'5 CEO' บริษัทฟินเทคที่สร้างสรรค์นวัตกรรมสุดยอดประจำปี 2021 - Forbes Thailand

'5 CEO' บริษัทฟินเทคที่สร้างสรรค์นวัตกรรมสุดยอดประจำปี 2021

FORBES THAILAND / ADMIN
12 Jan 2022 | 07:25 AM
READ 2030

สตาร์ทอัพ 20 แห่งบนทำเนียบประจำปีครั้งที่ 6 ของเรา รวมทั้ง 5 บริษัทด้านล่าง เป็นบริษัทที่เข้าทำเนียบ 'THE FINTECH 50' เป็นครั้งแรก สะท้อนให้เห็นถึงเม็ดเงินและไอเดียที่หลั่งไหลเข้ามาสู่อุตสาหกรรมนี้ ทั้ง 50 บริษัทเป็นบริษัทเอกชน (สำหรับตอนนี้) และมีสำนักงานใหญ่หรือมีขนาดใหญ่

  Edrizio De La Cruz อายุ 40 ปี ซีอีโอร่วมและผู้ร่วมก่อตั้ง: ARCUS เมื่ออายุได้ 12 ปี เขาอพยพจากสาธารณรัฐโดมินิกันมายังย่าน South Bronx และ 6 ปีต่อมาเขาเริ่มทำงานที่สนามบิน JFK เป็นช่างเครื่องบิน และในที่สุดก็ได้ลงทะเบียนเรียนที่ Baruch College เมื่ออายุได้ 23 ปี หลังจากได้ทำงานในด้านวาณิชธนกิจสักระยะและได้ปริญญาโทบริหารธุรกิจจาก Wharton เขาได้ร่วมก่อตั้ง Arcus ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ใน New York เมื่อปี 2013 ซอฟต์แวร์ของ Arcus ช่วยให้ธุรกิจสามารถนำเสนอกระเป๋าเงินดิจิทัลและระบบชำระเงินออนไลน์ให้กับผู้บริโภคชาวละตินอเมริกาด้วยเงินลงทุน 19 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จาก SoftBank, Citi Ventures และนักลงทุนรายอื่นๆ ตอนนี้ Arcus มีลูกค้า 85 ราย รวมไปถึง Walmart, BBVA และ Rappi สตาร์ทอัพบริการส่งอาหารเม็กซิกันที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว   Joshua Motta อายุ 37 ปี ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง: COALITION อดีตเจ้าหน้าที่ CIA และพนักงาน Goldman Sachs ได้ช่วยสร้าง Cloudflare เมื่ออดีตเพื่อนร่วมงานที่ Goldman Sachs เสนอจะช่วยสนับสนุนสตาร์ทอัพของเขา Coalition ก่อตั้งเมื่อปี 2017 ดำเนินธุรกิจขายเครื่องมือสำหรับจัดการความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์แก่บริษัทขนาดเล็กและกลาง พร้อมประกันมูลค่าสูงสุด 15 ล้านเหรียญ ซึ่งครอบคลุมทุกสิ่งอย่างตั้งแต่การถูกโจมตีจาก Ransomware ไปจนถึงการโอนเงินจากการต้มตุ๋น ตลอดจนการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล ด้วยข้อตกลงรับประกันภัยจาก Swiss Re และ Arch ทำให้ตอนนี้ Coalition มีลูกค้าแล้ว 42,000 ราย และเบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่อัตราปีละ 240 ล้านเหรียญ บริษัทระดมทุนได้ 300 ล้านเหรียญ และได้รับการประเมินมูลค่าล่าสุดที่ 1.8 พันล้านเหรียญ   Wole C.Coaxum อายุ 51 ปี ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง: MOCAFI เหตุการณ์ตำรวจยิง Michael Brown ที่เมือง Ferguson รัฐ Missouri เมื่อปี 2014 เป็นสิ่งที่ทำให้ Coaxum ทิ้งอาชีพนายธนาคารที่ทำมานาน 20 ปี (เขาเคยดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ที่ JPMorgan Chase) เพื่อไปทำงานหาทางออกทางเศรษฐกิจด้านความไม่เท่าเทียม ในปี 2015 เขาก่อตั้ง MoCaFi ซึ่งมีเป้าหมายในการเข้าถึงชุมชนที่ไม่ได้รับการเหลียวแลอย่างเพียงพอด้วยการจับมือกับรัฐบาลท้องถิ่นแอปของ MoCaFi ให้บริการโดยไม่คิดค่าธรรมเนียมในการฝากเงินโดยตรง ถอนเงินจากตู้ ATM และบัตรเดบิตที่ให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงบริการของเมืองที่ร่วมเป็นพันธมิตรอย่างเช่น ค่าเดินทางในราคาที่ถูกลง การจัดทำข้อตกลงกับเมืองต่างๆ ต้องใช้เวลา แต่เมื่อมี Mastercard และ Citi ให้การสนับสนุน เขาคาดว่าจะเพิ่มจำนวนผู้ใช้แอปได้ถึงกว่า 100,000 รายภายในสิ้นปีนี้   Stephany Kirkpatrick อายุ 40 ปี ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง: ORUM ในฐานะนักวางแผนทางการเงินที่มีใบรับรอง (รวมทั้งยังเป็นพนักงานยุคบุกเบิกของ LearnVest) Kirkpatrick ได้สังเกตเห็นความลังเลของผู้บริโภคในการนำเงินไปใส่ไว้ในบัญชีที่ให้ผลตอบแทนสูงเพราะการโอนเงินกลับไปยังบัญชีของพวกเขาเองใช้เวลานานเกินไปหากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นปลายปี 2019 เธอเปิดตัว Orum ซึ่งใช้การเรียนรู้ของเครื่องในการประเมินความเสี่ยงของธุรกรรม ช่วยให้บรรดาฟินเทคและธนาคารสามารถทำให้เงินโอนเข้าบัญชีได้ใน 1 วันแทนที่จะต้องใช้เวลาถึง 5 วันอย่างที่มักจะทำกัน ด้วยเงินทุน 29 ล้านเหรียญจากนักร่วมลงทุน เธอจึงมีลูกค้าตอบตกลงอย่างเป็นทางการที่จะใช้ซอฟต์แวร์ของเธอแล้ว 15 ราย ซึ่งรวมถึงธนาคารดิจิทัล SoFi และ First Horizon Bank   Charles Cascarilla อายุ 44 ปี ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง: PAXOS ผู้ลงทุนในบิตคอยน์รายแรกๆ และอดีตนักวิเคราะห์การเงินของ Goldman Sachs ผู้นี้แอบสร้างบริษัทโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชนอย่างเงียบๆ ธุรกิจมูลค่า 2.4 พันล้านเหรียญของเขาทำหน้าที่เป็นแกนหลักให้กับบริการเงินดิจิทัลของ PayPal, Venmo และ Credit Suisse ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้ง Cedar Hill Partners เขาตัดสินใจขายที่อยู่ที่ยังติดหนี้อยู่ในราคาต่ำกว่ามูลค่าที่เหลือต้องผ่อนชำระก่อนเกิดการถดถอยทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่และมองเห็นว่า บล็อกเชนเป็นหนทางในการตรวจสอบสภาพตลาดที่ขาดความโปร่งใส ซึ่งได้ทำกำไรให้เขา เหรียญ Stablecoin PAX ของบริษัทของเขาซึ่งมีมูลค่าอยู่ที่ 1.3 พันล้านเหรียญนั้น ถูกออกแบบมาเพื่อให้การตรวจสอบธุรกรรมต่างๆ ทำได้ง่ายขึ้น Paxos ยังมีแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัลที่ชื่อ itBit ด้วย   เรื่อง: FINTECH 50 โดย: JEFF KAUFLIN, JASON BISNOFF, KRISTIN STOLLER และ MICHAEL DEL CASTILLO. COAXUM: STEPHEN SPERANZA/THE NEW YORK TIMES/REDUX อ่านเพิ่มเติม:
คลิกอ่านบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2564 ในรูปแบบ e-magazine