BANN at Oak Knoll Napa รีสอร์ตจากฝีมือเชฟไทย ที่ Napa Valley - Forbes Thailand

BANN at Oak Knoll Napa รีสอร์ตจากฝีมือเชฟไทย ที่ Napa Valley

FORBES THAILAND / ADMIN
29 Oct 2021 | 05:16 PM
READ 2276

BANN at Oak Knoll Napa เปิดประตูอย่างเงียบๆ ในช่วงล็อกดาวน์เมื่อปี 2020 ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ การได้มาพักผ่อนที่นี้จะเป็นประสบการณ์ที่คุณไม่สามารถหาได้ที่อื่นในทุ่งไวน์แห่งนี้แล้ว

BAAN At Oak Knoll Napa_Experience นอกจากไวน์ Cabernet และร้านอาหารระดับมิชลิน Napa Valley ณ รัฐ California ตอนนี้ยังมีรีสอร์ตสุดหรูตกแต่งแบบไทยที่ชื่อ BANN at Oak Knoll Napa ให้ได้ไปพักผ่อนหย่อนใจ รีสอร์ตแห่งนี้เกิดจากน้ำพักน้ำแรงของเชฟ ลลิตา สุขสำราญ เจ้าของร้าน Osha Thai ร้านอาหารไทยที่ได้รับรางวัลการันตี ณ เมืองซานฟรานซิสโก  รีสอร์ต BANN แห่งนี้ ทำให้เธอได้ก้าวเข้าสู่วงการโรงแรมอย่างเป็นทางการ การให้บริการแบบ Bed & Breakfast แห่งนี้จะทำให้คุณได้ดื่มด่ำกับความเป็นไทยสุดๆ ด้วยห้องพักขนาดใหญ่ 4 ห้องที่การตกแต่งภายในเป็นตัวแทนวัฒนธรรมทั้ง 4 ภูมิภาคของไทย บริเวณโถงกว้าง เพดานจั่วสูง และการตกแต่งบริเวณภายนอกในความรู้สึกอบอุ่น เชิญชวนให้เข้าพัก มีกลิ่นอายแบบเอเชียอาคเนย์ ตั้งแต่ไฟเพดานจนไปถึงเครื่องใช้ต่างๆ ในห้องน้ำ และหากก้าวออกมานอกประตูหน้าเล็กน้อย ก็จะพบกับระเบียงเชื่อมระหว่างห้องพัก กับสระว่ายน้ำระบบเกลือ อ่างน้ำร้อน และแคมป์ไฟ อีกทั้งยังมีสวนดอกไม้มากมายรายล้อม หอมโชยไปด้วยกลิ่นหอมของบ้านไร่ "BANN at Oak Knoll Napa" นอกจากนี้ บรรยากาศ Oak Knoll ชวนให้นึกถึงเขาใหญ่ หุบเขาสีเขียวอันเงียบสงบ ดินแดนแห่งไวน์ในไทยที่ไม่ไกลกรุงเทพฯ​ มากนัก ยิ่งในช่วงเวลาที่ไม่สามารถท่องโลกได้อย่างเคย BANN ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี ตั้งอยู่ห่างจาก Silverado Trail ชื่อดังแห่ง Napa Valley เพียงไม่ถึงกิโลเมตร ทำให้สามารถเยี่ยมชมไร่ไวน์ชั้นยอดได้โดยการปั่นจักรยานไปง่ายๆ เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น อีกทั้งยังสามารถเช่าจักรยานที่รีสอร์ตได้เลยอีกด้วย นอกจากนี้ ทางรีสอร์ตยังได้จับมือกับ Materra-Cunat Family Vineyards ที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลกันให้ผู้เข้าพักได้ไปชิมไวน์ในราคาพิเศษ รับรองว่าเวลาช่วงบ่ายในฤดูใบไม้ร่วงของคุณจะน่าอิจฉาเหนือใครมากกว่าเคยเมื่อได้จิบไวน์ Diamond Mountain Reserve จาก Materra-Cunat Family Vineyards  "BANN at Oak Knoll Napa" แต่หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์รีสอร์ตแบบไทยจริงๆ มันก็คงต้องมีมากกว่าแค่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ต้องมีอาหารรสพิเศษด้วยฝีมือเชฟลลิตา ที่พร้อมเสิร์ฟตั้งแต่มื้อเช้าแบบ three-course สุดประณีตที่มีทั้งขนมอบสดใหม่ ผลไม้ตามฤดูกาล และข้าวต้มแบบไทยๆ และพร้อมเปิดจองดินเนอร์แบบส่วนตัวที่พร้อมมอบรสชาติประจำภาคต่างๆ ในไทยให้ได้ลิ้มรสกันอีกด้วย โดยมื้ออาหารสุดพิเศษทั้งหลายนี้น่าจะพร้อมให้สั่งได้ง่ายๆ ทุกครั้งเมื่อเข้าพักในอีกหลายเดือนหน้าเลย ความหรูหราสุดพิถีพิถันนี้ แน่นอนว่าไม่ได้มาฟรีๆ โดยห้องพักแบบสวีทของรีสอร์ตแห่งนี้ตกอยู่คืนละประมาณ 650 เหรียญสหรัฐฯ ราคานี้รวมอาหารเช้าแบบ three-course แล้ว โดยท่าทางจะถูกใจเหล่า ‘staycationers’ จากซานฟรานซิสโกเป็นว่าเล่น เพราะรีสอร์ตนี้มีรายชื่อพวกเขาเป็นผู้เข้าพักตลอดช่วงสุดสัปดาห์ของปี 2021 ในปีหน้า BANN หวังว่าจะมีฐานลูกค้านอกเหนือจากกลุ่มที่มาจาก Bay Area เพิ่มขึ้น ให้ผู้คนได้ค้นพบความมหัศจรรย์ของ Napa Valley มากกว่าเคย แปลและเรียบเรียงโดย ทัตชญา บุษยากิตติกร จากบทความ A Taste Of Thailand In Napa Valley Wine Country เผยแพร่บน Forbes.com อ่านเพิ่มเติม: ส่อง เทรนด์สายสุขภาพ ปี 2022 หยิบอะไรลงตะกร้ากันบ้าง
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine