Ares Management หนึ่งในบริษัทที่ประสบความสำเร็จสูงสุดแห่ง Wall Street - Forbes Thailand

Ares Management หนึ่งในบริษัทที่ประสบความสำเร็จสูงสุดแห่ง Wall Street

FORBES THAILAND / ADMIN
23 Aug 2023 | 11:00 AM
READ 1682

แม้สัญญามูลค่ามหาศาลกับยักษ์ใหญ่แห่งธุรกิจลงทุนในหุ้นนอกตลาดจะต่างพากันจับจองพื้นที่สื่อ แต่ Ares Management แอบสะสมสินทรัพย์อยู่เงียบๆ จนมีมูลค่า 3.41 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ แล้ว ด้วยข้อเสนอผลตอบแทนที่มั่นคง โดยไม่สนใจสถานการณ์ในตลาดหุ้น


    สมัยที่ Michael Arougheti ยังเป็นแฟนเบสบอลรุ่นเยาว์ของทีม New York Yankees ในปี 1986 เด็กชายหัวการค้า วัย 13 ปี ทำธุรกิจซื้อขายแลกเปลี่ยนการ์ดเบสบอล เมื่อถึงวันหยุดสุดสัปดาห์เด็กชายจะตระเวนตั้งโต๊ะขายการ์ดตามงานรวมของสะสมที่จัดขึ้นที่ชานเมือง New York City แม้ว่า Arougheti จะสามารถสร้างรายได้ก้อนโตแต่เขาพบว่า การพลิกการ์ดนับร้อยๆ ใบ สั่งสมกำไรทีละเล็กน้อยเป็นกลยุทธ์ที่ดีกว่าการห่วงแต่จะตามหาการ์ดรุกกี้ของ Hank Aaron ที่หาได้ยากเย็น แม้อาจจะทำราคาได้สูงนับหมื่นเหรียญ แต่การจะหาให้พบนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย นับตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา Arougheti ดำรงตำแหน่งซีอีโอประจำ Ares Management บริษัทบริหารสินทรัพย์ทางเลือกที่เน้นเรื่องสินเชื่อเป็นสำคัญ ซึ่งเติบโตจนกลายเป็นบริษัทที่ประสบความสำเร็จสูงสุดแห่งหนึ่งของ Wall Street อย่างไรก็ตาม Ares เลือกกลยุทธ์ที่แตกต่างจากบริษัทลงทุนในหลักทรัพย์เอกชนอื่นที่มีชื่อเสียงกว่า พวกเขาเก็บเล็กผสมน้อยจนออกดอกออกผลได้อย่างเหนือความคาดหมาย

    Ares บริษัทจาก Los Angeles มีมูลค่าสินทรัพย์ 3.41 แสนล้านเหรียญ เติบโตกว่า 3 เท่าตัวในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา โดย 2.04 แสนล้านเหรียญเป็นสินทรัพย์ในธุรกิจสินเชื่อ ซึ่งให้กู้ยืมเงินแก่บริษัทขนาดกลางจากทั่วโลกที่ไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนัก ในขณะที่บริษัทหลายแห่ง เช่น KKR เป็นที่รู้กันดีว่านิยมเดิมพันด้วยการทุ่มเงินลงทุนในตราสารทุนอย่างหนักแลกกับโอกาสได้รับผลตอบแทนไร้ขีดจำกัด แต่กำไรส่วนมากของ Ares มาจากดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืม ซึ่งมักจะยึดตามอัตราอ้างอิงต่างๆ เช่น LIBOR เท่านี้ก็เป็นที่น่าพอใจแล้วสำหรับบรรดาลูกค้ากองทุนบำเหน็จบำนาญ บริษัทประกันภัย และลูกค้าสถาบันรายอื่นๆ นับ 2,000 แห่ง

    “หลายคนต้องการผลตอบแทนที่มั่นคง เราเป็นคนยุคแรกๆ ที่หันมาให้ความสำคัญกับผลตอบแทนแบบทบต้น” Arougheti วัย 50 ปีกล่าว เขาบอกด้วยว่า ธุรกิจนี้ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วจากสถานการณ์ตกต่ำในตลาดหุ้น สวนทางอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น

    Ares ยืนตระหง่านในทำเนียบ Forbes Financial All-Stars ซึ่งเพิ่งจัดทำขึ้นเป็นครั้งแรก โดยเป็นการรวบรวมรายชื่อบริษัทด้านการเงิน 50 แห่งทั่วโลก ครอบคลุม 7 กลุ่มธุรกิจคือ ธนาคาร การประกันภัย ตลาดทุน สินเชื่อเพื่อผู้บริโภค ธุรกิจจำนอง เทคโนโลยีการเงิน (ฟินเทค) และการพัฒนาธุรกิจ

    นักวิเคราะห์จาก KBW มองว่า ในรอบระยะเวลา 5 ปีบริษัทเหล่านี้จะให้ผลตอบแทนที่ปรับตามความเสี่ยงในอัตราสูง อีกทั้งยังมีโครงสร้างพื้นฐานที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น และการเติบโตของรายได้ ในรอบ 5 ปีซึ่งสิ้นสุดเมื่อเดือนกันยายน ปี 2022 Ares มีผลตอบแทนสะสมรวมทั้งสิ้น 316% เทียบกับ S&P 500 ที่ให้ผลตอบแทน 56% (อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้จากคอลัมน์ด้านขวา) เช่นเดียวกับผู้จัดการสินทรัพย์ทางเลือกที่ประสบความสำเร็จรายอื่นๆ Ares กลายเป็นโรงงานผลิตเศรษฐีพันล้าน จากการประเมินของ Forbes คาดว่า Arougheti กับ 2 ผู้ร่วมก่อตั้งคือ Bennett Rosenthal วัย 59 ปี และ David Kaplan วัย 55 ปี ขึ้นแท่นเศรษฐีพันล้านแล้วทุกคน ขณะที่ Antony Ressler ประธานกรรมการบริหารและเจ้าของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของทีมบาสเกตบอล Atlanta Hawks ในศึก NBA มีมูลค่าทรัพย์สินราว 6.3 พันล้านเหรียญในเวลานี้

    เมื่อปี 1997 Ressler วัย 37 ปีในตอนนั้น ร่วมก่อตั้ง Ares ขึ้นเป็นหน่วยธุรกิจสินเชื่อให้กับ Apollo Global Management ซึ่งเป็นบริษัทที่เขากับเพื่อนร่วมงานจาก Drexel Burnham Lambert ที่นำโดย Leon Black จัดตั้งขึ้นก่อนเมื่อปี 1990 Drexel ภายใต้การนำของ Michael Milken บุกเบิกตลาด “ตราสารหนี้ขยะ” ที่ออกเสนอขายครั้งแรก ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ Drexel ได้มอบหลักสูตรสินเชื่อเข้มข้นให้กับ Ressler ก่อนที่ Drexel จะล้มละลายในปี 1990

    “สินทรัพย์ประเภทนี้ทำให้คุณกลายเป็นนักวิเคราะห์และต้องรู้จักบริษัท เพราะจากอดีตที่ผ่านมาถ้าเป็นวาณิชธนกิจส่วนมากมักจะให้การสนับสนุนทางการเงินแก่บริษัทในกลุ่มชั้นนำที่ไม่ต้องวิเคราะห์อะไรมากมายนัก” Ressler วัย 62 ปีกล่าว “เป็นการปูพื้นฐานเส้นทางอาชีพทั้งสำหรับตัวผมเองและ Ares การทำความเข้าใจและการตีราคาความเสี่ยงคือพื้นฐานการทำธุรกิจของเรา”

    บนเส้นทางสู่ความสำเร็จในวันนี้ Ares เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาตั้งแต่ Arougheti และ Kipp deVeer หัวหน้า Ares Credit Group คนปัจจุบัน เข้ามาร่วมงานกับบริษัทในปี 2004 เพื่อจัดตั้งธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล ย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีที่แล้วสินเชื่อส่วนบุคคลยังเป็นเป็นแนวคิดที่แปลกใหม่ โดยทั่วไปแล้วบรรดานักลงทุนในหนี้สินภาคสถาบันมักจะซื้อสินเชื่อธนาคารยกชุดที่วาณิชธนกิจนำออกเสนอขายผ่านกองทุนสินเชื่อสภาพคล่อง แต่ Ares ตัดคนกลางออกไป และปล่อยเงินให้กู้ยืมด้วยตนเอง

    Ares ก็เหมือนกับนักวิเคราะห์หุ้นทั่วไป พวกเขาต้องประเมินความเสี่ยงเอง เข้าพบผู้บริหาร และเฟ้นหาการเติบโต อัตรากำไรสวยๆ และผลตอบแทนงามๆ จากเงินลงทุน ในปี 2021 Ares มีส่วนร่วมสนับสนุนทางการเงินให้กับ Thoma Bravo ในการลงทุนซื้อบริการไปรษณีย์ออนไลน์ Stamps.com ในราคา 6.6 พันล้านเหรียญ เช่นเดียวกับ Microstar Logistics ซึ่งเป็นบริษัทให้เช่าถังเบียร์รายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ก็อาศัยเงินกู้ยืมจาก Ares นับร้อยๆ ล้านเหรียญตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี

    ข้อเสนอที่ Ares มอบให้แก่นักลงทุนเกือบทั้งหมดมีตราสารอัตราดอกเบี้ยลอยตัวที่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิรวมอยู่ด้วย เท่ากับว่ามีทรัพย์สินของผู้กู้ยืมรองรับ ความมั่นคงดังกล่าวช่วยให้บริษัทประสบความสำเร็จได้แม้ในตลาดที่มีความผันผวน ในปี 2021 Ares ระดมทุนใหม่รวมทั้งสิ้น 7.7 หมื่นล้านเหรียญ และอีก 4.5 หมื่นล้านเหรียญในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2022 มีรายได้จากค่าธรรมเนียมบริหารจัดการ (คิดในอัตรา 0.35-1.5% สำหรับกองทุนสินเชื่อ) 2 พันล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในรอบระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา

    ในขณะที่บริการสินเชื่อเป็นรายได้หลัก แต่ Ares ยังคงมีสินทรัพย์ในกลุ่มอื่นอีก 1.37 แสนล้านเหรียญ ไม่ว่าจะเป็นอสังหาริมทรัพย์หรือหุ้นเอกชนนอกตลาด ซึ่งรวมถึงกองทุน “โอกาสพิเศษ” มูลค่า 5.4 พันล้านเหรียญ ซึ่งเป็นการลงทุนด้านการปรับโครงสร้าง พวกเขาลงทุนใน Frontier Communications และ Hertz อดีตกิจการล้มละลาย ช่วยให้กองทุนสร้างผลตอบแทนได้ปีละ 26% นับตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา Ares เปิดตัวกองทุนโอกาสพิเศษกองที่ 2 ระดมทุนได้ 7.1 พันล้านเหรียญ 

    นอกจากนี้ ยังลงทุนในธุรกิจกีฬา สื่อมวลชน และความบันเทิง รวม 3.7 พันล้านเหรียญ ผ่านการเข้าซื้อหนี้หรือเป็นผู้ถือหุ้นส่วนน้อยในบริษัท 19 แห่ง ซึ่งรวมถึง Ottawa Senators ทีมในลีกฮอกกี้ NHL และ McLaren Racing แห่งศึก Formula 1 นอกจากสินทรัพย์ของบริษัทแล้ว Rosenthal ยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่รายหนึ่งของทีมฟุตบอลจาก Los Angeles ในศึก Major League Soccer ด้วย

    

    อ่านเพิ่มเติม :

    คลิกอ่านฉบับเต็มและบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนกรกฎาคม 2566 ในรูปแบบ e-magazine