Jay-Z รวยเพิ่มเกือบเท่าตัว หลังปิดดีล 2 กลุ่มธุรกิจ - Forbes Thailand

Jay-Z รวยเพิ่มเกือบเท่าตัว หลังปิดดีล 2 กลุ่มธุรกิจ

Jay-Z แร็ปเปอร์มหาเศรษฐี กวาดรายได้มหาศาลจากการปิดดีล Tidal ธุรกิจสตรีมมิ่งเพลง และแบรนด์แชมเปญ Armand de Brignac ในระยะเวลาเพียง 2 สัปดาห์

Jay-Z

เพลงฮิปฮอป คือ สิ่งที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผมมาโดยตลอด Jay-Z กล่าวกับ Forbes ในปี 2010 ระหว่างที่เขาจะเข้าพบ Warren Buffet นักลงทุนมหาเศรษฐีพันล้านเป็นครั้งแรกในเมือง Omaha รัฐ Nebraska พร้อมเสริมว่าดนตรียังทำลายความคิดที่ว่าศิลปินไม่มีความรู้ทางด้านการเงินเช่นกัน

ล่าสุด ในช่วงต้นเดือนมีนาคม 2021 แรปเปอร์ผู้นี้ก็ได้พิสูจน์คำครหาดังกล่าวให้โลกเห็นอีกครั้ง ด้วยการตัดสินใจขายหุ้นส่วนใหญ่ใน Tidal ธุรกิจสตรีมมิ่งเพลงให้กับ Square บริการรับชำระเงินของ Jack Dorsey ผู้ร่วมก่อตั้ง Twitter ที่มูลค่า 297 ล้านเหรียญ

ทำไมบริษัทสตรีมมิ่งเพลงและเรา ที่ให้บริการทางการเงินจึงต้องผนึกกำลังกัน!” Dorsey โพสต์บนทวิตเตอร์โดยตั้งคำถามที่ชัดเจนขณะที่เขาประกาศข่าวดังกล่าว

ทั้งนี้ รายงานเบื้องต้นเปิดเผยว่า Dorsey จะเข้ามามีบทบาทโดยตรงใน Tidal ขณะที่ Jay-Z จะยังคงได้รับความไว้วางใจให้นั่งตำแหน่งบอร์ดบริหารต่อไป แม้จะถือหุ้นในบริษัทเพียงเล็กน้อย ขณะที่ศิลปินผู้เป็นเจ้าของร่วมคนอื่นๆ ยังคงถือหุ้นอยู่ในอันดับรองๆ

การปิดดีลมากถึง 2 ครั้งในระยะเวลาอันใกล้เคียงกันนี้ได้ส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินของมหาเศรษฐีฮิปฮอปคนแรกของโลกเพิ่มขึ้นจาก 1 พันล้านเหรียญเป็น 1.4 พันล้านเหรียญ

อย่างไรก็ดี นี่เป็นเพียงส่วนเดียวของพอร์ตฟอลิโอธุรกิจของเขา เพราะในปัจจุบัน Jay-Z ยังคงถือครองหุ้นของ Armand de Brignac แชมเปญขวดละ 300 เหรียญอยู่ราวร้อยละ 50 ทั้งยังมีธุรกิจ D’Usse คอนญัคหรือบรั่นดีที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมไปทั่วโลก ขณะที่สตาร์ทอัพสายประกันภัยอย่าง Ethos และ Sweetgreen เชนร้านสลัดก็กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ไม่เพียงเท่านี้ เขายังมีผลงานเพลง งานศิลปะสะสม และอสังหาริมทรัพย์มูลค่าหลายพันล้านเหรียญที่ถือครองร่วมกับภรรยา Beyonce

และนอกจากประชาสัมพันธ์สินค้าที่ตนถือครองด้วยการบรรจุชื่อสินค้าลงในเนื้อเพลงกับมิวสิกวิดีโอของตนแล้ว เขายังกล่าวในบทเพลงที่ปล่อยออกมาในปี 2005 ว่าผมไม่ใช่นักธุรกิจ แต่ผมเนี่ยแหละที่เป็นธุรกิจ

โดยในที่นี้ สามารถแจกแจงพอร์ตการลงทุนของเขาได้ ดังต่อไปนี้

การลงทุน: 425 ล้านเหรียญ

Jay-Z คือ หนึ่งในบุคคลที่พร่ำบอกถึงความสำคัญของการใช้เงินอย่างชาญฉลาดมาเป็นระยะเวลาหลายปี และได้แสดงให้เห็นด้วยการนำเงินเก็บมูลค่ากว่า 760 ล้านเหรียญเข้าลงทุนในธุรกิจต่างๆ อาทิเช่น Uber, Square, Sweetgreen, Ethos และ SpaceX

ล่าสุด เขาเตรียมนำ Oatly บริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมข้าวโอ๊ต ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าตามราคาตลาดอยู่ที่ 1 หมื่นล้านเหรียญ เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ภายในปี 2021 นี้

Armand de Brignac: 320 ล้านเหรียญ

เมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ Jay-Z ได้ออกมาประกาศว่า เขาได้ขายหุ้นร้อยละ 50 ในบริษัท Armand de Brignac หรือที่รู้จักกันในแบรนด์แชมเปญ Ace of Spades ให้กับ Moet Hennessy ในเครือ LVMH

ในที่นี้ Forbes ประเมินว่าบริษัทแชมเปญของเขามีมูลค่าอยู่ที่ 640 ล้านเหรียญ หรือมากกว่า 2 เท่าจากราคาที่ประเมินในปี 2019 เสียอีก

Roc Nation: 140 ล้านเหรียญ

ธุรกิจร่วมทุนระหว่าง Jay-Z และ Live Nation ก่อตั้งขึ้นในปี 2008 เพื่อให้บริการด้านความบันเทิงครบวงจร ที่คั่บคั่งไปด้วยศิบปินผู้มีชื่อเสียงมากมายตั้งแต่ Rihanna, Alicia Keys ไปจนถึงนักกีฬาชื่อดังอย่าง Kyrie Irving และ CC Sabathia

ไม่เพียงเท่านี้ ทางบริษัทยังเป็นผู้รับผิดชอบการจัดแสดง Super Bowl Halftime Show เทศกาลดนตรี Made in America และล่าสุดเพิ่งเซ็นสัญญาร่วมงานกับสำนักพิมพ์ Random House

อย่างไรก็ดี แม้ว่าในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะทำให้ธุรกิจทัวร์คอนเสิร์ตของบริษัทชะงักลง แต่ในช่วงก่อนหน้านั้น ผลประกอบการของบริษัทก็ได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง

D’Usse: 120 ล้านเหรียญ

Jay-Z  และ Bacardi ผู้จัดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รายใหญ่ เปิดตัว D’Usse แบรนด์คอนญัคหรือบรั่นดีในปี 2012 ซึ่งจัดจำหน่ายในราคาขวดละ 30 เหรียญ และมีเพียง 50 ขวดเท่านั้นที่บรรจุอยู่ในภาชนะทรงคริสตัล ซึ่งปัจจุบันกำลังจัดประมูลอยู่ที่ Sotheby’s ในราคาตั้งแต่ 24,000-75,000 เหรียญ

Music Catalog: 95 ล้านเหรียญ

ผลงานทั้งหมดของ Jay-Z ราว 300 เพลง สามารถคิดเป็นมูลค่ากว่า 20 ล้านเหรียญ ซึ่งเขาได้รับทั้งสิทธิ์ในการตีพิมพ์เผยแพร่และความเป็นเจ้าของผลงาน

Art Collection: 70 ล้านเหรียญ

ในปี 2013 Jay-Z สะสมผลงานศิลปะของ Jean-Michel Basquiat จิตรกรชาวอเมริกันชื่อดังในยุค 80s ที่มีมูลค่ามากถึง 4.5 ล้านเหรียญ นอกจากนี้ยังมีผลงานของ Damian Hirst, David Hammons และ Richard Prince เช่นกัน

โดยเขามองว่าการสะสมผลงานศิลปะดังกล่าวเป็นวิธีการหนึ่งในการลงทุน ดังท่อนหนึ่งในเพลง “The Story of O.J.” ที่ว่า  ผมซื้องานศิลปะมา 1 ล้านเหรียญ 2 ปีต่อมา งานนั้นมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 2 ล้านเหรียญ และ 8 ล้านเหรียญในปีต่อๆ มา ผมแทบรอไม่ไหวที่จะส่งต่องานศิลปะเหล่านี้ให้กับลูกๆ

Real Estate: 50 ล้านเหรียญ

Jay-Z และ Beyonce ซื้อคฤหาสถ์ 2 หลังในปี 2017 หลังจากที่ให้กำเนิดลูกแฝด ในระแวก Bel Air และ East Hamptons ที่ราคา 88 ล้านเหรียญ และ 26 ล้านเหรียญ ตามลำดับ

ไม่เพียงเท่านี้ บ้านพักใน Los Angeles ของพวกเขาทั้งสองยังมีมูลค่าตามราคาตลาดปัจจุบันกว่า 5 ล้านเหรียญ ขณะที่เพ้นท์เฮ้าที่เข้าซื้อในปี 2004 มีราคาอยู่ที่ 6.85 ล้านเหรียญ

แปลและเรียบเรียงจากบทความ Billionaire Jay-Z’s Net Worth Jumps 40% With Sales Of Streaming Service Tidal, Champagne Brand เผยแพร่บน Forbes.com อ่านเพิ่มเติม: JG Summit บริษัทยักษ์ใหญ่แห่งฟิลิปปินส์ ทะยานฝ่าวิกฤตโควิด-19