กรุงโซลเผยโฉม 'เมือง 10 นาที' แห่งโลกอนาคต - Forbes Thailand

กรุงโซลเผยโฉม 'เมือง 10 นาที' แห่งโลกอนาคต

FORBES THAILAND / ADMIN
26 Nov 2021 | 06:00 PM
READ 3544

เกาหลีใต้เปิดตัว ‘เมือง 10 นาที’ ย่านใหม่ล่าสุดในกรุงโซลที่ทุกอย่างอยู่ห่างกันเพียงไม่กี่ก้าว ที่มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกสุดล้ำ และการใช้พลังงานอย่างยั่งยืน

ก่อนที่กลุ่มสถาปนิกฝันไปสูง (หรือคิดสั้น) วางแผนจะสร้าง ‘เมือง 10 นาที’ ในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ มีแนวคิดที่คล้ายกันมาก่อน ซึ่งก็คือแนวคิดเรื่อง ‘​เมือง 15 นาที’ สถานที่ซึ่งผู้อยู่อาศัยจะสามารถไปยังที่ทำงานหรือ สิ่งอำนวยความสะดวกยามว่างได้ง่ายๆ เพียงใช้เวลาแค่ 15 นาทีในการเดิน หรือไม่ก็ปั่นจักรยานไปจากบ้านของพวกเขา
Photo Credit: CNN
แนวคิด ‘เมือง 15 นาที’ นี้กลายเป็นแนวคิดที่เหล่านักวางผังเมืองหันไปให้ความสนใจอย่างมากในช่วงวิกฤตโควิด-19 นี้ แต่โปรเจ็กต์ล่าสุดของเมืองเกาหลีใต้นั้นท้าทายแนวคิดนี้มากกว่าที่เคย ไม่ใช่เรื่องเวลาเท่านั้น แต่รวมถึงคุณภาพชีวิตประชากรอีกด้วย โปรเจ็กต์ ‘เมือง 10 นาที’ นี้ถูกตั้งชื่อว่า "Project H1" ซึ่งเป็นแผนพัฒนาที่มุ่งจะเปลี่ยนแปลงไซต์โรงงานเก่าๆ ให้กลายเป็นเมือง "ฉลาด" ที่เชื่อมต่อกัน โดยเป็นการผสมผสานระหว่างตึกสำหรับอยู่อาศัย 8 ตึกกับออฟฟิศแบบ co-working และพื้นที่เรียนรู้ นอกจากนี้ พื้นที่ 125 เอเคอร์ยังจะมีสถานบันเทิง ฟิตเนส สระว่ายน้ำ และสวนไฮโดรโปรนิกส์ในเมืองอีกด้วย เมืองแห่งนี้ถูกออกแบบโดยบริษัทสถาปนิกสัญชาติดัตช์อย่าง UNStudio โดยมียักษ์ใหญ่อย่าง Hyundai Development Company (บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีเจ้าของเดียวกันกับแชโบลผู้ผลิตรถยนต์ในนามเดียวกัน) หนุนหลัง แต่ย่านนี้จะปลอดรถโดยสิ้นเชิง ในข่าวประชาสัมพันธ์ของโปรเจ็กต์นี้ยังได้ระบุด้วยว่า ทุกคนสามารถเข้าถึง "ความสะดวกสบายทั้งหมดของเมืองนี้" โดยการเดินเพียง 10 นาทีเท่านั้นจากบ้านของพวกเขา Ben van Berkel ผู้ร่วมก่อตั้ง UNStudio ยังได้ระบุไว้ในข่าวประชาสัมพันธ์อีกว่า "ประสบการณ์ในชีวิตประจำวันของผู้อยู่อาศัย" เป็น "เรื่องที่สำคัญที่สุด" ของโปรเจ็กต์นี้ "เราทำสิ่งนี้ผ่านการผนวกประสบการณ์ on-site ที่สนุกสนาน และรังสรรค์มาอย่างดีที่มีให้เลือกมากมาย ให้พวกเขาได้เลือกว่าจะใช้ชีวิต ใช้เวลาทำงาน และใช้เวลาว่างอย่างไร และอีกทั้งช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางไปที่อื่นๆ ในเมืองอีกด้วย ทั้งนี้ก็เพราะว่า หากเขามีเวลากันมากขึ้น เขาก็จะสามารถใช้เวลากับอย่างอื่นได้มากกว่าเคย" เขากล่าว โฆษกของทาง UNStudio ยืนยันว่าโปรเจ็กต์นี้ไฟเขียวแล้ว แต่ยังไม่ได้มีการระบุว่าจะเร่ิมสร้างเมื่อไร สำหรับตอนนี้ ได้มีการปล่อยภาพจำลอง CGI ออกมาเรียกน้ำย่อยว่าย่านใหม่นี้จะมีหน้าตาอย่างไรบ้าง โดยจากที่เห็นมีทั้งพลาซ่าสาธารณะ สวนมากมาย บริเวณดาดฟ้าสีเขียว และ "โซนธรรมชาติ" ที่เชื่อมกันด้วยทางเท้าทั้งหมด ทางสถาปนิกยังได้กล่าวด้วยว่า พลังงานสะอาดทั้งหมดจะผลิตขึ้น on-site ในขณะที่ระบบต่างๆ ที่ใช้ในการกักเก็บน้ำฝนจะถูกใช้ลดปริมาณน้ำที่ใช้ในเมืองอีกด้วย คอนเซ็ปต์ ‘เมือง 15 นาที’ ถูกเสนอครั้งแรกโดย Carlos Moreno นักวิชาการชาวฝรั่งเศส-โคลัมเบียในปี 2016 และกลายเป็นคอนเซ็ปต์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเมื่อ Anne Hidalgo นายกเทศมนตรีกรุง Paris เสนอว่าเธอต้องการจะทำให้นครแห่งแสงไฟนี้กลายเป็น ‘เมือง 15 นาที’ หรือ ‘ville du quart d’heure’ในแคมเปญการเลือกตั้งของเธอ
Photo Credit: CNN
ส่วนทางนักวิจารณ์ทั้งหายก็มองว่า คอนเซ็ปต์นี้อาจจะทำให้เกิด ​Gentrification เนื่องจากเป็นการกระจุกตัวของความมั่งคั่งในย่านที่เข้าถึงง่ายและสะดวกที่สุดเท่านั้น ความอยากได้อยากมีย่านแบบ ‘15 นาที’ นี้ อาจส่งผลให้ราคาบ้านพุ่งขึ้น ทำให้ผู้ที่มีรายได้ต่ำและชุมชนคนชายขอบถูกมองข้ามไป แต่กระแสของคอนเซ็ปต์นี้ก็ไม่มีท่าทีที่จะหายไปง่ายๆ ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 เมื่อผู้คนทั่วโลกทำงานจากบ้าน และพยายามหลีกเลี่ยงรถโดยสารสาธารณะมากขึ้น นักวางผังเมืองทั้งหลายจึงเริ่มแปลงถนนให้กลายเป็นทางเท้า และคิดแนวทางใหม่ๆ เพื่อจัดการกับประชากรที่หนาแน่นในเมืองต่างๆ อีกด้วย หลังจากได้เขียนบทความวิชาการ Smart Cities ไปเมื่อต้นปีนี้ Moreno ก็ได้กล่าวว่า "การเกิดวิกฤตโรคระบาดนี้เผยให้เห็นถึงความเปราะบางของเมืองต่างๆ ... อีกทั้งความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยวิธีการคิดของเราแบบสุดโต่ง วิธีการคิดที่จะใช้นวัตกรรมมาสร้างความมั่นใจว่าชาวเมืองจะสามารถปรับตัวและทำกิจกรรมวันตามปกติได้ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมด้านวัฒนธรรมก็ตาม และรับรองด้วยว่าเมืองทั้งหลายจะยังคงไว้ซึ่งความยืดหยุ่นและมีชีวิตชีวา ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว" เขายังได้เสริมด้วยว่า "งานวิจัยอื่นๆ ได้รับการรับรองให้แสดงแล้วว่าตัวไอเดียและองค์ประกอบต่างๆจะถูกนำไปสร้างในเมืองต่างๆ ณ โลกใต้ได้อย่างไร" แปลและเรียบเรียงโดย ทัตชญา บุษยากิตติกร จากบทความ Plans unveiled for high-tech ‘10-minute city’ in Seoul เผยแพร่บน ​CNN.com อ่านเพิ่มเติม: คอมมิวนิตี้สร้างจาก ‘การพิมพ์ 3 มิติ’ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine