คอนโดเทล แนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ดาวรุ่ง - Forbes Thailand

คอนโดเทล แนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ดาวรุ่ง

PR / PR NEWS
28 Oct 2019 | 07:00 PM
READ 12358

ในขณะที่การปล่อยเช่าคอนโดมิเนียมระยะสั้นในประเทศไทยเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายคอนโดเทลเป็นรูปแบบการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในหัวเมืองท่องเที่ยวสำคัญๆ อาทิ ภูเก็ต พัทยา รวมไปจนถึงกรุงเทพฯ เนื่องจากตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการซื้อคอนโดเพื่อปล่อยเช่าได้ทั้งสำหรับระยะสั้นและระยะยาว และเสนอโอกาสใหม่ๆ ให้กับนักพัฒนาโครงการ ตามการรายงานจากบริษัทที่ปรึกษาและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ เจแอลแอล

คอนโดเทล เป็นรูปแบบการคอนโดมิเนียมประเภทหนึ่งที่มีการขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม จึงทำให้สามารถใช้ประโยชน์ได้เช่นเดียวกับโรงแรม โดยสามารถปล่อยเช่าระยะสั้นรายวันหรือรายสัปดาห์ได้ ในขณะที่คอนโดมิเนียมทั่วไปที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมจะสามารถปล่อยเช่าให้ได้กับเฉพาะผู้เช่าที่ต้องการเช่าตั้งแต่ 30 วันขึ้นไป

จักรกริช จักรพันธุ์ อยุธยา รองประธานบริหารฝ่ายการลงทุนซื้อขาย หน่วยธุรกิจบริการการลงทุนด้านโรงแรมของเจแอลแอล กล่าวว่าคอนโดเทลไม่ได้เป็นรูปแบบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ในประเทศไทย โดยสามารถพบเห็นได้ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในหัวเมืองท่องเที่ยวสำคัญๆ อาทิ พัทยา ภูเก็ต และกรุงเทพฯ เพียงแต่ยังมีจำนวนไม่มากนัก เมื่อเทียบกับประเภทอื่นๆ อย่างไรก็ดี ผลการศึกษาของเราเผยให้เห็นว่า อสังหาริมทรัพย์ประเภทนี้กำลังเป็นรูปแบบการพัฒนาโครงการที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นและมีแนวโน้มขยายตัวในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

ผลการศึกษาของเจแอลแอล ระบุว่า คอนโดเทลกำลังเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในภูเก็ต โดย สิ้นปี 2564 จะมีคอนโดเทลรวมทั้งสิ้นมากกว่า 3,000 ยูนิต หรือมีสัดส่วนคิดเป็นกว่า 30% ของจำนวนห้องพักโรงแรมที่จะสร้างเสร็จใหม่ ตัวอย่างคอนโดเทลโครงการใหม่ๆ ในภูเก็ต ได้แก่ เบสท์ เวสเทิร์น พลัส เดอะ บีชฟรอนท์ ราไวย์ ขนาด 189 ยูนิตที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเร็วๆ นี้โดย บจก.บลู ฮอริซัน เดเวลลอปเมนท์ส ซึ่งบริษัทเดียวกันนี้กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาคอนโดเทลโครงการอื่นๆ อีก 5 โครงการ คิดเป็นจำนวนรวมกว่า 1,500 ยูนิต โดยมีกำหนดจะสร้างเสร็จในช่วง 3 ปีข้างหน้า

พัทยาเป็นอีกหัวเมืองท่องเที่ยวหนึ่งที่มีการพัฒนาโครงการคอนโดเทลเพิ่มมากขึ้น โดยมีโครงการใหม่ๆ คิดเป็นจำนวนรวมทั้งสิ้นกว่า 1,100 ยูนิตที่มีกำหนดจะสร้างเสร็จภายในปี 2564 ทั้งนี้ ฮาบิแทท กรุ๊ป เป็นผู้ประกอบการที่มีความเคลื่อนไหวมากที่สุดในพัทยา โดยปัจจุบันดำเนินธุรกิจคอนโดเทล 2 โครงการ คือ ครอสทูไวบ์ พัทยา ซีเฟียร์ เรสซิเดนซ์ และครอสทูไวบ์ พัทยา โอเชียนเฟียร์ นอกจากนี้ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนาโครงการใหม่อีก 4 โครงการ ซึ่งมีกำหนดสร้างเสร็จภายในปี 2565

ครอสทูไวบ์ พัทยา ซีเฟียร์ เรสซิเดนซ์ หนึ่งในโครงการคอนโดเทลในพัทยา (ภาพจากเฟซบุ๊ก X2 Vibe Pattaya Seaphere)

ส่วนที่กรุงเทพฯ คอนโดเทล ที่มีการบริหารจัดการได้มาตรฐานจำนวนยังมีไม่มากนัก อย่างไรก็ดี การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทนี้ เริ่มเป็นที่จับตามองมากขึ้นจากการเคลื่อนไหวของ บจก.ไซมิส แอสเสท ที่ประกาศเปิดตัวโครงการคอนโดเทลใหม่เพิ่มสองโครงการ เพิ่มเติมจากโครงการที่มีอยู่เดิมคือ บลอสซั่ม คอนโด แอท แฟชั่น โดยโครงการคอนโดเทลที่บริษัทประกาศเปิดตัวใหม่ ได้แก่ เดอะ ไซมิส เอ็กซ์คลูซีฟ และเดอะ คอลเล็คชั่น ซึ่ง 50% ของยูนิตทั้งหมดในโครงการจะเป็นคอนโดเทล และเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะบริหารโดยกรีน แลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล โฮเทลส์จากประเทศจีน

ในการที่จะได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม โครงการคอนโดเทลจะต้องผ่านหลักเกณฑ์ด้านต่างๆ อาทิ ข้อกำหนดมาตรฐาน สิ่งอำนวยความสะดวก/ความปลอดภัย การดำเนินการ และการบริหารจัดการ ตามที่กำหนดไว้ใน ...โรงแรม ทั้งนี้ โดยส่วนใหญ่ผู้พัฒนาโครงการคอนโดเทล มักมีการวางแผนล่วงหน้าสำหรับการขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมหลังการก่อสร้างแล้วเสร็จ

จักรกริช จักรพันธุ์ ณ อยุธยา (ขวา) และ ปิตินุช ภู่พัฒน์วิบูลย์ (ซ้าย)

นอกจากนี้ เจ้าของร่วมที่ถือครองยูนิตในโครงการคอนโดเทล ไม่ได้ปล่อยเช่ายูนิตของตนให้กับลูกค้า (แขกที่เข้าพัก) โดยตรง แต่เป็นการฝากปล่อยเช่าผ่านผู้บริหารคอนโดเทลที่ทำหน้าที่ดูแลการปล่อยเช่าห้องพัก ซึ่งในที่นี้อาจเป็นบริษัทผู้พัฒนาโครงการ หรือบริษัทบริหารโรงแรม/คอนโดเทล ตัวอย่างเช่น บูทีค โฮเทล แมนเนจเม้นท์ เอเชียเบสท์ เวสเทิร์น และวินแดม ซึ่งตัวอย่างทั้งหมดนี้เป็นเชนบริหารจากต่างชาติ

การเสนอขายคอนโดเทลให้กับผู้ซื้อเพื่อลงทุน โดยส่วนใหญ่มักมีการเสนอแผนรับประกันผลตอบแทนในช่วง 2-3 ปี หรือแผนการแบ่งปันผลกำไร ซึ่งจะขึ้นอยู่กับการตกลงระหว่างเจ้าของยูนิตและผู้บริหารคอนโดเทล

 

โอกาสในการลงทุน

ปิตินุช ภู่พัฒน์วิบูลย์ รองประธานอาวุโสฝ่ายที่ปรึกษา หน่วยธุรกิจบริการการลงทุนด้านโรงแรมของเจแอลแอล กล่าวว่าการปล่อยเช่าคอนโดมิเนียมระยะสั้นเป็นช่องทางการสร้างรายได้ที่มีความนิยมเพิ่มขึ้นในหมู่เจ้าของร่วม แต่เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้น คอนโดเทลจึงเป็นทางออกที่จะช่วยป้องกันผู้ซื้อยูนิตเพื่อลงทุนจากความเสี่ยงในการถูกดำเนินคดี นอกจากนี้ การมีโครงสร้างและวัตถุประสงค์การใช้ที่ชัดเจน ยังเป็นการช่วยป้องกันการต่อต้านจากเจ้าของร่วมที่ซื้อยูนิตคอนโดในโครงการเพื่ออยู่อาศัยเองที่อาจไม่ยินดีต้อนรับบุคคลภายนอกที่เข้ามาพักระยะสั้นในอาคาร

ในส่วนของผู้พัฒนาโครงการ จักรกริชกล่าวว่าคอนโดเทล เพิ่มโอกาสใหม่ในฐานะอสังหาริมทรัพย์ทางเลือกสำหรับผู้พัฒนาโครงการ อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้ผู้พัฒนาโครงการสามารถเพิ่มข้อได้เปรียบให้กับโครงการของตน ซึ่งนับเป็นการผ่าทางตันสำหรับตลาดคอนโดมิเนียมของประเทศไทยในขณะนี้ โดยเฉพาะสำหรับกรุงเทพฯ ซึ่งการขายอยู่ในภาวะชะลอตัวและตลาดเช่าระยะยาวมีการแข่งขันสูง

  อ่านเพิ่มเติม  
ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine