Megan ผู้ไม่เคยพ่าย - Forbes Thailand

Megan ผู้ไม่เคยพ่าย

FORBES THAILAND / ADMIN
19 Jun 2023 | 11:35 AM
READ 7250

ดูเหมือนไม่มีอะไรจะหยุดซูเปอร์สตาร์ฮิปฮอป Megan Thee Stallion จากการสร้างอาณาจักรตามแบบต้นแบบของเธออย่าง Beyonce ธุรกิจเพลงก็เหมือนนักฆ่า แต่เธอก็รอดมาได้ทั้งเรื่องการตายของแม่ ฝูงชนผู้เกลียดชัง และล่าสุดการปล้นราวในหนังเรื่อง Bling Ring


    ณ เวลา 23.30 น. ในเดือนตุลาคม Megan Thee Stallion กำลังถ่ายทอดสดจาก New York ดาวรุ่งฮิปฮอปวัย 27 ปี กระโดดขึ้นเวที Saturday Night Live สร้างความเร้าใจให้กับผู้ชมที่ส่งเสียงเชียร์ขณะสวมชุดเดรสรัดรูปสีดำบางเบา ผมปล่อยยาวถึงน่อง

    คืนนี้ Megan จะทำหน้าที่เป็นทั้งพิธีกรและแขกรับเชิญของ SNL โดยร่วมร้องเพลงกับเหล่านักดนตรีชื่อดัง มีทั้ง Jennifer Lopez, Mick Jagger, Queen Latifah, Debbie Harry, Elton John และ Ray Charles ซึ่งต่างก็เคยควบ 2 หน้าที่ในงานนี้ เธอพูดคนเดียวจบและรีบวิ่งลงหลังเวทีทั้งส้นสูงเพื่อเปลี่ยนชุดครั้งที่ 1 ในเสี้ยววินาทีในสารพันชุดที่ต้องเปลี่ยนก็มีชุดสครับสีฮอตพิงก์เพื่อเล่นมุกห้องผ่าตัด ต่อด้วยเสื้อสเวตเตอร์สไตล์นักศึกษาและกางเกงยีนส์สำหรับฉากในกระท่อมไม้

    จากนั้นแร็ปเปอร์สาวรางวัลแกรมมีก็โผล่มาในชุดสไตล์นางงามอเมริกาเพื่อร้องเพลงใหม่ของเธอ “Anxiety” ซึ่งเป็นเพลงเกี่ยวกับความเครียดและการดิ้นรนของคนดัง ก่อนจะหายไปหลังเวทีอีกครั้ง “ฉันช้ากว่านี้ไม่ได้แล้ว” Megan กล่าว Forbes ประมาณการว่าเธอมีรายได้ประมาณ 13 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2022 จากค่าลิขสิทธิ์ การขายตั๋ว การสนับสนุนแบรนด์สินค้า และการออกสินค้าของตัวเองรวมกัน ให้หยุดสักพักเหรอ? วินาทีเดียวก็ไม่

    “ฉันจะหยุดเมื่อฉันตายเท่านั้น” เธอกล่าว “ฉันกำลังพยายามสร้างบางอย่างให้เป็นเรื่องเป็นราว” เธอเสริมว่า “เมื่อฉันเริ่มลงนั่งฉันจะรู้สึกว่ายังทำได้ไม่ดีพอ หรือกำลังเปิดโอกาสให้คนอื่นแซงหน้าฉันไป”

    ตั้งแต่ปี 2019 Megan Thee Stallion ได้ทะยานขึ้นนำในวงการเพลงฮิปฮอป โดยก้าวกระโดดจากงานแสดงมูลค่า 500 เหรียญในเมือง Houston บ้านเกิดของเธอไปสู่การเป็นหุ้นส่วนกับคนดังที่ใหญ่ที่สุดในวงการเพลงอย่าง Beyonce, Nicki Minaj, BTS และ Dua Lipa ในปี 2020 Cardi B ได้ทาบทามให้ Megan ร่วมงานในเพลง “WAP” ซึ่งเป็นเพลงเซ็กซี่ที่แสดงถึงพลังทางเพศเชิงบวกของผู้หญิงที่กลายเป็นเพลงฮิตแห่งปี โดยมีการสตรีมเกือบ 2 พันล้านครั้งบน Spotify และ YouTube “นั่นคือเพลงสำหรับเธอ ฉันไม่คิดว่าจะเหมาะกับใครที่ไหนอีก” Cardi B กล่าว “เธอทำให้เพลงเปล่งประกาย”


    Megan ซึ่งติดทำเนียบ 30 Under 30 ประจำปีของ Forbes เมื่อ 3 ปีที่แล้ว เป็นตัวแทนของฮิปฮอปหญิงแสนก๋ากั่นรุ่นใหม่ เธอและนักร้องคนอื่นอย่าง Cardi B, City Girls และ Doja Cat กำลังโอบรับสไตล์เซ็กซี่แบบไม่แคร์อะไร ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของแร็ปเปอร์ชาย แฟนเพลงสาวๆ หลายล้านคนที่ Megan เรียกว่า “ฮอตตี้” อยากเห็นมากกว่านั้นอีก “เธอสร้างพลังใจและเซ็กซี่มาก” Cardi B กล่าว “เธอคือ Mega-Million Megan”

    แบรนด์มูลค่าหลายพันล้านเหรียญทั้งหลายซึ่งเมื่อทศวรรษที่แล้วไม่ได้คิดสนใจเพลงดิบๆ ของ Megan ซึ่งมักจะเป็นเพลงเรต X แต่ตอนนี้กำลังเรียงแถวมาหา เธอเพิ่งเซ็นสัญญารับโปรโมทสินค้าให้ Nike, Revlon, Cash App และ Popeyes

    “อิทธิพลทางวัฒนธรรมที่ฮิปฮอปและศิลปินอย่าง Megan มีในตอนนี้นั้นไม่มีอะไรมาเทียบได้” Stacy Taffet ผู้บริหารระดับสูงฝ่ายการตลาดของ Frito-Lay ผู้ซึ่งร่วมมือกับ Megan เพื่อดึงลูกค้าให้ซื้อ Flamin” Hot Cheetos กล่าว “แคมเปญ Super Bowl ที่เราทำร่วมกับเธอทำตัวเลขได้ดีกว่าที่เราเคยทำได้และเกินความคาดหมายทุกอย่างเลย”

    ลืมโฆษณาแบบทั่วๆ ไปได้เลย Megan สนใจเฉพาะแคมเปญที่สื่อถึงสไตล์ก๋ากั่นมั่นใจของเธอเท่านั้น “ฉันเสแสร้งไม่เป็น” เธอกล่าว “ถ้าฉันไม่รู้สึกอินกับมันจริงๆ ฉันก็ไม่คิดจะขายมัน”
โฆษณาที่เธอเล่นให้ Cheetos สำหรับ Super Bowl มีมูลค่าราว 2 ล้านเหรียญ Megan และป๊อปสตาร์ Charlie Puth ไม่เคยปรากฏตัวในโฆษณาระหว่างเกมใหญ่มาก่อน พวกเขาเคยให้เสียงแก่ตัวละครสัตว์เท่านั้น

    แต่หลายสัปดาห์ก่อนที่จะเปิดตัวสปอตนี้ ทั้งคู่ยุ่งกับการโพสต์วิดีโอและใช้อิทธิพลจากไวรัล (เธอมีผู้ติดตามประมาณ 50 ล้านคนทั่ว Instagram, TikTok และ Twitter) เพื่อสร้างกระแส และเพื่อโปรโมท Cash App ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ให้บริการแบงกิ้งและซื้อขายเงินคริปโตจาก Block (เดิมชื่อ Square) เธอได้ถ่ายทำวิดีโอการใช้งาน “สุดฮอต” เพื่อสอนพื้นฐานทางการเงินให้กับกลุ่มวัยรุ่น สัญญามูลค่าประมาณ 1 ล้านเหรียญกับร้านอาหาร Popeyes ทำให้ Megan มีซอสของตัวเองชื่อ “Hottie Sauce” และเงินอีก 250,000 เหรียญสำหรับร้าน Popeyes ของเธอเอง

    “ฉันจะไม่ขายอะไรให้ฮอตตี้ถ้าไม่ได้ใส่ความสร้างสรรค์และแนวทางของฉันลงไป”

    ก่อนที่เธอจะเป็น Megan Thee Stallion เธอคือ Megan Pete แม่ของเธอ Holly Thomas เจ้าหน้าที่เก็บเงินและแร็ปเปอร์ผู้มุ่งมั่นเลี้ยงดูเธอใน South Park ซึ่งเป็นย่านคนผิวดำใน Houston ระหว่างปี 2016 Megan กำลังเรียนพยาบาลที่ Prairie View A&M ซึ่งเป็นหนึ่งในวิทยาลัยคนผิวดำที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาไปพร้อมกับการสร้างวิดีโอฮิปฮอปบน YouTube และในปี 2018 เพลงของเธอไปสะดุดหู Travis Farris ผู้จัดการฮิปฮอปซึ่งได้ยินเกี่ยวกับ Megan เป็นครั้งแรกจากนักระบำเปลื้องผ้าใน Houston ที่ช่วยโปรโมทเสียงของเธอ

    “ผมพยายามให้ความสนใจกับสิ่งที่ผู้หญิงชอบในดนตรี” Farris กล่าว “เมื่อพวกเธอเสนอชื่อใครสักคนคุณต้องลองฟัง” ในปี 2018 Megan เซ็นสัญญากับ 1501 Certified Entertainment ซึ่งเป็นค่ายเพลงอิสระใน Houston ด้วยค่าตัวล่วงหน้า 50,000 เหรียญ โปรเจ็กต์แรกของเธอ Tina Snow เปิดตัวในปี 2018 โดยเริ่มจากการร่วมทำเพลงกับแร็ปเปอร์อย่าง Ty Dolla $ign กับ Nicki Minaj และในปี 2020 เธอได้ทำเพลงกับ Beyonce ฮีโร่ของเธอ เป็นการรีมิกซ์เพลง “Savage” ของ Megan ที่ฮิตใน TikTok

    แต่ชัยชนะในอาชีพเหล่านั้นได้มาท่ามกลางความสูญเสียในชีวิตส่วนตัวอย่างมากมาย ในปี 2019 Holly แม่ของเธอที่เป็นทั้งแรงบันดาลใจ ที่ปรึกษา และผู้จัดการของเธอด้วยได้เสียชีวิตหลังจากต่อสู้กับมะเร็งสมองมายาวนาน ยายของเธอก็เสียชีวิตในเดือนเดียวกัน ในเดือนกรกฎาคม ปี 2020 นักร้องชื่อ Tory Lanez ถูกกล่าวหาว่า ยิงใส่ Megan

    หลังจากมีการทะเลาะกันในปาร์ตี้ที่ Hollywood Hills โดย Megan อ้างว่า เท้าของเธอบาดเจ็บจากเศษกระสุน แต่แหล่งข่าวอื่นๆ บอกอีกอย่าง อย่าง TMZ รายงานว่า เธอไปเหยียบเศษแก้วต่างหาก ทั้งนี้ Lanez หรือชื่อตอนเกิด Daystar Peterson ให้การว่า ไม่ได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา และการพิจารณาคดีดังกล่าวจะมีขึ้นในฤดูหนาวปีนี้

    การกระทำที่ปลุกปั่นของ Megan ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์จาก Ben Shapiro กูรูการเมืองฝ่ายอนุรักษ์นิยม และ CeeLo Green ขาใหญ่วงการเพลง ในเดือนพฤศจิกายนเธอสร้างความปั่นป่วนในโซเชียลมีเดียด้วยการด่าแร็ปเปอร์ Drake โดยอ้างว่า เขาพูดถึงเหตุการณ์ยิงดังกล่าวในเพลง “Circo Loco” และในขณะที่เธออยู่ใน New York เพื่อเตรียมตัวสำหรับรายการ SNL ก็มีพวกย่องเบามาขโมยเสื้อผ้าเครื่องประดับมูลค่าราว 300,000 เหรียญจากบ้านของเธอใน Los Angeles

    ในด้านธุรกิจเธอกำลังสู้ศึกครั้งใหญ่กับค่ายเพลงของเธอ ซึ่งเธอได้แชร์รายละเอียดอย่างเปิดเผยบน Twitter โดยเธอได้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย 1 ล้านเหรียญในข้อพิพาทเรื่องค่าลิขสิทธิ์ รายละเอียดที่หลุดบนโลกออนไลน์อ้างว่า 1501 ได้รับ 60% ของค่าลิขสิทธิ์ และ 50% ของรายได้จากการเผยแพร่ บวก 30% จากการออกทัวร์และสปอนเซอร์ที่เข้า

    ทั้งนี้ Steven Zager ทนายความของ 1501 กล่าวว่า “การพูดอะไรก็ได้ผ่านมีมและโซเชียลมีเดียเป็นเรื่องง่าย แต่มันจะยากขึ้นนิดหนึ่งเมื่อคุณต้องยกมือขวาและสาบานว่าจะพูดแต่ความจริง ความจริงล้วนๆ” ในส่วนของค่าย 1501 อ้างว่า Megan ยังติดค้างส่วนแบ่งกำไรจำนวน 10 ล้านเหรียญ Megan ซึ่งเซ็นสัญญากับค่าย Roc Nation ของ Jay-Z ในปี 2019 เพื่อจัดการอาชีพของตัวเองได้ออกมาโต้กลับเรื่องหนี้ดังกล่าว

    งานนี้มีเงินหลายล้านเป็นเดิมพัน และ Megan ก็ไม่ลดละ “ในช่วงเวลาสั้นๆ ท่ามกลางคำก่นด่าทั้งหลายแหล่ เธอยังสามารถยิ้ม เชิดหน้า และเดินหน้าต่อ” Desiree Perez ซีอีโอของ Roc Nation กล่าว

    เธอมีทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลกในปี 2023 และสตูดิโออัลบั้มอีกหนึ่ง และเธอกำลังจะเปลี่ยนจาก Stallion ไปเป็นดาราทีวีโดยทำสัญญากับ Netflix เพื่อสร้างและผลิตรายการต่างๆ รวมถึงรายการตลกที่สร้างจากวัยเด็กของเธอ Time Inc. จ่ายเงิน 3 ล้านเหรียญเพื่อผลิตสารคดีเกี่ยวกับชีวิตของเธอ “ฉันทำงานหนักมาตั้งแต่ปี 2019” Megan กล่าว ด้วยแรงขับเคลื่อนทั้งหมดนั้นเธอมั่นใจว่าจะทำให้คนที่ยังเกลียดเธอต้องเหนื่อยขึ้นไปอีก


เรื่อง: Jabari Young เรียบเรียง: พินน์นรา วงศ์วิริยะ ภาพ: Ramona Rosales


อ่านเพิ่มเติม: “Destination” by Gary Murray สีสันสดใหม่ Hospitality & Food

คลิกอ่านฉบับเต็มและบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนพฤษภาคม 2566 ในรูปแบบ e-magazine