สุดยอดเมกะโปรเจ็กต์ 5.4 หมื่นล้านบาท
“ไอคอนสยาม” (ICONSIAM)โครงการมิกส์ยูสฝั่งธนบรี แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของไทยและของโลก เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเเล้วในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยงบประมาณจัดงานเปิดตัว 1 พันล้านบาท นับเป็นการทุ่มทุนไปกว่า 70% ของงบการตลาดในปีนี้ สร้างกระเเสตอบรับอย่างล้นหลาม ผู้คนเเห่เข้าชมเนืองเเน่น จราจรติดขัดทุกสารทิศ
"ไอคอนสยาม" นั้นตั้งตระหง่านอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งหากใครเคยล่องเรือผ่านกรุงเก่าก็คงจะเห็นผ่านตากันมาบ้างจากสถาปัตยกรรมที่หรูหราใหญ่โตเเละเด่นสะดุดตา ท่ามกลางบริเวณชุมชนเก่าเเก่ที่มีผู้คนอาศัยอยู่พลุกพล่านในย่านนั้น
โดยเป็นโครงการ mix-used บนพื้นที่ 50 ไร่ เเละพื้นที่พัฒนารวมกว่า 7.5 แสนตารางเมตร ประกอบด้วยพื้นที่รีเทลหลากหลายรูปแบบ โรงภาพยนตร์ พิพิธภัณฑ์ ศูนย์ประชุม และคอนโดมิเนียมสุดหรู 2 อาคาร ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างสยามพิวรรธน์ เครือซีพี และแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวลล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น (MQDC) เริ่มแผนการพัฒนาโครงการมาถึง 5 ปี พร้อมประกาศจะกระตุ้นเศรษฐกิจไทย
ต้องยอมรับว่าการเดินทางไป
"ไอคอนสยาม" นั้นค่อนข้างลำบากกว่าห้างใหญ่ระดับประเทศอย่างสยาม พารากอน หรือเซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ เเม้จะมีบริการรถรับส่ง Shuttle Bus จากสถานีรถไฟฟ้าและบริการเรือข้ามฟาก เเต่ด้วยการลงทุนระยะยาวจึงต้องมีการร่วมลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งสาธารณะของรัฐเพื่อให้ประชาชนเเละนักท่องเที่ยว "เข้าถึง" ได้ง่ายขึ้น
โดยไอคอนสยาม ทุ่มเงินกว่า 2.08 พันล้านบาท ในการสร้างรถไฟฟ้าสายสีทอง ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสกรุงธนบุรีและมาสิ้นสุดบริเวณหน้าโรงพยาบาลตากสิน มี 3 สถานี ได้แก่
- สถานีกรุงธนบุรี เชื่อมต่อรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีลม
- สถานีเจริญนคร (ไอคอนสยาม) ซึ่งอยู่บริเวณเจริญนคร 6 บริเวณสะพานข้ามคลองวัดทองเพลง
- สถานีคลองสาน อยู่เยื้องกับโรงพยาบาลตากสิน โดยจะมี sky walk เดินทางเข้าสู่โรงพยาบาลได้โดยตรง
ทั้งนี้ 3 สถานีดังกล่าวนี้อยู่ในเฟสแรกของรถไฟฟ้าสายสีทองและจะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีแดง (หัวลำโพง-บางบอน-มหาชัย)ในอนาคต
"เรากำลังเร่งก่อสร้างรถไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีหน้าและจะเป็นการสร้างรถไฟฟ้าที่เร็วที่สุดในประเทศไทยด้วย" ชฎาทิพ จูตระกูล กรรมการบริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวในงานเปิดตัวครั้งเเรกรอบสื่อมวลชน
ด้านงานเปิดตัวก็ยิ่งใหญ่ดึงความสนใจทั่วโลก ทั้งโชว์คอนเสิร์ตริมเเม่น้ำของนักร้องรางวัลเเกรมมี่ "Alicia Keys" เซเลบริตี้คนดังทั้ง F4 ,ชเว ชีวอนเเละอีกมากมาย พร้อมโชว์ขบวนโดรนแปรอักษร 1,500 ตัวจากอินเทล ที่นับว่ามากกว่างานโอลิมปิกฤดูหนาวที่เกาหลีใต้ครั้งที่ผ่านมา
https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/videos/302339873703841/
ขณะที่เมื่อพูดถึงความอลังการภายในไอคอนสยามนั้น ต้องถือว่าเป็นศูนย์รวมเเบรนด์หรูชั้นนำที่ใหม่เเละยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ โดยมีการผสมผสานความเป็นท้องถิ่นไทยด้วยสินค้าวิสาหกิจชุมชนกว่า 1,000 ร้าน
ทั้งนี้ ปัจจุบันร้านค้ามีความพร้อมให้บริการแล้ว 90% โดยจะสามารถบริการได้ทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้ ส่วนพื้นที่ที่ยังอยู่ระหว่างก่อสร้างของโครงการ คือ ศูนย์ประชุม True Icon Hall และพิพิธภัณฑ์ไอคอนสยาม เฮอริเทจ มิวเซียม บน 2 ชั้นบนสุดของอาคารจะเปิดบริการได้ในเดือนกรกฎาคมปี 2562 เบื้องต้นคาดว่าปีแรกจะมีทราฟฟิก 1.5 แสนคนต่อวัน
สำหรับไอคอนสยามที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีไฮไลต์เด็ดๆ ดังนี้
ICONLUXE
ห้างสรรพสินค้าโถงกระจกยาว 300 เมตรริมแม่น้ำเจ้าพระยา อยู่ในบริเวณชั้น M ที่จะรวมแฟล็กชิปสโตร์ดีไซน์พิเศษของแบรนด์ดังต่างๆ จากทุกมุมโลกอย่าง Hermes, Patek Philippe, gucci, Bottega Veneta, BVLGARI, Gucci, Dior, Dolce&Gabbana และแบรนด์ชั้นนำอื่นๆ อีกมากมาย ด้านเพดานตกเเต่งด้วยลวดลายสีทองงดงาม ทางเดินกว้างขวางให้บรรยากาศลักชัวรี่
โดยร้านค้าทั้งหมดมีการดีไซน์ใหม่เพื่อไอคอนสยามตามคอนเซปท์ Co-Creation ผสานแบรนด์เข้ากับความเป็นไทย และอยู่ภายในสถาปัตยกรรมอาคารที่บริษัทได้เชิญศิลปินไทยมาร่วมสร้างผลงานศิลปะในพื้นที่ เช่น อาจารย์ปรีชา เถาทองเเละอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์
อาณาจักรศูนย์การค้าเเละโชว์รูมรถหรู
เอาใจเเฟนคลับเจเเปน ด้วยการเปิดศูนย์การค้า
Siam Takashimaya จากญี่ปุ่น ซึ่งจะเปิดสาขาแรกในไทยและเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดนอกประเทศญี่ปุ่น ครอบคลุมพื้นที่จุใจตั้งแต่ชั้น Gถึงชั้น 5 มีทั้งให้เลือกสรรผลิตภัณฑ์ทุกประเภท รวมถึงโซนร้านอาหารญี่ปุ่นเเบบดั้งเดิมเเละซูเปอร์มาร์เก็ตสินค้าส่งตรงจากเเดนอาทิตย์อุทัย
โดยมีร้านค้าที่น่าสนใจอย่าง JD Sports ร้านแฟชั่นกีฬาจากอังกฤษที่มาเปิดสาขาแรกในไทย ,
Adidas Original Store ที่
ใหญ่ที่สุดในเอเชีย , Nike Kicks Lounge แห่งแรกในอาเซียน เเละ H&M ที่มีให้ช็อปปิ้งกันถึง 3 ชั้น
(ตั้งแต่ชั้น
1-3) รวมถึงร้านเครื่องประดับชื่อดังต่างๆ
ขณะที่กลุ่มเอ็มจีซี-เอเชีย คอร์ปอเรชั่น ได้เปิดโชว์รูมที่ไอคอนสยาม รวดเดียว 6 โชว์รูมบนพื้นที่หลายพันตารางเมตร สำหรับ 6 แบรนด์ ประกอบด้วย
Rolls-Royce ,
BMW,
Maserati ,
Aston Martin,
MINI และมอเตอร์ไซค์
BMW Motorrad พร้อมมีมุมจัดโชว์เรือยอชต์หรูแบรนด์
AZIMUT
โดยโชว์รูมของ BMW, MINI และ BMW Motorrad ตั้งอยู่บริเวณชั้น 3 ตกเเต่งดึงดูดสายตาภายใต้คอนเซ็ปต์ Modern Exclu-siveness Urban Store มีการนำเทคโนโลยี virtual showroom เเละใช้เทคโนโลยี VR (virtual reality) แสดงภาพรถเสมือนจริงผ่านแว่นชนิดพิเศษด้วย
ด้านเเบรนด์หรูอย่าง
Porsche มาด้วยคอนเซปต์ดิจิทัลโชว์รูมในชื่อว่า "Porsche Studio Bangkok" โดยใช้งบประมาณการลงทุน 120 ล้านบาท บนพื้นที่ขนาด 283 ตารางเมตร ตั้งอยู่บริเวณชั้น 1 ของไอคอนสยาม
ขณะที่เเบรนด์
Toyota ประเดิมสร้างโชว์รูมต้นเเบบ
"Alive Space" พื้นที่กว่า 2,000 ตารางเมตรของชั้น 3เเละ4 โดยแบ่งเป็น 2 โซนคือด้านล่างเป็นพื้นที่โชว์รถยนต์และแนะนำเทคโนโลยี ส่วนด้านบนจัดแบ่งพื้นที่เป็นคาเฟ่เเละ co-working space เพื่อตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่
Apple Store แห่งแรกในเมืองไทย
หลังสร้างเสียงฮือฮากันมาพักใหญ่ ในที่สุด
Apple Store ก็เปิดอย่างเป็นทางการเเล้ว โดยครอบคลุมพื้นที่ชั้น 2-3 มีโซนระเบียงตกแต่งด้วยกระจกทั้งหมด ติดริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา สามารถเดินออกมารับลมชมวิวได้ นับเป็นหนึ่งในทำเลที่สวยที่สุดของไอคอนสยาม
โดย Apple Store มีพื้นที่กิจกรรมการเรียนรู้ในคอนเซปต์
Today at Apple สอนวาดภาพ แต่งเพลงจากอุปกรณ์ของ Apple พร้อมมุมช่วยเหลือปรึกษาปัญหาการใช้งานอย่าง Genius Bar มาตรฐานเดียวกันกับสาขาอื่นๆ ทั่วโลก ขณะเดียวกันก็มีสินค้าจำหน่ายทุกรุ่นให้ลูกค้าได้ใจลองเล่นเเบบจุใจ
ICONACTIVE
รับเทรนด์สปอร์ตเเฟชั่นที่กำลังมาเเรงด้วยการนำเสนอเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย แบรนด์ดังจากทั่วโลกกว่า 40 แบรนด์บนพื้นที่กว่า 1,350 ตารางเมตรในชั้น 3
ICONCRAFT
มุมสวรรค์ของสาวกงานคราฟต์ พื้นที่กว่า 2,500 ตารางเมตรภายในชั้น 4 ซึ่งรวบรวมงานฝีมือเเละนวัตศิลป์ร่วมสมัยหลากหลายประเภทของคนไทยมาไว้ในที่เดียว โดยหวังเปิดโอกาสให้ช่างฝีมือไทยได้จัดเเสดงผลงานให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกได้เยี่ยมชมเเละช่วยเพิ่มมูลค่าภูมิปัญญาท้องถิ่น
Co-creation Space : สุขสยาม
นับเป็นการผนึกกำลังสร้างสรรค์จากชุมชนท้องถิ่น 77 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อสร้างแพลตฟอร์มธุรกิจและพื้นที่เชิงวัฒนธรรมครั้งแรกในไทย ตามเเนวคิด “co-creation” ในคอนเซปต์ค้าปลีกยุคใหม่จากผู้ประกอบการรายย่อยในชุมชนท้องถิ่น มีอาหารพื้นบ้านให้ลิ้มลอง อิ่มเอมทั้งอาหารคาวและหวาน พร้อมจำลองวิถีชีวิตตลาดน้ำมาไว้ในห้างสรรพสินค้าบนพื้นที่ชั้น G
https://youtu.be/B6CVQf7fUW4
