ทำไมแบรนด์ยักษ์ใหญ่ทุ่มเงินล้านไปกับ NFT - Forbes Thailand

ทำไมแบรนด์ยักษ์ใหญ่ทุ่มเงินล้านไปกับ NFT

​NFT สินทรัพย์มาแรงในโลกดิจิทัลที่แบรนด์ใหญ่มากมายต่างพากันลงสนามแข่งสร้างผลงานที่จะดึงดูดผู้บริโภคมากที่สุด แต่การลงทุนเหล่านั้นจะคุ้มหรือไม่ หรือนี่จะเป็นเพียงกระแสชั่วครู่

เมื่อพูดถึงการลงทุนทางเลือก การลงทุนใน NFTs (หรือ non-fungible tokens) ก็คงจะเป็นตัวเลือกที่ดูแปลกประหลาดที่สุด โดย NFT เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลรูปแบบหนึ่งที่อยู่บนระบบบล็อกเชนของ Ethereum เมื่อคุณลงทุนใน NFT คุณอาจจะซื้องานศิลป์ดิจิทัลสักงาน, สิทธิในทวีตสักทวีตหรือโลโก้สักอัน หรือแม้กระทั่งคาแรกเตอร์สักตัวที่คุณสามารถใช้ในเกมแบบ play-to-earn

Pringles_NFT
CryptoCrisp ผลงาน NFT จาก Pringles (Photo Credits: Hypebeast)

และแม้ว่าการลงทุนในอะไรก็ตามที่เป็นดิจิทัลอาจจะดูแปลกสักหน่อย แต่ตอนนี้ NFTs ก็กำลังไปได้สวย เหมือนที่หลายคนพูดกันบ่อยๆ ว่า ดูเหมือนกำลังทะยาน 'สู่ดวงจันทร์' ตัวอย่างเช่น เมื่อเดือนสิงหาคม CNBC รายงานว่ามีนักลงทุนทุ่มเงินถึง 1.3 ล้านเหรียญเพื่อซื้อภาพดิจิทัลของหินก้อนหนึ่ง นอกเหนือจากนั้น แบรนด์ยักษ์ใหญ่ก็เริ่มเข้ามาเล่นเกมนี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็น Taco Bell, Pizza Hut และ Pringles ก็ต่างเริ่มปล่อย NFTs ของตัวเองออกมา แม้กระทั่ง Visa ก็ได้ทุ่มเงินซื้อ NFT ถึง 150,000 เหรียญในปีนี้ ส่วนทาง Adidas ได้ทุ่มอีก 156,000 เหรียญไปกับงานศิลปะรูปแบบดิจิทัล

ทำไมบริษัททั้งหลายถึงทุ่มเงินเป็นล้านเพื่อซื้อ หรือสร้างคอนเซ็ฟต์ของ 'สินทรัพย์' ดิจิทัลที่จะไม่มีใครมีวันได้จับต้องหรือรู้สึกได้กันนะ? เราได้ถามผู้เชี่ยวชาญชั้นนำในแวดวงนี้ และนี่คือสิ่งที่พวกเขาบอกกับเรา

บริษัทเกาะกระแส

จากที่ทนาย Tal Lifshitz ผู้เป็นหุ้นส่วนและประธานร่วมแห่ง Kozyak Tropin & Throckmorton (KTT)  บริษัทด้านสกุลเงินคริปโต, สินทรัพย์ดิจิทัล และบล็อกเชนจาก Miami อธิบายไว้ มันเห็นได้ชัดเลยว่าทำไมแบรนด์ยักษ์ใหญ่ทั้งหลายถึงทุ่มเงินไปกับ NFTs

มันทั้งทันสมัย แล้วก็สนุก แล้วก็เป็นเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่มีศักยภาพในการสร้างคำจำกัดความในการทำธุรกิจ และวิธีการเข้าถึงผู้บริโภคใหม่ให้กับแบรนด์เหล่านี้ เขากล่าวคำถามที่สำคัญกว่าคือ ทำไมแบรนด์ใหญ่ๆ ถึงไม่ลงทุนก้อนโตใน NFTs”

ความจริงนั้นก็คือ การที่คนนำไปใช้มากขึ้นนี้มักจะนำทำให้มันกลายเป็นอยู่เหนือความควบคุมของเรา และตอนนี้ NFTs ก็ยังอยู่ในระยะเริ่มต้นในการที่จะกลายมาเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของเรา

การนำมาใช้มากขึ้นนี้หมายถึงมูลค่าและประโยชน์ที่จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก Lifshitz กล่าวถ้าคุณเป็นคนคนเดียวที่มีโทรศัพท์มือถือ มันก็ไร้ประโยชน์ ถ้าหากคนนับพันล้านมีโทรศัพท์มือถือล่ะก็ คุณก็จำเป็นที่จะต้องมีมันด้วย นั่นคือผลที่เกิดจากการนำมาใช้ที่มากขึ้น และนั่นก็คืออนาคตที่เป็นไปได้ของ NFTs”

หนทางสร้างรายได้

Lydia Hylton นักลงทุนจาก Redpoint Ventures ชี้ให้เห็นว่าบริษัททั้งหลาย สุดท้ายแล้ว ก็มีรายได้เป็นตัวขับเคลื่อน และ NFTs ก็เป็นช่องทางสร้างรายได้และเครื่องมือสร้าง Engagement ใหม่สำหรับแบรนด์

Louis Vuitton_NFT
เกมในโลก Metaverse ของ Louis Vuitton (Photo Credits: Vogue Business)

แบรนด์เอ็กคลูซีฟอย่าง Louis Vuitton อยู่ได้เพราะของมีจำนวนจำกัด และก็กำลังสำรวจงาน NFTs ที่เป็นแบรนด์ LV ในโลก Metaverse” Hylton กล่าวแบรนด์ต่างๆ คอยมองหาวิธีเพิ่ม Engagement กับลูกค้าอยู่เสมอ

ท้ายที่สุด นักลงทุนคนนี้ยังบอกอีกว่า NFTs สามารถใช้เป็นรางวัลให้แก่ผู้บริโภคและจูงใจพวกเขาได้ด้วย ของขวัญสุดล้ำ, การเข้าถึงแสนพิเศษ และอีกมากมาย

ธุรกิจตามเทรนด์

Dustin York รองศาสตราจารย์ด้านการสื่อสารประจำ Maryville University กล่าวว่าบริษัททั้งหลายต่างพากันตามกระแสด้วยเหตุผลง่ายๆ ที่ว่าผู้คนใช้เวลาส่วนใหญ่ในโลกเสมือนจริงมากกว่า

เมื่อผู้บริโภคเดินเข้าห้าง แบรนด์ต่างๆ ก็ตามไป เมื่อผู้บริโภคเริ่มหันมาหาอี-คอมเมิร์ซ แบรนด์ทั้งหลายก็ตามมา เขากล่าวและเมื่อผู้บริโภคเริ่มหันไปหา Web 3.0 แบรนด์ที่เจนโลกดิจิทัลก็ตามพวกเขาไปด้วย ทำให้ NFTs ยิ่งดูใช่เข้าไปอีก

ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ York ก็ได้กล่าวว่าผู้บริโภคเองก็ควรจะเตรียมรับมือกับวัฏจักรกระแส NFT และตอนนี้เราก็อยู่ในช่วงที่กระแสมันโตเร็วมาก เขากล่าวว่า เมื่อถึงจุดหนึ่ง ช่วงเวลาที่อุปสงค์ในงานศิลปะ NFT ก็จะตกลงอย่างมากก็จะต้องมาถึง

แล้วนักวิจารณ์ทั้งหลายก็จะบอกว่า NFTs เป็นแค่กระแสชั่วครู่ เหมือนกับที่พวกเขาบอกว่าอี-คอมเมิร์ซเป็นแค่กระแสชั่วครู่เมื่อสมัยฟองสบู่ดอตคอม เขากล่าวแล้ว NFTs ก็จะกลับมาอีกครั้ง และกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา

อนาคตคือ Metaverse

นักลงทุนใน NFT Andrew Lokenauth กล่าวว่า โดยรวมแล้ว บริษัทยักษ์ใหญ่ทุ่มเงินก้อนโต ไปกับ NFTs เพราะว่าโลกดิจิทัลคืออนาคต

เขายังได้กล่าวอีกว่า ผู้คนจำนวนมากก็ใช้เวลาหลายชั่วโมงไปกับโลกเสมือนจริงนี้ในทุกๆ วัน และตัวเลขของผู้ใช้งานนั้นก็จะโตขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วย นี่คือเหตุผลที่สุดท้ายว่าแบรนด์เห็นผลประโยชน์อะไรจากการทำการตลาดใน Metaverse และลงมือไปทำไม

Lokenauth ยังชี้ให้เห็นอีกว่า ตอนนี้เราก็มีศิลปินชื่อดังจำนวนมากจัดคอนเสิร์ตในโลก Metaverse เช่น Justin Bieber, Travis Scott, the Weeknd และ Ariana Grande

ภาพโปรโมตคอนเสิร์ตของ Ariana Grande ในโลก Metaverse (Photo Credits: The Guardian)

บางที บริษัทแฟชั่นชั้นสูงอาจจะเป็นรายต่อไป จัดแฟชั่นโชว์ในโลก Metaverse” เขากล่าวความเป็นไปได้มันไม่มีที่สิ้นสุด และนี้คือเหตุผลว่าทำไมแบรนด์ใหญ่ๆ ถึงยอมทุ่มเงิน

สิ่งที่ผู้บริโภคควรรู้เกี่ยวกับ NFTs

ในขณะที่แบรนด์ใหญ่ๆ ต่างควักเงินหลายล้านลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล นักลงทุนหน้าใหม่ทั้งหลายก็ควรจะลงทุนใน NFTs อย่างระมัดระวังด้วยเหตุผลหลายประการอย่างแรกเลย ด้วยความที่ NFTs อยู่ในโลกเสมือนจริง มันก็ทำให้อุตสากรรมนี้เต็มไปด้วยพวกขี้โกง เช่น ไม่ใช่เรื่องแปลกที่งาน NFTs เก๊จะถูกขายให้กับนักลงทุนที่ไม่สงสัยอะไรทั้งนั้น 

คุณต้องมั่นใจให้ได้ว่าคนที่ขายโทเคนให้คุณนั้นเขามีสิทธิในโทเคนที่เขากำลังขายให้กับคุณจริงๆ Lifshitz กล่าวปัญหาต่างๆ เรื่อง IP ที่เชื่อมโยงกับ NFTs ก็กำลังถูกแก้อยู่ในขณะที่เรากำลังพูดคุยกันอยู่นี้ แต่สุดท้ายแล้วมันก็ขึ้นอยู่กับสิ่งนั้นนั่นแหละ ผู้ขายไม่สามารถขายสิ่งที่เขาไม่ได้เป็นเจ้าของได้หรอก” 

Justin Giudici ผู้นั่งตำแหน่ง Head of Product ประจำ Telos Foundation กล่าวว่านี้ไม่ควรจะเป็นต้นตอของความกลัวเพราะนักต้มตุ๋นก็มีอยู่ทุกที่อยู่ดี

ก่อนที่จะซื้องาน NFT ใดๆ ก็ควรจะค้นคว้าเกี่ยวกับสินทรัพย์นั้นๆ และยืนยันว่าบุคคล/แบรนด์นั้นไม่ได้กำลังจะหลอกคุณ หรือกำลังขายสินทรัพย์ที่ไม่ใช่ของเขาGuidici กล่าวและยิ่งแบรนด์ที่คนรู้จักเริ่มเข้าวงการนี้ มันก็ถือเป็นการเปิดโอกาสให้นักต้มตุ๋นทั้งหลายมเข้ามาเอประโยชน์จากกระแสนี้

เขายังได้เสริมอีกว่า แพลตฟอร์มทั้งหลายยังไม่มีวิธีการยืนยันตัวตนที่ดีที่สุด ดังนั้นมันก็มีความเสี่ยงอยู่เสมอ

ทาง Akbar Hamid ผู้ก่อตั้งและผู้นั่งแท่นซีอีโอประจำบริษัทด้านสกุลเงินคริปโต, บล็อกเชน และ NFT ที่ไม่เหมือนใครอย่าง 5CRYPTO by 5th Column ก็ได้กล่าวว่า ผู้บริโภคควรต้องศึกษาเกี่ยวกับการใช้งานของ NFTs และคริปโตเบื้องต้นก่อนที่จะด่ำดิ่งเข้าสู่วงการนี้ และนอกเหนือจากการศึกษาเกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อกเชนเพิ่มเติมแล้ว นักลงทุนในอนาคตยังจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ว่าจะเปิดและใช้งานกระเป๋าเงินอย่างไร

Hamid ชี้ว่าปัจจุบันมีคอมมิวนิตี้ NFT ผุดขึ้นมานับไม่ถ้วน และมันก็เป็นเรื่องสำคัญที่คุณจะเข้าไปมีส่วนร่วมในบทสนทนาต่างๆ และตั้งคำถาม เพราะท้ายที่สุดแล้ว การถามคำถามและพูดคุยกับนักลงทุนคนอื่นๆคือวิธีการเรียนรู้ที่ดีที่สุด

แปลและเรียบเรียงโดย ทัตชญา บุษยากิตติกร จากบทความ Why Big Brands Are Spending Millions On NFTs เผยแพร่บน Forbes.com อ่านเพิ่มเติม: ​COOP FRESH ให้การจ่ายตลาดง่ายกว่า และเก๋กว่าเดิม
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine