ตามล่าหาความจริง เบื้องหลัง Trump Tower ใน Moscow - Forbes Thailand

ตามล่าหาความจริง เบื้องหลัง Trump Tower ใน Moscow

FORBES THAILAND / ADMIN
19 Nov 2019 | 09:30 AM
READ 7770

ไม่มีคนนอก Trump Organization คนไหน ที่มีข้อมูลเบื้องลึกเกี่ยวกับสายสัมพันธ์ของ Donald Trump และรัสเซียมากไปกว่า Felix Sater ผู้ที่เคยเป็นอดีตหุ้นส่วนและเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดอาญา 2 ครั้งของ Trump อีกทั้งยังเป็นสายข่าวของรัฐบาลมาเป็นเวลานาน

ในปี 2006 เขาเดินทางไป Moscow กับ Don Jr. และ Ivanka ลูกๆ ของประธานาธิบดีเพื่อหาข้อตกลงธุรกิจดีๆ ปี 2007 เขายืนเคียงข้าง Trump ในงานเลี้ยงเปิดตัวโรงแรม Trump SoHo ซึ่ง Sater มีส่วนช่วยผลักดันให้เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งของโรงแรมแห่งนี้มุ่งจับกลุ่มผู้ซื้อชาวรัสเซีย และในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2016 Sater ยังได้ช่วยวางแผนสร้าง Trump Tower ซึ่งเป็นอาคารขนาดยักษ์ใน Moscow

รายงาน 448 หน้าของ Robert Mueller อัยการพิเศษ มีใจความสำคัญอยู่ที่ข้อเสนอ 3 ข้อในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ใน Moscow ในช่วงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม รายละเอียดสำคัญยังคงคลุมเครือ Forbes ติดต่อกับบุคคลที่เป็นศูนย์กลางของข้อเสนอทั้งสามและขุดคุ้ยคำตอบสำหรับคำถามสำคัญเกี่ยวกับแผนการของ Trump ในรัสเซีย

เป็นต้นว่า ใครจะเป็นคนจ่ายเงินสำหรับโครงการที่ว่า แน่นอนว่า Trump ผู้ที่ตอนนี้เป็นผู้ออกใบอนุญาตมากกว่าผู้สร้าง ไม่ได้จะนำเงินส่วนตัวมาลงมากมายนัก เช่นเดียวกับ Andrey Rozov หุ้นส่วนทางการของ Trump เอง ตามคำบอกเล่าของ Sater ซึ่งเป็นนายหน้า ในข้อเสนอดังกล่าว Sater เผยว่า Trump พยายามคิดหาแผนที่จะระดมเงินจำนวนมหาศาลจากผู้ลงทุนรายใหม่ๆ

เหตุผลหนึ่งที่ทำให้เรื่องราวเกี่ยวกับ Trump Tower ใน Moscow สร้างความสับสนให้กับผู้คนก็คือ ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ มีความพยายามถึง 3 ครั้งในวาระต่างกันที่จะเอาชื่อประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไปเกี่ยวโยงกับอสังหาริมทรัพย์ในรัสเซีย

รายงานของ Mueller ระบุว่า ในเดือนธันวาคม ปี 2013 หรือ 1 เดือนต่อมา Trump Organization ได้ลงนามในข้อตกลงที่จะทำแบรนด์ให้อสังหาริมทรัพย์ของ Agalarov ใน Moscow ท้ายที่สุดแผนการดังกล่าวลงเอยให้มีการจัดหาอะพาร์ตเมนต์ 800 แห่ง ใกล้กับอาคารแสดงคอนเสิร์ตที่จัดประกวดนางงามจักรวาล โดย Trump จะได้รับส่วนแบ่งยอดขายร้อยละ 3.5 Emin Agalarov คาดหมายว่า ถ้าขายห้องพักในอาคารได้หมด Trump น่าจะทำเงินได้ประมาณ 17 ล้านเหรียญ

การประกวดนางงามจักรวาล ปี 2013: นางงามเวเนซุเอลาได้มงกุฎกลับบ้าน แต่ Donald Trump กลับบ้านพร้อมเงินราว 3 ล้านเหรียญ เป็นค่าที่ผลักดันให้จัดการประกวดที่รัสเซีย

Ivanka ลูกสาวของ Trump เดินทางไปดูสถานที่ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2014 แต่เดือนเดียวกันนั้นเอง เกิดความเปลี่ยนแปลงด้านภูมิทัศน์ของภูมิรัฐศาสตร์ ที่กรุง Kiev ประชาชนพากันออกมาประท้วงประธานาธิบดี Viktor Yanukovych ของยูเครนที่เป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับรัสเซีย จนในที่สุดเขาต้องหนีจากยูเครน ซึ่งมีรายงานว่าเป็นไปโดยความช่วยเหลือของ Putin

ภายในไม่กี่สัปดาห์ Putin ส่งทหารเข้าไปยึดครองพื้นที่เมือง Crimea ของยูเครน ซึ่งมีชายแดนติดกับรัสเซีย การกระทำของรัสเซียสร้างความไม่พอใจให้กับประชาคมระหว่างประเทศ ขณะที่สหรัฐฯ ตอบโต้ด้วยการดำเนินมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ

มาตรการดังกล่าว เมื่อผนวกกับราคาน้ำมันที่ตกต่ำ ทำให้เศรษฐกิจของรัสเซียต้องเผชิญมรสุม ไม่เว้นแม้กับตลาดอสังหาริมทรัพย์ ราคาอะพาร์ตเมนต์ใหม่โดยเฉลี่ยดิ่งลงราวร้อยละ 30 ในปี 2014 คอนโดถูกขายในราคาต่ำกว่าต้นทุนค่าก่อสร้าง Emin Agalarovs บอกกับ Forbes ว่า เงินที่ Trump จะได้รับจะถูกลดทอนลงครึ่งหนึ่ง ตามรายงานของ Mueller กล่าวว่า การติดต่อระหว่างตระกูล Trump และ Agalarov เริ่มลดน้อยถอยลง

การประท้วงที่ Kiev: วิกฤตทางการเมืองในยูเครนก่อนหน้าการเข้ายึดครองพื้นที่ Crimea ของรัสเซีย ซึ่งส่งผลให้สหรัฐฯ ดำเนินมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียภายใต้การนำของ Putin มาตรการดังกล่าวสร้างความเสียหายแก่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของรัสเซียและเงินก้อนใหญ่ที่ Trump เกือบจะได้
 

ส่งจดหมายลับไปรัสเซีย?

เดือนกันยายน ปี 2015 อีกเกือบ 1 ปีถัดมา หลังจากความเป็นหุ้นส่วนกับ Agalarov ยุติลงไป โดยที่ Trump ในขณะนั้นเป็นผู้มีคะแนนนำในการเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ Michael Cohen ทนายความของเขาได้ตอบโต้ข้อความกับชายที่ชื่อ Giorgi Rtskhiladze โดยทั้ง Cohen และ Rtskhiadze เคยทำงานร่วมธุรกิจกันในจอร์เจียและคาซัคสถาน อดีตสาธารณรัฐภายใต้การปกครองของสหภาพโซเวียต

รายงานของ Mueller ระบุว่า Rtskhiadze ได้นำร่างจดหมายที่ต้องการส่งถึงนายกเทศมนตรีของ Moscow มอบแก่ Cohen ร่างจดหมายดังกล่าวพยายามชักจูงว่า โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของ Trump เป็นสัญลักษณ์ของการพัฒนาสายสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกาและรัสเซีย แต่เขาอ้างว่า จดหมายไปไม่ถึงมือนายกเทศมนตรีของ Moscow และยังบอกด้วยว่า เขาเองไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าสิ่งที่เขาส่งถึง Cohen เป็นความจริง

นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในรัสเซีย ที่ที่ความไว้วางใจช่างหาได้ยากยิ่ง และคนนอกอาจพบว่าตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่ชวนให้เสียขวัญโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย Rtskhiladze กล่าวว่า เขาเคยเตือน Cohen ถึงความเสี่ยงดังกล่าวคุณต้องระวังว่ากำลังไปข้องเกี่ยวกับใคร

อย่างไรก็ดี การระมัดระวังตัวไม่ใช่แนวทางของ Trump โดย Cohen ล้มเลิกแผนการของ Rtskhiladze และเลือกที่จะเดินหน้ากับข้อเสนอที่ 3 ซึ่งมี Sater ผู้ที่มีอดีตสีเทาๆ เป็นนายหน้า

Sater เป็นชาว Moscow โดยกำเนิด แต่ไปเติบโตใน Brooklyn เขาเริ่มต้นชีวิตการทำงานใน Wall Street จนกระทั่งเกิดเหตุทะเลาะวิวาทในบาร์ซึ่งทำให้เขาต้องโทษจำคุกเป็นเวลา 15 เดือน 3 ปีหลังพ้นโทษ เขาให้การรับผิดในข้อหากรรโชกทรัพย์กรณีการปั่นหุ้นที่เกี่ยวโยงกับแก๊งมาเฟีย ครั้งนี้เขารอดพ้นห้องขังเนื่องจากให้ความร่วมมือกับสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (FBI)

ในช่วงที่ Sater ทำงานเป็นสายให้ FBI เขาสร้างตัวตนใหม่เป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ในบทบาทนี้เองที่ทำให้เขาได้ลงเอยทำงานกับ Trump Organization ในโครงการต่างๆ ทั้งที่ Arizona, Florida, New York และรัสเซียในท้ายที่สุด

ตามแผนการที่วางไว้ อาคารดังกล่าวจะเป็นอาคารที่สูงที่สุดในยุโรป โดยมีพื้นที่ 2-3 ชั้นเป็นห้างสรรพสินค้าหรู โรงแรม 5 ดาว และพื้นที่สำนักงาน ในเงื่อนไขระบุว่า Rozov จะเป็นผู้รับผิดชอบการก่อสร้าง ขณะที่ Trump จะแค่ให้ชื่อของเขามาใช้และช่วยบริหารจัดการหลังเปิดอาคารแล้ว

รายงานของ Mueller เปิดเผยว่า ผู้สมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีจะได้รับส่วนแบ่งจากยอดขายคอนโด เริ่มต้นจากร้อยละ 5 ของยอดขาย 100 ล้านเหรียญแรก และค่อยๆ ลดลงเป็นร้อยละ 1 ของยอดขายทั้งหมดที่มากกว่าพันล้านเหรียญ Sater กล่าวว่า ห้องพักแต่ละยูนิตจะมีขนาดประมาณ 2,500 ตารางฟุต ซึ่งใหญ่กว่าคอนโดราคาแพงโดยรวมใน Moscow

ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน Trump จะได้เงินเข้ากระเป๋าประมาณ 34 ล้านเหรียญจากยอดขายคอนโดและจากการชำระล่วงหน้า แน่นอนว่านั่นเป็นเงินไม่น้อย แต่ก็ไม่ถึงกับจะมาเปลี่ยนชีวิตคนที่มีสินทรัพย์มูลค่า 3.1 พันล้านเหรียญ

สำหรับ Trump แล้ว เงินจำนวนเล็กๆ ก็มีความหมายข้อตกลงของอาคารระบุรายละเอียดส่วนแบ่งที่เขาจะได้รับทุกๆ ปี รวมทั้งค่าบริหารจัดการโรงแรม (ประมาณ 1.3 ล้านเหรียญ) ค่าเช่าสำนักงาน (ประมาณ 240,000 เหรียญ) ค่าบริหารจัดการส่วนที่พักอาศัย (ประมาณ 225,000 เหรียญ) ค่าบริหารสปา (ประมาณ 75,000 เหรียญ) เป็นต้น เมื่อรวมทุกอย่างเข้าด้วยกัน Forbes คาดว่า Trump น่าจะทำเงินได้เพิ่มขึ้นปีละ 2.6 ล้านเหรียญ

 

หวังระดมทุนจากลิ่วล้อ Putin

นอกจากนี้ Sater ยังมีแผนที่จะชวนสองพี่น้อง Arkady และ Boris Rotenberg มาร่วมลงทุนเป็นเงินหลายร้อยล้านเหรียญ เมื่อมองในแง่การเมืองแล้ว นี่คือคน 2 คนที่น่าจะสร้างปัญหาได้มากที่สุดในการเข้าร่วมในข้อตกลงธุรกิจกับผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

Arkady Rotenberg รู้จักกับ Vladimir Putin มาตั้งแต่เด็ก เมื่อครั้งที่พวกเขาเป็นคู่ฝึกซ้อมยูโดให้กัน ตอนนี้เขาและน้องชายติดกลุ่มบุคคลร่ำรวยที่สุดของรัสเซีย โดยทั้งคู่มีสินทรัพย์รวมกันประมาณ 3.7 พันล้านเหรียญในธุรกิจธนาคารและก่อสร้าง ในปี 2014 กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้คว่ำบาตรสองพี่น้องโดยระบุว่า ทั้งสองคนเป็นคนวงในของ Putin พี่น้องตระกูล Rotenberg ไม่ตอบรับคำขอให้แสดงความเห็นจาก Forbes

สิ่งเดียวกันกับที่ทำให้สองพี่น้องตกเป็นเป้าของรัฐบาลสหรัฐฯ อันได้แก่สายสัมพันธ์กับ Putin ทำให้ทั้งคู่ดูน่าสนใจในสายตาของ Sater เขาเชื่อว่าถ้าเขาสามารถดึงคนใกล้ชิดของ Putin ให้มาลงทุนสัก 400-500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เชื่อแน่ว่าประธานาธิบดีรัสเซียจะต้องไฟเขียวให้โครงการ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในประเทศที่รัฐบาลเป็นผู้ตัดสินใจในโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหญ่ๆ

Trump กับ Michael Cohen: 3 ปีก่อน Michael Cohen พยายามผลักดันโครงการ Trump Tower ใน Moscow ทุกวันนี้เขาถูกจำคุกในความผิดฐานก่ออาชญากรรม รวมถึงการกล่าวเท็จต่อสภาคองเกรสเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว

เรียกได้ว่าทุกส่วนในแผนการของพวกเขามี Putin หรือคนใกล้ชิดมาเกี่ยวข้อง หุ้นส่วนหรือ ก็คนของ Putin หนี้สินล่ะ ก็ธนาคารของรัฐบาลรัสเซีย ส่วนที่ดินรึก็พันธมิตรของ Putin ส่วนคำอนุมัติน่ะ ก็หน่วยงานของรัฐบาล แล้วการตลาดล่ะ ก็ตัว Putin เอง

เมื่อพินิจพิจารณาข้อตกลงธุรกิจของ Trump ใน Moscow นานพอ จะพบว่ามันเป็นข้อตกลงระหว่าง Trump กับ Putin มากกว่าจะเป็นข้อตกลงระหว่าง Trump กับคนรัสเซียคนไหนก็ได้

นอกจากนี้ ข้อตกลงยังเต็มไปด้วยเสียงคำรามโวยวาย กระทั่งเดือนธันวาคม ปี 2015 คนของ Trump ยังไม่สามารถหาที่ดินผืนใดได้ หรือแม้แต่เงินลงทุน หรือแม้แต่ผู้ลงทุน และ Cohen ก็กำลังรอคำเชิญอย่างเป็นทางการเพื่อเดินทางไปรัสเซีย จากข้อความโต้ตอบที่เปิดเผยโดย Buzzfeed และยืนยันโดย Forbes Cohen ส่งข้อความหา Sater ในช่วงระหว่างคริสต์มาสและปีใหม่ มีใจความว่า

ผมจะไม่ยอมให้คุณทำเสียๆ หายๆ กับงานและคนของผม ผมยังไม่ได้ตัวเลขจากใครเลยที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลง มากไปกว่าข้อเท็จจริงที่ว่า ผมจะได้รับคำเชิญที่ต้องการภายใน 48 ชั่วโมง ไม่ว่าคุณหรือใครที่คุณรู้จักจะทำให้ผมเสียหน้าต่อหน้าคุณ T. ไม่ได้ เมื่อเขาถามผมว่าเกิดอะไรขึ้น

Cohen บอกกับ Sater ว่า ไม่ต้องการร่วมงานกับเขาแล้ว และข้อความที่พวกเขาส่งหากันได้กลายเป็นอะไรที่ไม่ต่างกับคนหมดรักกันอย่าทำแบบนี้เลย Michael” Sater เขียนข้อความ

ความสัมพันธ์ที่เสียหายสามารถซ่อมแซมได้ด้วยเงิน รายงานของ Mueller เผยว่า ในที่สุด Cohen และ Sater วางแผนการเดินทางไปรัสเซีย Cohen คุยกับ Trump ในเรื่องนี้ ผู้สมัครประธานาธิบดีสหรัฐฯ บอกว่าเขาอยากไปด้วย ถ้า Cohen สามารถสั่งลุยข้อตกลง Cohen กำหนดแผนการเดินทางคร่าวๆการเดินทางของผมก่อนไป Cleveland” เขาส่งข้อความหา Sater โดยหมายถึงที่ประชุมใหญ่พรรครีพับลิกัน (Republican National Convention) “เมื่อ Trump ได้เป็นตัวแทนพรรคอย่างเป็นทางการ

5 พฤษภาคม 2016 Sater นำข่าวดีมาบอก Cohen “Peskov อยากจะเชิญคุณไปเป็นแขกในที่ประชุม St.Petersburg Forum ซึ่งเป็นเหมือนที่ประชุมเศรษฐกิจที่ Davos ของรัสเซีย ช่วงวันที่ 16-19 มิถุนายน เขาอยากพบคุณที่นั่นและอาจจะแนะนำคุณให้ Putin หรือ Medvedev (นายกรัฐมนตรี Dmitry Medvedev ของรัสเซีย) ได้รู้จัก

แต่กลายเป็นว่า Sater แค่หลอกเล่น ตอนนี้เขาบอกว่าไม่เคยได้รับคำเชิญจาก Peskov แม้เขาจะมั่นใจว่าจะได้พบคนใหญ่คนโตบางคนที่การประชุม รายงานของ Mueller เผยว่า เมื่อคำเชิญของ Peskov ไม่เป็นไปดังคาด Cohen จึงยกเลิกการเดินทางและรายงาน Trump แต่เขาไม่ได้แจ้งนายว่า ข้อตกลงไปไม่ถึงฝั่ง เพราะดูจะยังมีโอกาสที่มันอาจจะฟื้นคืนชีพอีกครั้งในช่วงเดือนท้ายๆ ของการรณรงค์หาเสียง หรือไม่ก็หลังจากนั้น

เมื่อ Trump กลับไปเป็น Donald Trump สามัญชนคนหนึ่ง สิ่งที่ทำให้โครงการอาคารใน Moscow ของ Trump ล้มไป ไม่ใช่เสียงด่าทอโวยวาย ไม่ใช่สายสัมพันธ์ที่มีกับชนชั้นปกครองรัสเซีย ไม่ใช่แม้แต่เงินทุนที่มีจำกัด เมื่อถูกถามว่าเหตุใดข้อตกลงจึงมีอันเป็นไป Cohen กล่าวระหว่างการไต่สวนของสภาคองเกรสที่มีการสาบานตนว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้แผนการเสียหายก็คือเขาชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี

  อ่านเพิ่มเติม  

เรื่อง: Dan Alexander Richard Behar ภาพประกอบ: Taylor Callery เรียบเรียง: เอมวลี อัศวเปรม


คลิกอ่านฉบับเต็ม ตามล่าหาความจริง เบื้องหลัง Trump Tower ใน Moscow ได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนตุลาคม 2562 ได้ในรูปแบบ e-Magazine