11 บริษัทมหาชนไทยยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย Forbes Asia’s Best Under A Billion 2023 - Forbes Thailand

11 บริษัทมหาชนไทยยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย Forbes Asia’s Best Under A Billion 2023

ทำเนียบ Best Under A Billion แห่งเอเชียประจำปีนี้เผยรายชื่อ 200 บริษัทมหาชนขนาดเล็กและขนาดกลางในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกรายได้ต่ำกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งประสบความสำเร็จเกินคาด แม้ต้องเผชิญอุปสรรคขวากหนามที่เกิดขึ้นทั่วโลก เช่น ภาวะเงินเฟ้อ และต้นทุนทางการเงินเพิ่มสูง


    บริษัทที่โดดเด่นในทำเนียบต่างมุ่งเน้นการผลิตชิปตลอดจนอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ความต้องการเซมิคอนดักเตอร์ซึ่งเป็นส่วนประกอบของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันอย่างสมาร์ทโฟน อุปกรณ์ต่างๆ และรถยนต์นั้นพุ่งสูงตลอดสามปีที่ผ่านมา พร้อมการเร่งรับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เข้ามาใช้ อย่างไรก็ตามคาดการณ์ว่าตลาดจะอ่อนตัวในปีนี้สืบเนื่องมาจากข้อจำกัดด้านการจัดหาวัสดุบรรเทาลง

    บริษัทที่สร้างผลงานได้ดีจนมาปรากฏบนทำเนียบของเรายังมีบริษัทที่อำนวยการแก้ปัญหาด้านไอที ซึ่งสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลในวงการธุรกิจเพื่อสุขภาพ โลจิสติกส์ การผลิต และอื่นๆ

    ในขณะเดียวกัน บรรดาธุรกิจที่ต้องพึ่งพาการใช้จ่ายของผู้บริโภคอย่างร้านอาหาร บันเทิง และกีฬา ก็มียอดขายเพิ่มขึ้นเล็กน้อยหลังจากที่มาตรการควบคุมโควิด-19 ค่อยๆ หายไป

    สำหรับบริษัทไทยที่มีรายชื่ออยู่ในทำเนียบ Best Under A Billion มีทั้งหมด 11 บริษัทซึ่งดำเนินธุรกิจอันหลากหลายตั้งแต่ของใช้ในชีวิตประจำวันไปจนพลังงาน ดังนี้

    

    Fortune Parts Industry



    ธุรกิจ: ชิ้นส่วนรถยนต์

    ยอดขาย: 75 ล้านเหรียญ

    กำไรสุทธิ: 12 ล้านเหรียญ

    มูลค่าตลาด: 115 ล้านเหรียญ

    ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ (FPI) คือผู้ให้บริการผลิตชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ครบวงจร ด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 30 ปี ครอบคลุมแบรนด์ญี่ปุ่นระดับแนวหน้า เช่น Toyota, Nissan, Isuzu, Honda และอื่นๆ อีกมากมาย สำหรับปีนี้ทางบริษัทตั้งเป้าขยับขยายการลงทุนในต่างประเทศ พร้อมสร้างพาร์ตเนอร์เพื่อการเติบโตอย่างก้าวกระโดด

    

    Karmarts



    ธุรกิจ: เครื่องสำอาง

    ยอดขาย: 53 ล้านเหรียญ

    กำไรสุทธิ: 9 ล้านเหรียญ

    มูลค่าตลาด: 116 ล้านเหรียญ

    บริษัทเครื่องสำอางและความงามสัญชาติไทยที่ก้าวสู่ระดับแนวหน้าของอาเซียน ผู้ดูแลแบรนด์ดังกว่า 10 แบรนด์ ที่เป็นที่นิยม ได้แก่ Cathy Doll, BROWIT และ BABY BRIGHT ซึ่งได้คว้าตัวดาราดังขวัญใจวัยรุ่นมาเป็นพรีเซนเตอร์ ไม่ว่าจะไบร์ท-วชิรวิชญ์ ชีวอารี, วิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร และอีกมากมาย

    

    Lanna Resources



    ธุรกิจ: พลังงาน

    ยอดขาย: 718 ล้านเหรียญ

    กำไรสุทธิ: 84 ล้านเหรียญ

    มูลค่าตลาด: 283 ล้านเหรียญ

    ผู้ผลิตและจำหน่ายถ่านหินทั้งในและต่างประเทศซึ่งได้รับสัมปทานเหมืองถ่านหินจากรัฐบาลอินโดนีเซีย ทางบริษัทยังคงทำกำไรได้ดีแม้ในยุคที่กระแสพลังงานทางเลือกกำลังมาแรง

    

    Mega Lifesciences



    ธุรกิจ: ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ

    ยอดขาย: 447 ล้านเหรียญ

    กำไรสุทธิ: 64 ล้านเหรียญ

    มูลค่าตลาด: 1.22 พันล้านเหรียญ

    สืบเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาด ทำให้เกิดกระแสใส่ใจสุขภาพ พาบริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายยา อาหารเสริม และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ MEGA We Care เติบโต ซึ่งนอกจากประเทศไทยแล้ว ทางบริษัทยังมีการทำตลาดในอีก 35 ประเทศทั่วโลก

    

    Sahamitr Pressure Container



    ธุรกิจ: บรรจุภัณฑ์

    ยอดขาย: 150 ล้านเหรียญ

    กำไรสุทธิ: 24 ล้านเหรียญ

    มูลค่าตลาด: 214 ล้านเหรียญ

    สหมิตรถังแก๊สคือผู้ผลิตและจำหน่ายถังแก๊สปิโตรเลียมเหลวและถังทนความดันต่ำแบบต่างๆ ล่าสุดกำลังเดินหน้าขยายตลาดผลิตถังประเภทอื่น และตอบสนองความต้องการของลูกค้าจากต่างประเทศ โดยปีนี้ทางบริษัทวางแผนดันยอดขายให้เติบโต 10-15% จากปีที่แล้ว

    

    Sappe



    ธุรกิจ: เครื่องดื่ม

    ยอดขาย: 130 ล้านเหรียญ

    กำไรสุทธิ: 19 ล้านเหรียญ

    มูลค่าตลาด: 315 ล้านเหรียญ

    ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มทั้งในและต่างประเทศ ภายใต้แบรนด์สินค้ากว่า 20 แบรนด์ เช่น Beauti Drink, All Coco, เพรียวคอฟฟี่ และอื่นๆ อีกมากมาย ล่าสุดยังได้รับรางวัลบริษัทที่มีการบริหารจัดการดีที่สุดของประเทศไทยต่อเนื่องเป็นปีที่สองแล้ว

    

    SISB



    ธุรกิจ: การศึกษา

    ยอดขาย: 38 ล้านเหรียญ

    กำไรสุทธิ: 11 ล้านเหรียญ

    มูลค่าตลาด: 290 ล้านเหรียญ

    โรงเรียนนานาชาติชั้นนำด้วยหลักสูตรจากสิงคโปร์มาตรฐานสากล จุดเด่นคือมีการสอนให้นักเรียนมีความเชี่ยวชาญ 3 ภาษาที่สำคัญ ได้แก่ ไทย อังกฤษ และจีน ซึ่งจะมีการเปิดสาขาใหม่เป็นสาขาที่ 5 และ 6 เร็วๆ นี้

    

    Supalai



    ธุรกิจ: อสังหาริมทรัพย์

    ยอดขาย: 983 ล้านเหรียญ

    กำไรสุทธิ: 233 ล้านเหรียญ

    มูลค่าตลาด: 1.12 พันล้านเหรียญ

    หนึ่งในผู้เล่นหลักตลาดอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทยซึ่งเพิ่งเผยผลประกอบการครึ่งปีแรกออกมาว่าเป็นที่น่าพอใจ พร้อมเดินหน้าเปิดอีก 27 โครงการใหม่ในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเน้นอสังหาฯ แนวราบและคอนโดมิเนียมพร้อมเข้าอยู่

    

    Thai Nakarin Hospital



    ธุรกิจ: โรงพยาบาล

    ยอดขาย: 77 ล้านเหรียญ

    กำไรสุทธิ: 13 ล้านเหรียญ

    มูลค่าตลาด: 180 ล้านเหรียญ

    โรงพยาบาลเอกชนไทยนครินทร์พร้อมให้บริการด้วยบุคลากรทางการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขาพร้อมอุปกรณ์ทันสมัยและเทคโนโลยีมาตรฐานสากล ก้าวเข้าสู่ปีที่ 30 เดินหน้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ Medical Hub

    

    Thai Optical Group



    ธุรกิจ: เลนส์สายตา

    ยอดขาย: 83 ล้านเหรียญ

    กำไรสุทธิ: 12 ล้านเหรียญ

    มูลค่าตลาด: 97 ล้านเหรียญ

    จากจุดเริ่มต้นร้านขายแว่นตาช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง สู่ผู้นำการผลิตเลนส์แว่นตาชั้นนำของประเทศไทยด้วยโรงงานมาตรฐานระดับโลก โดยทางบริษัทตั้งใจเดินหน้าขยายตลาดต่างประเทศฝั่งยุโรปและอเมริกาในครึ่งหลังของปีนี้

    

    Thaitheparos



    ธุรกิจ: เครื่องปรุงรสอาหาร

    ยอดขาย: 96 ล้านเหรียญ

    กำไรสุทธิ: 18 ล้านเหรียญ

    มูลค่าตลาด: 303 ล้านเหรียญ

    ไทยเทพรส ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องปรุงรสอาหารเจ้าของแบรนด์ “ภูเขาทอง” ที่อยู่คู่คนไทยมายาวนานกว่า 60 ปี ด้วยสินค้าอันหลากหลายครบเครื่องเรื่องในครัวจากโรงงานผลิตที่ทันสมัย ทั้งยังมีการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง

    

    แปลและเรียบเรียงจาก Forbes Asia,s Best Under A Billion ซึ่งเผยแพร่บน Forbes.com

    

    อ่านเพิ่มเติม : ททท. ร่วมกับ foodpanda และ Tellscore ผลักดัน Soft Power ไทยสู่ระดับโลก กับแคมเปญ "Amazing Thailand"

    ​ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine