ในวัย 79 ปี Patti LaBelle ไม่ได้หยุดอยู่แค่การเก็บค่าลิขสิทธิ์ เธอกำลังใช้รายได้จากเพลงของเธอมาต่อยอดกับ Patti’s Good Life ที่ตอนนี้พายมันเทศและแมคแอนด์ชีสเป็นสินค้าขายดีใน Walmart
บางทีคุณอาจรู้จัก Patti LaBelle ในฐานะเจ้าของเสียงร้องในเพลง “Lady Marmalade” หรือในฐานะนักร้องเดี่ยวดาวรุ่งที่คว้า 2 รางวัลแกรมมี่ในยุค 90 บางทีคุณอาจจำเธอได้จาก Out All Night ซิตคอมสั้นที่ฉายในปี 1992 แต่สิ่งที่คุณคงไม่รู้คือ เจ้าแม่วงการเพลงโซล (Godmother of Soul) คนนี้เป็นเซียนไพ่ด้วย
“ฉันกินเรียบเมื่อคืน” เธอเล่าในวงไพ่ Pitty Pat รอบบ่ายโดยบุ้ยใบ้ไปทาง Charles Suitt หุ้นส่วนธุรกิจของเธอ แล้วกวาดเงินที่กระจายอยู่ทั่วเคาน์เตอร์ในครัวลงกระเป๋าเงินที่อัดแน่นไปด้วยธนบัตร 20, 10 และ 5 เหรียญสหรัฐฯ
LaBelle ไม่เพียงทำเงินได้จากวงไพ่เท่านั้น เธอยังเป็นผู้ชนะในฐานะผู้ประกอบการอีกด้วย เมื่อ 15 ปีที่แล้ว เธอเริ่มก่อตั้ง Patti’s Good Life ใน Philadelphia เมืองเกิดที่เธออยู่มายาวนานเพื่อขายผลิตภัณฑ์ซอสเผ็ด จากนั้นก็ขยายไปสู่อาหารทานง่ายทั้งหลายที่ทุกบ้านต้องตุน เช่น พีชคอบเบลอร์ พายมันเทศ ไก่กับบิสกิต แมคแอนด์ชีส ทุกจานมีที่มาจากสูตรอาหารของ LaBelle เอง
คุณเชื่อไหมว่ายอดขายรวมปีที่แล้วเกือบ 200 ล้านเหรียญมันมาจากสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ นั่นคือ LaBelle จ่ายเงินโรงงานเพื่ออบอาหารให้เธอ แล้วเอาไปขายให้ห้างค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาซึ่งรวมถึง Target และ Walmart แค่เจ้าหลังเจ้าเดียวก็สร้างยอดขายได้ 85 ล้านเหรียญแล้ว
และท้ายที่สุด Patti’s Good Life เหลือรายได้เข้ากระเป๋าตัวเอง 10% หรือ 20 ล้านเหรียญในปีที่แล้ว ปัจจุบัน LaBelle และลูกชายเป็นเจ้าของบริษัท 100% แต่เธอบอกว่า ยินดีเปิดรับเงินทุนจากภายนอกด้วย
“คนนึกถึงฉันในฐานะแม่ครัว คนที่จะมอบอาหารที่มีคุณภาพให้พวกเขา” เธอกล่าว “และฉันจะไม่ใส่ชื่อตัวเองลงไปในอะไรก็ตามที่ไม่สมบูรณ์แบบ 110%”
LaBelle เป็นหนึ่งในผู้มาใหม่ 200 คนในทำเนียบ Forbes 50 Over 50 ประจำปี ครั้งที่ 3 ซึ่งให้ความสำคัญกับผู้หญิงที่มีอิทธิพลในช่วงอายุ 50, 60, 70 ปี หรือมากกว่านั้น รายชื่อในปีนี้ถูกจัดทำขึ้นด้วยความร่วมมือจาก Mika Brzezinski พิธีกรร่วมรายการ Morning Joe และโครงการ Know Your Value ของเธอ มีการแบ่งผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ ผลกระทบ (Impact), การลงทุน (Investment), นวัตกรรม (Innovation) และไลฟ์สไตล์ (Lifestyle)
LaBelle เริ่มทำอาหารตอนอายุ 10 ขวบ โดยหลบไปที่โรงรถในบ้านเพื่อสร้างสรรค์ซอสมะเขือเทศรสเผ็ดสูตรเฉพาะขึ้นมา เธอไม่เคยยอมแพ้ ตลอดอาชีพการแสดงของเธอ เธอได้ทำอาหารให้ Elton John Prince และ Rolling Stones เธอทำถึงขนาดที่ว่าติดฉลากชื่อตัวเองบนถาดฟอยล์เพื่อไม่ให้คนสับสนระหว่างอาหารจาก Patti LaBelle กับอาหารอื่นๆ ที่เตรียมไว้ ตำราอาหารเล่มแรกของเธอตีพิมพ์ในปี 1999
“เพื่อนฉันพูดตลอดว่า ‘ทำไมเธอไม่เปิดร้านอาหารหรือเริ่มขายอาหารของตัวเองดูล่ะ?’” เธอเล่า
ในปี 2003 เธอลองขายเสื้อผ้าบนเว็บไซต์ Home Shopping Network แต่เธอไม่พอใจกับคุณภาพของเสื้อผ้าและใจของเธอก็ไม่ได้อยู่ที่นั่น ประสบการณ์ดังกล่าวสอนเธอว่า เธอควรเป็นเจ้าของธุรกิจทั้งหมดมากกว่าแค่ให้สิทธิบุคคลที่ 3 ใช้ชื่อและแบรนด์ส่วนตัวของเธอ
แต่กับ Patti’s Good Life มันออกจะตรงกันข้าม เธอลงไปลุยเองแบบเรียกได้ว่าหมกมุ่น เธอเชิญผู้ประกอบอาหารระดับอุตสาหกรรมเข้ามาในครัวเพื่อดูว่าเธอทำอาหารอย่างไร จากนั้นก็ทดสอบผลิตภัณฑ์มากถึง 10 หรือ 20 ครั้ง และแล้วความใส่ใจในรายละเอียดก็ให้ผลตอบแทนเมื่อเธอเปิดตัวพายมันเทศของ Patti’s Good Life ที่ Walmart ในฤดูใบไม้ร่วงปี 2015 มันกลายเป็นไวรัลบน YouTube และในช่วง 3 วันก่อนวันขอบคุณพระเจ้าก็ขายดีแบบ 1 ชิ้นต่อวินาทีเลยทีเดียว
“แม้กระทั่งทุกวันนี้เราก็ยังขายพายมันเทศได้มากกว่าก่อนที่เราจะเปิดตัวพายมันเทศ Patti กว่า 5 เท่า” Doug McMillon ซีอีโอของ Walmart บอก Forbes ในอีเมล McMillon ยกความดีความชอบเรื่องความนิยมของผลิตภัณฑ์ให้กับความเข้มงวดกวดขันของดาราผู้นี้โดยเล่าว่า เธอมักแวะไปที่ Walmart สาขาต่างๆ เป็นการส่วนตัวเพื่อคอยถามลูกค้าและพนักงานขายว่า พวกเขาต้องการเห็นอะไรจากแบรนด์ Patti’s Good Life LaBelle เข้าใจถึงความจำเป็นของ “นวัตกรรมและการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง” เขากล่าว
เธอยังคงขยายธุรกิจต่อไปโดยวางแผนจะเปิดตัวไลน์สินค้าไวน์ในปลายปีนี้ อันได้แก่ โรเซ่ โซวีญงบล็อง และคาแบร์เนต์ ซึ่งต้นแบบคือ ไวน์ระดับไฮเอนด์ที่เธอโปรดปราน แต่ใช้ต้นทุนแค่ 1 ใน 5 เท่านั้น และกำลังหาทางขยายไลน์อาหารเช้าแช่แข็งของ Patti’s Good Life ซึ่งเปิดตัวเมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมาด้วยแพนเค้กและวาฟเฟิล ในเร็วๆ นี้จะมีน้ำเชื่อมที่เหมาะกับผู้ป่วยเบาหวานออกมาด้วย
“อาหารของฉันกำลังเข้าไปในที่ต่างๆ ที่อาชีพนักร้องของฉันไปไม่ถึง” เธอบอก
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : Francis Yeoh ขับเคลื่อน YTL ด้วยพลังงานสีเขียว