ท่ามกลางกิจการร่วมลงทุนที่ขาดท่อน้ำเลี้ยงทั่วโลกก็มิอาจยับยั้งการกำเนิดของสตาร์ทอัพทั่วเอเชียได้
รายชื่อ Forbes Asia 100 to Watch ประจำปีนี้ฉายแสงไปยังบรรดาบริษัทขนาดเล็กและสตาร์ทอัพที่มุ่งเป้าลูกค้าที่เข้าถึงได้ยากในท้องตลาด หรือไม่ก็ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ตั้งแต่ Generative AI ไปจนการวินิจฉัยมะเร็งจากเลือด
ทั้งยังรวมถึงนวัตกรรมรักษ์โลก เช่น การพัฒนาโปรตีนทางเลือกจากแมลง และการพากระบวนการผลิตนมเข้าสู่วิถีดิจิทัลเพื่อยกระดับอัตราผลตอบแทนต่างๆ นอกจากนี้ยังมีผู้ให้บริการโซเชียลคอมเมิร์ซ ซึ่งช่วยเหลือผู้ใช้งานในการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค
บรรดาบริษัทจากประเทศและดินแดนทั้งหมด 11 แห่ง ถูกแบ่งเป็น 11 หมวดหมู่ เช่น เทคโนโลยีชีวภาพและสุขภาพ อีคอมเมิร์ซและค้าปลีก การเงิน เป็นต้น โดยประเทศที่นำมาเป็นปีที่สองติดต่อกันคือสิงคโปร์พร้อมจำนวนบริษัท 20 แห่งบนทำเนียบ ตามด้วยฮ่องกง 15 แห่ง และจีนอีก 11 แห่ง
ศูนย์กลางนวัตกรรมกำเนิดใหม่ในอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์พาให้ทั้งสองประเทศมีบริษัทในรายชื่อ 11 และ 9 แห่งตามลำดับ
สำหรับไฮไลต์ 10 บริษัทขนาดเล็กและสตาร์ทอัพมาแรงบนทำเนียบ Forbes Asia 100 to Watch ได้แก่
Abillion
ประเทศ: สิงคโปร์
ประเภทธุรกิจ: เทคโนโลยีเพื่อผู้บริโภค
ปีที่ก่อตั้ง: 2017
ซีอีโอ: Vikas Garg
ผู้สนับสนุนหลัก: 1/0 Capital, 500 Global, Brinc, Blue Horizon, The Mills Fabrica และ SDG Impact Japan
แอปพลิเคชันโซเชียลมีเดีย Abillion ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถแบ่งปันเนื้อหาเกี่ยวกับความยั่งยืนและซื้อสินค้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น อาหารมังสวิรัติ และเครื่องสำอางที่ไม่มีการทดลองกับสัตว์
ทางบริษัทกล่าวว่าพื้นที่ซื้อขายแบบ peer-to-peer ของพวกเขาครอบคลุมกว่า 40 ประเทศ ทั้งยังมีการจับมือเป็นพันธมิตรกับหน่วยงานการกุศลด้านสิ่งแวดล้อมที่สนับสนุนสวัสดิภาพของสัตว์ในฟาร์ม สิ่งมีชีวิตในทะเล และอีกมากมาย จนตอนนี้ Abillion ระดมทุนได้ 16 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แล้ว
Beleaf
ประเทศ: อินโดนีเซีย
ประเภทธุรกิจ: เกษตรกรรม
ปีที่ก่อตั้ง: 2019
ซีอีโอ: Amrit Lakhiani
ผู้สนับสนุนหลัก: Alpha JWC Ventures, BRI Ventures, MDI Ventures และ Openspace Ventures
Beleaf ฟาร์มระบบไฮโดรโปนิกส์ปลูกพืชผักใบเขียว สมุนไพร และพืชหัวส่งให้บรรดาคู่ค้า เช่น ร้านหม้อไฟ Haidilao และยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซ Sho-pee
ในปี 2022 แพลตฟอร์ม Farming as a Service (FaaS) ของพวกเขายังช่วยเหลือเกษตรกรชาวอินโดนีเซียมากมาย ด้วยคำแนะนำทางการเกษตร การสนับสนุนด้านเทคโนโลยี และบริการตลาด งานของ Beleaf ดำเนินไปบนพื้นที่ฟาร์มอันกว้างใหญ่ 5 เฮกตาร์ โดยทางบริษัทกล่าวว่ามีพาร์ทเนอร์ FaaS จำนวน 20 ราย
Care Concierge
ประเทศ: มาเลเซีย
ประเภทธุรกิจ: เทคโนโลยีสำหรับองค์กร
ปีที่ก่อตั้ง: 2017
ซีอีโอ: Martin Yap
ผู้สนับสนุนหลัก: Bintang Capital Partners, Gobi Partners และ OSK Ventures International
บริษัทที่ตั้งเป้าไปยังประชากรผู้สูงอายุของมาเลเซีย Care Concierge นำเสนอสิ่งอำนวยความสะดวกที่จะเข้ามาช่วยเหลือในการดำเนินชีวิต พร้อมด้วยบริการดูแลผู้สูงอายุ
บนแอปพลิเคชัน Care Concierge ผู้ใช้งานสามารถเลือกพยาบาล นักบำบัด และผู้ดูแลจากจำนวนกว่า 2,000 คน ทั้งลูกค้ายังสามารถตรวจดูสัญญาณชีพของผู้สูงอายุที่พวกเขาห่วงใยซึ่งผู้ช่วยเหล่านี้จะคอยอัปเดตให้ กระทั่งตอนนี้ Care Concierge ระดมทุนได้ 4 พันล้านเหรียญแล้ว
Dat Bike
ประเทศ: เวียดนาม
ประเภทธุรกิจ: โลจิสติกส์และการขนส่ง
ปีที่ก่อตั้ง: 2019
ซีอีโอ: Son Nguyen
ผู้สนับสนุนหลัก: Delivery Hero Ventures, GSR Ventures, Hustle Fund, ISeed Ventures, Jungle Ventures, TVS Motor และ. Wavemaker Partners
Dat Bike ผู้ผลิตจักรยานไฟฟ้าในเมืองดานังโดยใช้ชิ้นส่วนต่างๆ ที่จัดหาได้ในเวียดนาม สตาร์ทอัพรายนี้เผยว่าโมเดลล่าสุดของพวกเขา Weaver++ สามารถเดินทางได้ไกลถึง 200 กิโลเมตรต่อการชาร์จเพียงสามชั่วโมง
ด้วยการระดมทุนรวม 16.5 ล้านเหรียญ Dat Bike จับมือกับยักษ์ใหญ่วงการเทคโนโลยี GoTo ให้นำจักรยานของพวกเขาไปใช้ในงานบริการต่างๆ เช่น ส่งอาหาร โลจิสติกส์ และการคมนาคม
Fleet Space Technologies
ประเทศ: ออสเตรเลีย
ประเภทธุรกิจ: เทคโนโลยีสำหรับองค์กร
ปีที่ก่อตั้ง: 2015
ซีอีโอ: Flavia Tata Nardini
ผู้สนับสนุนหลัก: Artesian, Blackbird, Grok Ventures, Horizons Ventures และ Momenta
Fleet Space Technologies ซึ่งตั้งอยู่ชานเมืองเอดิเลดอันเป็นบ้านขององค์กร Australian Space Agency ดำเนินการควบคุมดาวเทียมขนาดเล็กที่บรรดาลูกค้าใช้ในการหาลิเธียม ทองแดง และแร่ธาตุอื่นๆ
อ้างอิงจากทางบริษัท เทคโนโลยี ExoSphere ของพวกเขาช่วยให้บริษัทเหมืองหาแหล่งแร่ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ตั้งแต่เปิดตัว ExoSphere เมื่อเดือนมีนาคมปีที่ผ่านมา Fleet เผยว่าพวกเขาได้เซ็นสัญญากับ 30 บริษัท ซึ่งรวมถึงผู้สำรวจหาลิเธียมสัญญชาติออสเตรเลียน Core Lithium และ Talon Metals ผู้จัดหาทรัพยากรแก่ Tesla ในแคนาดา
Fleet ยังบอกว่าพวกเขากำลังพัฒนาความสามารถในการป้องกันจากอวกาศ และทำงานร่วมกับ Defence Space Command ของออสเตรเลียเพื่อออกแบบและใช้งานดาวเทียมวงโคจรต่ำ โดยในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา Fleet ระดมทุนได้ 50 ล้านเหรียญออสเตรเลีย (30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) โดยมีมูลค่าประเมินกว่า 350 ล้านเหรียญออสเตรเลีย
Good Food Technologies
ประเทศ: ฮ่องกง
ประเภทธุรกิจ: อาหารและบริการ
ปีที่ก่อตั้ง: 2020
ซีอีโอ: Joshua Ng
ผู้สนับสนุนหลัก: Alibaba Entrepreneurs Fund, Brinc, CGV Ventures, DayDayCook, Gobi Partners, Lever VC และ Tao Heung Holdings
สตาร์ทอัพเทคโนโลยีอาหาร Good Food Tech พัฒนาเนื้อทางเลือกจากพืชสำหรับอาหารเอเชีย แบรนด์ Plant Sifu ของพวกเขาใช้เนื้อหมูจากเห็ดชิทาเกะทำติ่มซำแบบจีนชนิดต่างๆ เช่น ขนมจีบ และซาลาเปาหมูแดง สตาร์ทอัพรายนี้กล่าวว่ามีร้านขายผลิตภัณฑ์ของพวกเขากว่า 500 แห่งในฮ่องกง
Idein
ประเทศ: ญี่ปุ่น
ประเภทธุรกิจ: เทคโนโลยีสำหรับองค์กร
ปีที่ก่อตั้ง: 2015
ซีอีโอ: Koichi Nakamura
ผู้สนับสนุนหลัก: DG Daiwa Ventures, Global Brain, Hakuhodo DY Ventures, Innovation Growth Ventures, Japan Associated Finance Co., KDDI Open In-novation Fund, Miyabi Ventures และ Sony Innovation Fund
บริษัทที่ตั้งอยู่ในโตเกียว Idein พัฒนาซอฟต์แวร์ปัญญาประดิษฐ์สำหรับอุปกรณ์ที่เชื่อมโยงกันได้ด้วยอินเทอร์เน็ต (IoT) เพื่อให้วิเคราะห์ข้อมูลที่ป้อนเข้าไปได้ด้วยตัวของมันเอง
แพลตฟอร์ม Actcast ของพวกเขาช่วยให้กล้องต่างๆ สามารถระบุจำนวนคนใน Video Feed ได้รวมไปถึงบอกเพศและอายุ โดยตอนนี้ Idein เผยว่าพวกเขาเป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัทกว่า 130 ราย หนึ่งในนั้นคือยักษ์ใหญ่ด้านการค้าของญี่ปุ่น Itochu
Kaleidofin
ประเทศ: อินเดีย
ประเภทธุรกิจ: การเงิน
ปีที่ก่อตั้ง: 2017
ซีอีโอ: Sucharita Mukherjee
ผู้สนับสนุนหลัก: Bharat Fund, Blume Ventures, Flourish Ventures, Bill & Melinda Gates Foundation, Michael & Susan Dell Foundation, Oikocredit และ Omidyar Network
สตาร์ทอัพฟิคเทค Kaleidofin นำเสนอวิธีการแก้ปัญหาการเงินแบบดิจิทัลแก่ประชากรที่ยากจะเข้าถึงหรืออาจเข้าไม่ถึงบริการของธนาคารในอินเดีย ผู้ใช้งานสามารถสมัครบัญชีธนาคารออนไลน์ บัตรเดบิต ตรวจสอบสุขภาพเครดิตทางการเงิน และบริการอื่นๆ ของ Kaleidofin
พวกเขายังสามารถลงทะเบียน KaleidoPay แอปจ่ายเงินแบบ peer-to-peer ได้อีกด้วย โดยตอนนี้ทางบริษัทระดมทุนเป็นจำนวน 23 ล้านเหรียญแล้วจากนักลงทุนมากมายและกลุ่มผู้ใจบุญอย่างมูลนิธิ Bill & Melinda Gates
Lifegoeson
ประเทศ: เกาหลีใต้
ประเภทธุรกิจ: อาหารและบริการ
ปีที่ก่อตั้ง: 2018
ซีอีโอ: Sungwoo Cho
ผู้สนับสนุนหลัก: Altos Ventures, DS Asset Management, H&Q Korea, Korea Development Bank, Korea Investment Partners, Samsung Venture Investment และ SoftBank Ventures Asia
Lifegoeson ดำเนินบริการซักรีดด้วยเทคโนโลยีอันหลากหลาย เช่น LaundryGo แอปพลิเคชันรับและส่งผ้าซักรีด (ซึ่งมียอดดาวน์โหลดกว่า 100,000 ครั้งบน Google Play Store) และเครื่องแยกผ้าด้วยปัญญาประดิษฐ์
จากการศึกษาข้อมูลผู้ใช้งาน Lifegoeson วางแผนขยายไปยังอีคอมเมิร์ซและสร้างความสำเร็จอีกครั้งในแวดวงเสื้อผ้า อาหาร และบ้าน เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2022 พวกเขาระดุมทุนรอบ series C ได้ 37 ล้านเหรียญ โดยมีผู้ลงทุนรายสำคัญอย่าง H&Q Korea เข้าร่วมด้วย
SariSuki
ประเทศ: ฟิลิปปินส์
ประเภทธุรกิจ: เกษตรกรรม
ปีที่ก่อตั้ง: 2021
ซีอีโอ: Brian Cu
ผู้สนับสนุนหลัก: Credit Saison, Foxmont Capital Partners, Global Founders Capital, Kickstart Ventures, Openspace Ventures, JG Digital Equity Ventures และ Susquehanna International Group
สตาร์ทอัพโซเชียลอีคอมเมิร์ซ SariSuki ขายผักผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของพวกเขา ตั้งเป้าปฏิรูปภูมิทัศน์การค้าปลีกของฟิลิปปินส์ ลูกค้าสามารถสมัครบัญชีเพื่อสั่งซื้อผลิตภัณฑ์สดใหม่จากฟาร์มในท้องถิ่น โดยจะแจกจ่ายผ่านตัวแทนของ Sarisuki สตาร์ทอัพรายนี้เผยว่าระดมทุนได้รวมเป็น 30 ล้านเหรียญ และมีลูกค้ากว่า 800,000 คนแล้ว
วิธีการจัดทำ
ในการคัดเลือก 100 to Watch ของเรานั้น Forbes Asia เปิดให้มีการสมัครทางออนไลน์ ทั้งยังได้เชื้อเชิญบรรดาพร้อมเชิญบรรดาองค์กรบ่มเพาะผู้ประกอบการ องค์กรที่ให้การสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็ก มหาวิทยาลัย ผู้ร่วมลงทุน และอื่นๆ ให้ร่วมเสนอชื่อบริษัทด้วยเช่นกัน
ผู้เข้ารอบ 100 ถูกคัดกรองจากรายชื่อ 550 ราย เพื่อให้การพิจารณาเป็นไปอย่างเหมาะสม บริษัทเหล่านี้ต้องมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เป็นบริษัทเอกชน แสวงหาผลกำไร มีรายได้ประจำปีล่าสุดไม่เกิน 50 ล้านเหรียญ และระดมทุนรวมจนถึงวันที่ 7 สิงหาคมไม่เกิน 100 ล้านเหรียญ
ทีมงานของเราประเมินแต่ละบริษัทโดยอ้างอิงเกณฑ์ต่างๆ เช่น ผลกระทบเชิงบวกต่อภูมิภาคหรืออุตสาหกรรม บันทึกย้อนหลังการเติบโตของรายได้ที่มั่นคงหรือความสามารถในการดึงดูดเงินลงทุน โมเดลธุรกิจหรือตลาดที่มีอนาคต และเรื่องราวน่าสนใจ
ทีมบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการแทนที่หรือนำรายชื่อบริษัทหรือบุคคลใดในทำเนียบออก หากมีข้อมูลใหม่ทำลดทอนความเหมาะสมของพวกเขา
แปลและเรียบเรียงจาก Forbes Asia 100 To Watch 2023 ซึ่งเผยแพร่บน Forbes
อ่านเพิ่มเติม : KKP ปรับประมาณการณ์เศรษฐกิจไทยเหลือ 2.8% เหตุท่องเที่ยวฟื้นตัวต่ำกว่าคาด
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine