ Gerena) ที่ตลาดหุ้น New York ในเดือนตุลาคม Sea ได้รับการสนับสนุนจาก Tencent ที่ถือหุ้น 35% ส่วนนักลงทุนรายอื่นๆ ใน Sea ยังประกอบด้วยมหาเศรษฐีพันล้าน Kuok Khoon Hong แห่งบริษัท Wilmar และ General Atlantic บริษัทลงทุนในบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ Sea (มูลค่าตลาด) 5.3 พันล้านเหรียญ ซึ่งหุ้นมีราคาซื้อขายใกล้เคียงกับราคา IPO ยังไม่สร้างผลกำไรในขณะนี้
คลิกอ่าน การจัดอันดับ 50 มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดแห่งสิงคโปร์ ประจำปี 2018 ได้ที่ Forbes Thailand Magazine ฉบับเดือนสิงหาคม 2561