บล็อกเชน ในวิถี Google - Forbes Thailand

บล็อกเชน ในวิถี Google

ปลายทศวรรษ 1990 Google พลิกโฉมวงการอินเทอร์เน็ตด้วยการพัฒนาเครื่องมือค้นหาข้อมูลที่ประมวลผลได้รวดเร็ว แม่นยำ และง่ายต่อการใช้งาน ปัจจุบันยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีแห่งนี้ อาจสร้างประวัติศาสตร์แบบเดียวกันกับโลกบล็อกเชน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้เกิดนวัตกรรมการทำธุรกรรมการเงินดิจิทัลอย่างเช่น Bitcoin และ Ethereum

วันหนึ่งช่วงกลางเดือนธันวาคมในประเทศสิงคโปร์ซึ่งมีท้องฟ้าปลอดโปร่ง อากาศเย็นสบายราว 25 องศาเซลเซียส Allen Day นักวิทยาศาสตร์ข้อมูลวัย 41 ปี สะดุดกับข้อมูลที่นำไปสู่ความสงสัย เมื่อใช้เครื่องมือที่เขาพัฒนาขึ้นระหว่างทำงานที่ Google เขาพบว่ามีการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์บนบล็อกเชนของ Ethereum พร้อมกันจำนวนมากอย่างผิดสังเกต ทั้งนี้ Ether เป็นสกุลเงินดิจิทัลอันดับ 3 ของโลก (รองจาก bitcoin และ XRP) โดยปัจจุบันมูลค่าตามราคาตลาดอยู่ที่ราว 1.1 หมื่นล้านเหรียญ นับว่าเป็นตัวเลขที่มหาศาลแม้ราคาจะร่วงลง 83% ในช่วงปี 2018

เมื่อเจาะลึกเข้าไปดูฐานข้อมูลบล็อกเชนหรือระบบเก็บข้อมูลธุรกรรมเงินดิจิทัลแบบกระจายศูนย์ของ Ethereum เขาพบว่า สมองกลอัจฉริยะจำนวนมาก ได้ดำเนินการเคลื่อนย้ายเงินทุนแบบอัตโนมัติ ขณะที่ Day ยังไม่รู้ว่าใครเป็นผู้พัฒนาปัญญาประดิษฐ์นี้ขึ้น แต่เขาคาดว่าน่าจะเป็นฝีมือของเอเย่นต์ผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัลที่ทำการซื้อขายระหว่างกันเพื่อผลักดันให้ราคา Ether สูงขึ้น

เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นด้วยฝีมือของผู้ให้บริการรายเดียว” Day กล่าวขณะอยู่ที่สำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชียของ Google “แต่มาจากรายการธุรกรรมกับผู้ให้บริการรายอื่นๆ เพื่อส่งผลในวงกว้าง

Allen Day

ชื่อตำแหน่งอย่างเป็นทางการของ Day คือผู้สนับสนุนนักพัฒนาอาวุโสแห่ง Google Cloud แต่เขาอธิบายว่าหน้าที่ของเขาคือเป็นผู้ดูแลสนับสนุนลูกค้าตั้งแต่ระยะแรกเริ่มต้นในด้านธุรกิจบริการเทคโนโลยีประมวลผลบนระบบคลาวด์ของ Google ดังนั้นความรับผิดชอบของเขารวมถึงการวางแผนและคาดการณ์ความต้องการล่วงหน้าก่อนที่ผลิตภัณฑ์จะได้รับการพัฒนาจนเสร็จสมบูรณ์ด้วยซ้ำ เขามีแนวคิดว่าหากทำให้บล็อกเชนง่ายต่อการเข้าถึงได้มากขึ้น

เมื่อปีที่ผ่านมา Day พร้อมด้วยนักพัฒนาซอฟต์แวร์ประเภทเปิดให้บุคคลภายนอกใช้งานโดยไม่มีค่าใช้จ่ายกลุ่มเล็กๆ ได้เริ่มลงมือถ่ายโอนข้อมูลบล็อกเชนบนระบบ Bitcoin และ Ethereum ลงในแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ของ Google ที่ชื่อว่า BigQuery อย่างเงียบๆ หลังจากนั้นเขาได้สร้างชุดโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่มีความสลับซับซ้อนสำหรับสืบค้นข้อมูล โดยได้รับความช่วยเหลือจาก Evgeny Medvedev นักพัฒนาภายนอก

Day คาดหวังว่าโครงการของเขาที่รู้จักกันในชื่อ Blockchain ETL (การดึง-การจัดรูปแบบ-การถ่ายโอนข้อมูล) จะช่วยทำให้ทุกคนมีโอกาสเท่าๆ กัน ทว่าขณะนี้ตัว Google เองก็ยังต้องไล่ตามคู่แข่งอยู่เช่นกัน

ในอนาคต การที่นวัตกรรมบล็อกเชนจะสามารถขยับสู่ฐานะเทคโนโลยีหลักสำหรับทำธุรกรรมและดำเนินธุรกิจนั้นต้องมีที่มากกว่าความเชื่อมั่นของคนในวงกว้าง Day กล่าวเมื่อพูดถึงปัจจัยสำคัญที่จะทำให้กลไกของเทคโนโลยีบล็อกเชนดำเนินไปได้อย่างสมบูรณ์นอกจากนี้ อีกสิ่งที่สำคัญคือความสามารถในการตรวจสอบได้ว่าผู้ที่ทำธุรกรรมอีกฝั่งหนึ่งเป็นใคร พูดอีกอย่างก็คือ ถ้าบล็อกเชนจะก้าวเป็นเทคโนโลยีหลักของโลก คุณสมบัติพิเศษที่มีคนชื่นชอบที่ปิดบังตัวเองก็อาจต้องถูกยกเลิกไป

ก่อนที่ Day และ Medvedev จะร่วมกันพัฒนาเครื่องมือของพวกเขาขึ้น การค้นหาข้อมูลในบล็อกเชนจำเป็นต้องใช้ซอฟต์แวร์เฉพาะที่เรียกกันว่า block explorers ซึ่งผู้ใช้งานจะสามารถค้นหารายการธุรกรรมแบบเฉพาะเจาะจงเท่านั้น โดยแต่ละรายการจะแทนด้วยรหัสตัวอักษรผสมตัวเลขมากกว่า 26 หลักอันยุ่งยากซับซ้อน ในทางตรงกันข้าม Blockchain ETL ของ Google ช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหารายการแบบไม่ต้องระบุชัดเจนจากธุรกรรมที่เกิดขึ้นทั้งหมดบนเครือข่ายบล็อกเชน

เพื่อให้เห็นว่าลูกค้าสามารถนำ Blockchain ETL ไปใช้พัฒนาระบบซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัล Day จึงใช้เครื่องมือของเขาตรวจสอบการแยกระบบในฐานข้อมูลบล็อกเชนแบบถาวร (ที่เรียกว่า hard fork) ซึ่งทำให้เกิด Bitcoin cash สกุลเงินใหม่ที่แตกออกมาจาก Bitcoin ดั้งเดิมเมื่อกลางปี 2017

ขณะนี้ Day ขยายความครอบคลุมการใช้งานไปมากกว่าระบบ Bitcoin และ Ethereum โดยสามารถใช้งาน BigQuery ในการวิเคราะห์ประมวลผลข้อมูลเงินดิจิทัล Litecoin, Zcash, Dash, Bitcoin cash, thereum รุ่นแรก และ Dogecoin ได้แล้ว นักพัฒนาอิสระได้ดำเนินการถ่ายโอนชุดข้อมูลสกุลเงินดิจิทัลของตนไปยัง Google

“Google เป็นเหมือนยักษ์หลับแห่งวงการบล็อกเชนเล็กๆ Kieren-James-Lubin ซีอีโอของ BlockApps ซึ่งจับมือกับ Google เพื่อร่วมกันจำหน่ายแอพพลิเคชั่นบล็อกเชนสำหรับองค์กรกล่าว

นอกเหนือจากโปรแกรมของ Day แล้ว Google ยังได้ยื่นจดสิทธิบัตรเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับบล็อกเชนอีกหลายตัว หนึ่งในสิทธิบัตรที่จดเมื่อปี 2018 คือ เทคโนโลยีการใช้บัญชีย่อยที่ซ้อนอยู่ในบล็อกเชนที่ทำงานร่วมกันหลายเครือข่าย เพื่อเพิ่มความปลอดภัย ซึ่งถือว่ามีบทบาทสำคัญอย่างมากในโลกแห่งอนาคตที่เคยเกิดเหตุการณ์เงินดิจิทัลจำนวนหลายๆ ล้านสูญหายเพราะถูกแฮกเกอร์เจาะระบบ

เวลานี้ดูเหมือนว่ายักษ์ใหญ่กำลังตื่นจากภาวะหลับใหลแล้ว

  เรื่อง : Michael Castillo เรียบเรียง : นวตา สันติวัฒนา  
คลิกอ่านฉบับเต็ม “บล็อกเชน ในวิถี Google” ได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับ พฤษภาคม 2562 ได้ที่แผงนิตยสารชั้นนำและในรูปแบบ e-Magazine