การลาออกครั้งสุดท้ายและตัดสินใจหันหลังให้กับชีวิตมนุษย์เงินเดือนของ สุวัฒน์ เชาว์ปรีชา กลับกลายเป็นจุดกำเนิดของ บริษัท ฤทธา จำกัด หนึ่งในบริษัทรับเหมาก่อสร้างชั้นนำของไทย และพร้อมขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในตลาดอาเซียน โดยสุวัฒน์ประกาศเป้าหมายใน 3 ปีข้างหน้า บริษัทจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อปูทางสร้างความน่าเชื่อถือรองรับการขยายงานทั้งในและนอกประเทศ
ดันฤทธาสู่ท็อปรับเหมา
สุวัฒน์เป็นเด็กหนุ่มจากปากน้ำโพ ครอบครัวของเขาหารายได้จากการเดินเรือรับส่งทั้งผู้โดยสารและสินค้าในแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งรายได้นี้ส่งให้เขาได้เล่าเรียนถึงคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่แล้วการขนส่งทางบกพัฒนาขึ้น ทำให้คนหันไปสัญจรทางบกและการเดินเรือของที่บ้านต้องเลิกไปในที่สุด

ชิงส่วนแบ่งรับเหมาไทยและ CLMV
บทวิเคราะห์แนวโน้มธุรกิจรับเหมาก่อสร้างของทีมวิจัยเศรษฐกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยาประเมินว่า ในปี 2559 ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างขยายตัวที่ 7 - 8.7% มีมูลค่าประมาณ 1.24 - 1.26 ล้านล้านบาท ซึ่งโครงการส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานโดยภาครัฐเป็นหลัก ขณะที่การลงทุนของภาคเอกชนทั้งเชิงพาณิชย์และที่อยู่อาศัยชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ แต่ปี 2560 คาดว่าธุรกิจรับเหมาก่อสร้างจะเติบโต 9-10% จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่มีต่อเนื่อง และการลงทุนภาคเอกชนที่จะกลับมาฟื้นตัว สำหรับมูลค่าการรับรู้รายได้ต่อปี หากพิจารณารายได้ของบริษัทรับเหมาก่อสร้างไทย 10 บริษัท ในปี 2558 พบว่ามีรายได้รวมกัน 1.91 แสนล้านบาท โดยฤทธามีส่วนแบ่งตลาดคิดเป็น 7.55% ขณะที่บริษัทที่มีส่วนแบ่งตลาดมากที่สุด 3 อันดับ ได้แก่ อิตาเลียนไทย (27.16%) ช.การช่าง (19.84%) และทีทีซีแอล (11.49%) ซึ่งสัดส่วนรายได้หลักของบริษัทเหล่านี้มาจากการรับงานโครงการภาครัฐซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ ส่วนฤทธาเน้นรับงานเอกชนซึ่งถือเป็นจุดแข็งหนึ่งของบริษัท
นอกจากการรับงานก่อสร้างในประเทศแล้ว โอกาสของผู้รับเหมาไทยยังมีอีกมากในประเทศอาเซียน โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านอย่าง CLMV ที่เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งอำนวยความสะดวก และเขตเศรษฐกิจพิเศษ ได้แก่ ลาว เมียนมา กัมพูชา ซึ่งมีชายแดนติดกับไทยทำให้ได้เปรียบในการขนส่งวัสดุและเครื่องจักร ส่วนเวียดนามมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานสูง แต่อาจจะมีอุปสรรคเรื่องการขนส่งบ้าง
หลักการสำคัญในการบริหารที่สุวัฒน์ยึดถือคือ การบริหารต้นทุนการก่อสร้าง เนื่องจากงานรับเหมาก่อสร้างจะได้รับค่าจ้างเป็นงวด หากบริหารจัดการไม่ดี ค่าใช้จ่ายอาจบานปลายได้ จึงเป็นที่มาของการทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างแบบครบวงจร
อาณาจักรฤทธาประกอบด้วย 4 บริษัทในเครือ ได้แก่ บริษัท ไซมิส สแกฟโฟลดิ้ง จำกัด บริการขายและให้เช่านั่งร้าน บริษัท ไซมิส อีควิปเม้นท์ แอนด์ แมชชีนเนอรี่ จำกัด บริการขายและให้เช่าเครื่องมือ/เครื่องจักร บริษัท ไทยโกลบอล เอ็นเนอร์จี้ จำกัด รับออกแบบและก่อสร้างอาคารประหยัดพลังงาน โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และ บริษัท ไทย ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริการสร้างอาคารสำหรับเช่าระยะยาว


ลุยอสังหาฯ ปักหมุดกัมพูชา
ก้าวสำคัญของฤทธาในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เริ่มต้นเมื่อกลุ่ม บริษัท ชิป มง กรุ๊ป จำกัด (Chip Mong Group Co., Ltd. หรือ CMG) หนึ่งในบริษัทขนาดใหญ่ของกัมพูชา ต้องการขยายธุรกิจด้านโรงแรมและอาคารสำนักงานเพิ่มเติม ทั้งสองจัดตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้นมาภายใต้ชื่อ บริษัท ชิป มง ฤทธา เอนจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด โดย CMG ถือหุ้นที่ 55% และฤทธา 45% แผนธุรกิจเบื้องต้นคือ การพัฒนาโครงการระยะยาว 10 ปี เป็นอาคารสูง 3 อาคาร มูลค่ารวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท ได้แก่ โรงแรม Hyatt Regency Phnom Penh ย่านใจกลางเมืองที่เริ่มก่อสร้างเมื่อเดือนมีนาคม 60, โรงแรม Marriott Phnom Penh อยู่ระหว่างออกแบบ ส่วนอีกอาคารมีแผนเป็นสำนักงานและโรงแรม สุวัฒน์วางแผนไว้ว่า โครงการนี้จะเป็น pilot project ในการเริ่มขยายตลาดออกไปรับเหมาก่อสร้างยังกลุ่มประเทศอาเซียนอย่างจริงจังของฤทธา เพราะการรับงานในต่างประเทศย่อมเป็นการกระจายความเสี่ยงที่ดี หากธุรกิจก่อสร้างในประเทศชะลอตัวลงมุ่งสร้างรายได้ 2 หมื่นล้าน
หลังจากขยายอาณาจักรทางธุรกิจให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง สุวัฒน์เตรียมความพร้อมเพื่อนำฤทธาเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายใน 3 ปีนี้ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือในการทำธุรกิจในประเทศเพื่อนบ้าน “ผมในฐานะเป็นผู้ก่อตั้ง ซึ่งอายุก็มากแล้ว การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ อาจจะมีผู้ถือหุ้นที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจเดียวกัน และหากถือหุ้นในสัดส่วนที่เพียงพอ เขาจะสามารถช่วยเสริมทัพบริหารให้ดียิ่งขึ้นได้...” เขากล่าว
ฤทธาสร้างผลงานและมีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง สามารถรักษาอัตราการเติบโตจนปีที่ผ่านมาฤทธามีรายได้ประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท และตั้งเป้ารายได้แตะ 2 หมื่นล้านบาทใน 3 ปีข้างหน้า
ไม่เพียงการนั่งเก้าอี้ผู้บริหารระดับสูงและดูแลด้านนโยบาย สุวัฒน์ยังให้ความสำคัญกับการมอนิเตอร์การทำงานในแต่ละวัน ทุกวันนี้ ถึงแม้อายุจะอยู่ในวัยเกษียณ แต่สุวัฒน์ยังคงกำกับงานทุกวันจนแต่ละโครงการเสร็จสมบูรณ์ และไม่ว่างานจะยุ่งเพียงใด เขาไม่พลาดที่จะออกรอบกอล์ฟกับเพื่อนๆ
“ไม่ว่าจะเป็นกอล์ฟหรือทำงาน ล้วนเริ่มจากการเรียนรู้พื้นฐานในสิ่งที่ทำ เมื่อเรียนรู้แล้วก็ต้องฝึกหัดและฝึกฝนให้เกิดความชำนาญ แล้วจึงปฏิบัติจริง...” ดังสโลแกนที่ฤทธา ยึดเป็นแนวทางว่า “We have made the impossible possible!”
เรื่อง: จุฑามาศ ศรีสวัสดิ์
ภาพ: กิตติเดช เจริญพร และ บริษัท ฤทธา จำกัด
คลิกอ่านฉบับเต็ม "สุวัฒน์ เชาว์ปรีชา แจ้งเกิดฤทธาโชว์ผลงาน CLMV" ได้ที่ Forbes Thailand Magazine ฉบับ มีนาคม 2560


