เมื่อ Mike Keiser เดินชมสนามกอล์ฟพาร์ 3 คอร์สใหม่จนจบครบ 19 หลุมในวันท้องฟ้าเมือง Oregon มีเมฆครึ้ม เขาก็พร้อมที่จะประกาศว่า ที่แห่งนี้เป็นสนามกอล์ฟที่ดีที่สุดในโลก อย่างไรก็ดี ผู้ก่อตั้ง Bandon Dunes Golf Resort วัย 79 ปี คิดว่าสนามกอล์ฟคอร์สล่าสุดซึ่งกำลังจะเปิดให้บริการในไม่ช้านี้ยังมีบางจุดที่สามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นได้อีกโดยเฉพาะที่หลุม 4 “ดูสนามจะมีความลาดเอียงมากเกินไป” เขากล่าว แต่เขามองว่าไม่ใช่เรื่องด่วนที่ต้องแก้ไขทันทีและเหลือเวลาให้ไตร่ตรองในช่วงฤดูร้อนก่อนจะตัดสินใจ “บางที [เราจะ] ทำการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ตอนปลายปีหรือปล่อยไว้เหมือนเดิม”
ตลอดระยะเวลากว่า 25 ปี ความปรารถนาของ Keiser ที่จะสร้าง พัฒนา และขยายธุรกิจได้นำพา Bandon Dunes จากจุดเริ่มต้นสู่การเป็นสุดยอดรีสอร์ตสนามกอล์ฟชั้นนำของโลก ตอนที่เขาจ่ายเงินซื้อที่ดินในปี 1991 แม้แต่ตัวเขาเองยังกังวลว่าบรรดานักกอล์ฟมือใหม่อาจไม่ให้ความสนใจที่จะบากบั่นเดินทางมายังพื้นที่หนาวเย็น ฝนตกชุกและห่างไกลจากตัวเมืองของรัฐ Oregon ซึ่งต้องใช้เวลาขับรถถึง 9 ชั่วโมงจาก San Francisco, ประมาณ 4 ชั่วโมงจาก Portland และราว 2 ชั่วโมงครึ่งจาก Eugene
ทว่าด้วยการเป็นสนามกอล์ฟที่มองเห็นวิวทะเล โอบล้อมด้วยเนินทรายธรรมชาติ ขนาดพื้นที่สีเขียวใหญ่กว่าปกติและมีต้นไม้ขึ้นน้อยอันเป็นเอกลักษณ์ของสนามกอล์ฟรูปแบบเก่าแก่หรือเรียกกันว่า Links Course แบบที่ Keiser หลงใหล สิ่งเหล่านี้ทำให้ Bandon Dunes ดึงดูดผู้มาเยี่ยมเยียนมากมายในแต่ละปี และเขายังต้องการเพิ่มจำนวนให้สูงขึ้น เมื่อปีที่ผ่านมารีสอร์ตแห่งนี้มีนักกอล์ฟมาออกรอบจำนวนสูงทุบสถิติที่ 257,000 รอบ พร้อมสร้างประสบการณ์ด้วยบริการอันยอดเยี่ยมและธุรกิจจำหน่ายสินค้าที่ทำรายได้หลักสิบล้านเหรียญมาช่วยเสริมความแข็งแกร่ง
Forbes ประเมินว่า Bandon Dunes ทำรายได้เกือบแตะ 125 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปีที่ผ่านมา และมีกำไรสุทธิมากกว่า 31 ล้านเหรียญ พร้อมประเมินมูลค่ากิจการไว้ที่ 350 ล้านเหรียญ ในขณะเดียวกันความต้องการเดินทางมาใช้บริการก็ร้อนแรงไม่แพ้กัน รีสอร์ตแห่งนี้ต้องจองล่วงหน้ากันยาวถึง 18 เดือนด้วยเหตุผลที่เข้าใจได้ไม่ยาก สนามกอล์ฟขนาดมาตรฐาน 4 คอร์สจากทั้งหมดติดโผสนามกอล์ฟที่ดีที่สุด 100 อันดับของสหรัฐฯ จากการจัดทำของ Golf Digest และค่าบริการ 350 เหรียญมีราคาถูกกว่าเกือบครึ่งเมื่อเทียบกับ Pebble Beach ที่มีอัตราค่าบริการ 675 เหรียญ
Keiser ตั้งเป้าอนาคตที่กว้างไกลกว่านี้สำหรับรีสอร์ตหัวแก้วหัวแหวนของเขาซึ่งใช้เม็ดเงินในการพัฒนาไปแล้วกว่า 100 ล้านเหรียญนับตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง สนามพาร์ 3 แห่งใหม่ (ซึ่งมีจำนวนหลุมพิเศษเพิ่มเติมมาเพราะ Keiser “อยากจะเล่นต่อมากกว่าเดินไต่เนิน” ย้อนกลับไปที่สโมสร) คือสนามคอร์สที่ 7 ของ Bandon Dunes เขามีแผนสำหรับคอร์สที่ 8 และอยากจะขยายต่อให้มากกว่า 10 สนามเป็นอย่างน้อย
แผนภารกิจเหล่านี้กินเวลานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องเกี่ยวข้องกับกฎหมายว่าด้วยการใช้ประโยชน์ที่ดินและประเด็นความกังวลด้านสิ่งแวดล้อม และเขาไม่ลังเลที่จะยอมรับว่าอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดคืออายุของเขาเอง “ผมพอใจกับสถานะของสนามในปัจจุบัน ทว่าตราบใดที่ผมยังมีลมหายใจผมก็จะขยายนู่นเติมนี่ไปเรื่อยๆ” เขากล่าว “แม้จะดำเนินไปในอัตราที่ช้าลง”
จุดเริ่มต้นความชื่นชอบกีฬากอล์ฟของ Keiser เริ่มขึ้นขณะที่เขาก่อร่างสร้างธุรกิจจนกลายเป็นบริษัทการ์ดอวยพรยักษ์ใหญ่ จนคว้าโอกาสแรกในการเป็นเจ้าของสนามกอล์ฟครั้งแรกในปี 1985 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่เขาไปออกรอบที่สนามกอล์ฟแบบดั้งเดิมอันดับต้นๆ ของไอร์แลนด์อย่าง Royal County Down, Lahinch และ Ballybunion ขณะนั้น Keiser ในวัย 40 ปี ควักกระเป๋า 315,000 เหรียญซื้อที่ดินที่เป็นพื้นที่ทรายขนาด 60 เอเคอร์ใน New Buffalo รัฐ Michigan ใกล้กับบ้านริมทะเลสาบของครอบครัวเพื่อกันไม่ให้บริเวณนั้นกลายเป็นตึกคอนโด หลังจากนั้น 4 ปี Dunes Club สนามกอล์ฟเฉพาะสมาชิกขนาด 9 หลุมก็ได้เปิดให้บริการ และกระตุ้นให้เขาอยากพัฒนาโครงการที่ใหญ่ขึ้นเนื่องจากสนามกอล์ฟที่มีชื่อเสียงติดอันดับของสหรัฐฯ คิดค่าบริการสูงเกินไปหรือเปิดรับเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
ตลอดระยะเวลา 3 ทศวรรษหลังจากนั้น Keiser ยังคงขยายและสร้างสนามกอล์ฟอย่างต่อเนื่อง แม้ภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรม แต่วิกฤตทางการเงินกลายเป็นโอกาส โดยเฉพาะสำหรับการวางแผนภาษีมรดก เพื่อให้มั่นใจว่าธุรกิจจะยังคงเป็นของครอบครัว Keiser จึงดำเนินการประเมินมูลค่ากิจการ Bandon Dunes ที่ราคา “ต่ำสุดเท่าที่เป็นไปได้” ในปี 2008 และขายให้กับลูก 4 คนด้วยมูลค่าต่ำกว่า 50 ล้านเหรียญ ลูกๆ ของเขาซื้อกิจการด้วยเงินที่กู้ยืมจากพ่อซึ่งพวกเขาจ่ายคืนพร้อมดอกเบี้ยในภายหลัง
ธุรกิจของ Bandon Dunes เติบโตแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมในไม่กี่ปีที่ผ่านมา สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากจำนวนนักกอล์ฟหน้าใหม่ขยายตัวเพิ่มขึ้นช่วงโรคโควิดแพร่ระบาด สถานที่ตั้งซึ่งอยู่ห่างไกลทำให้รีสอร์ตเหมาะสำหรับจัดการแข่งขัน U.S. Amateur Championship ปี 2020 ตามมาตรการการเว้นระยะห่างทางสังคม แต่ที่สำคัญกว่าคือจนถึงปัจจุบัน Keiser ยังคงมองหาที่ดินเพื่อขยายสนามกอลฟ์และพร้อมจะสร้างโครงการใหม่บนทำเลที่ดีกว่าเดิมเสมอ
เรื่อง: Justin Birnbaum เรียบเรียง: นวตา สันติวัฒนา ภาพ: Cody Pickems
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : 'Sanjiv Lamba' ราชาแห่งก๊าซสีเขียว
