แอพพลิเคชั่นชำระเงินของ Lee Seung-Gun สามารถครองใจหนุ่มสาวชาวเกาหลีภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ชายผู้นี้จะสามารถปั้นธุรกิจของเขาให้เป็น Fintech Unicorn ได้สำเร็จหรือไม่
Viva Republica ถือเป็นฟินเทคสตาร์ทอัพที่ร้อนแรงที่สุดในเวลานี้ของประเทศเกาหลี ด้วยเทคโนโลยีที่พลิกโฉมหน้าการให้บริการทางการเงินแบบที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนผ่านแอพพลิเคชั่น “Toss” ซึ่งให้บริการชำระเงินแบบ peer-to-peer การเปิดตัวแอพพลิเคชั่นที่ใช้งานง่ายดังกล่าวของบริษัทในปี 2015 ได้สร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ในโลกการเงิน ดังจะเห็นได้จากการที่บรรดาธนาคารพาณิชย์ต่างเร่งยกระดับการให้บริการเพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าเป็นการใหญ่ ส่งผลทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆ ของธนาคารได้อย่างสะดวกรวดเร็วมากขึ้น จากข้อมูลของธนาคารกลางเกาหลีพบว่า ปริมาณธุรกรรมการชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือในประเทศเกาหลีใต้ได้เพิ่มสูงขึ้นกว่า 4 เท่าในช่วงเวลาดังกล่าว คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 4.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ กิจการสตาร์ทอัพรายนี้ซึ่งระดมทุนไปได้แล้วถึง 76 ล้านเหรียญยังไม่หยุดความฝันของตนเองไว้เพียงเท่านี้ หลังจากได้เงินลงทุนจำนวน 48 ล้านเหรียญจาก PayPal และนักลงทุนรายอื่นๆ ในเดือนมีนาคม Toss ก็เหมือนเสือติดปีกจากที่เป็นเพียงแค่ “แอพพลิเคชั่นโอนเงินธรรมดา” สู่การเป็น “แพลตฟอร์มสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคที่ครอบคลุม” ซึ่งคาดกันว่าสามารถสร้างรายได้ให้กับ Viva Republica ในปี 2017 ที่ผ่านมาสูงถึงราว 20 ล้านเหรียญส่งผลให้ Toss มีชื่อติดอันดับในฐานะบริการชำระเงินแบบ P2P ที่มีอัตราการเติบโตรวดเร็วที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียด้วยปริมาณธุรกรรมที่มีมูลค่าสูงถึง 1.2 หมื่นล้านเหรียญในปี 2017 Lee Seung-Gun ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Toss เล่าว่า ด้วยจำนวนผู้ใช้งานประมาณ 12 ล้านคน Toss สามารถสร้างธุรกรรมในปริมาณที่เท่ากันโดยใช้เวลาเพียงครึ่งหนึ่งของ PayPal โดย Toss ตั้งเป้าเป็นกิจการสตาร์ทอัพรายแรกของโลกที่ทำธุรกิจโอนเงินแบบ P2P ที่จะถึงจุดคุ้มทุนภายในอนาคตอันใกล้ Lee ขีดเส้นทางอาชีพของตัวเองหลังจากเริ่มประกอบวิชาชีพทันตแพทย์ได้ไม่นาน ซึ่งรวมถึงช่วงเวลาที่เขาต้องไปเกณฑ์ทหารโดยเขาได้รับมอบหมายให้ประจำอยู่ที่ศูนย์บริการสาธารณสุขบนเกาะแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ไกลโพ้น ในช่วงนั้นเขาไม่ได้สนใจงานที่อยู่นั่นทำให้เขาตัดสินใจตั้งบริษัท Viva Republica ขึ้นภายในช่วงเวลาไม่กี่ปีหลังจากปลดประจำการในปี 2011 ในปี 2017 แอพพลิเคชั่นของเขาติดอันดับที่ 35 ของโลกจากการจัดอันดับบริษัทฟินเทคดาวเด่น 100 อันดับแรกของ KPMG ซึ่งเป็นอันดับที่สูงกว่า Lending Club และ Coinbase ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น Fintech Unicorns ของสหรัฐอเมริกาเสียอีก Viva Republica อ้างว่าคนรุ่นใหม่ที่อยู่ในกลุ่มมิลเลนเนียลเกือบครึ่งในเกาหลีใต้ต่างใช้งานแอพพลิเคชั่นของบริษัท บริการออนไลน์ทางด้านการเงินในเกาหลีเป็นที่โจษจันในเรื่องความล้าหลังที่สร้างความหงุดหงิดรำคาญใจให้กับผู้ใช้งานมาโดยตลอด แต่ความนิยมใช้งานแอพพลิเคชั่น Toss ดูเหมือนจะจุดประกายไฟแห่งนวัตกรรมให้เกิดขึ้นเนื่องจากทำให้ผู้ใช้งานเริ่มมีความคาดหวังมากขึ้น ในปีที่ผ่านมาได้มีการเปิดตัวธนาคารทางอินเทอร์เน็ต 2 รายในเกาหลี นั่นคือ K Bank และ Kakao Bank ซึ่งให้บริการการเงินผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น ขณะเดียวกัน บรรดาธนาคารพาณิชย์รูปแบบเดิมต่างเร่งปรับปรุงแอพพลิเคชั่นของตนเองให้ทันสมัยและสะดวกสบายในการใช้งานมากขึ้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าบริการทางการเงินอย่าง Kakao Pay และ Never Pay กำลังรุกคืบเข้ามาเหยียบจมูกเจ้าถิ่นอย่าง Toss Viva Republica ยอมรับว่า บริษัทไม่มีปัญญาจะทุ่มงบประมาณด้านการตลาดจำนวนมากเพื่อไปแข่งขันกับธนาคารพาณิชย์ยักษ์ใหญ่ที่เป็นเจ้าตลาดเดิมได้ แต่สิ่งที่ทำให้ Toss มีวันนี้เพราะการแนะนำแบบปากต่อปากของผู้ใช้งาน ฐานลูกค้าที่ใช้งานแอพพลิเคชั่น Toss อย่างเหนียวแน่นช่วยทำให้ปริมาณธุรกรรมของบริษัทสูงกว่าคู่แข่งถึงเกือบ 4 เท่า Lee บอกว่า จุดแข็งของแอพพลิเคชั่นคือประสบการณ์ในการใช้งาน “ตอนแรกผมค่อนข้างเป็นกังวลในเรื่องการแข่งขัน (แต่) ผมคิดว่าคู่แข่งเขาทำทุกอย่างที่จะทำได้อย่างเต็มที่แล้ว ดังนั้น สิ่งที่ผมจะทำได้ คือการให้ความสำคัญในเรื่องตัวผลิตภัณฑ์และผู้บริโภคซึ่งผลตอบรับที่ได้กลับมาถือว่าดีทีเดียว” ในช่วงแรกที่ทำธุรกิจ บริษัทขาดทุนตลอดสำหรับธุรกรรม P2P ซึ่งเป็นบริการตัวท็อปของบริษัท เนื่องจากบริษัทต้องรับภาระค่าธรรมเนียมการโอนเงินจำนวน 45 เซนต์ต่อธุรกรรมที่ธนาคารเรียกเก็บเอาไว้เองแต่การศึกษาบทเรียนที่ PayPal ใช้ในการสร้างความภักดีต่อแบรนด์และ “ความเหนียวแน่น” ของผู้ใช้งานที่หมั่นตรวจสอบยอดเงินคงเหลือในบัญชีอยู่เป็นประจำทำให้ Toss สามารถเสริมบริการอื่นๆ เข้าไปเพื่อสร้างรายได้เพิ่ม ซึ่งบริการที่ว่ามีทั้งที่เป็นบริการของ Toss เองและบริการที่ Toss ทำร่วมกับผู้ให้บริการรายอื่น ปัจจุบันแพลตฟอร์มในการให้บริการของ Toss จะมุ่งเน้นใน 4 ธุรกิจแกนหลัก ซึ่งประกอบด้วย การชำระเงิน การลงทุน สินเชื่อ และประกันชีวิต นอกจากนี้ขอบเขตการให้บริการของบริษัทยังครอบคลุมไปถึงเรื่องการเทรดเงินบิตคอยน์อีกด้วย Toss ตั้งเป้าที่จะเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานชาวเกาหลีให้ได้ถึง 30 ล้านราย ควบคู่ไปกับการนำเสนอบริการใหม่ๆ อย่างเช่น การบริหารงบประมาณ ขณะเดียวกันบริษัทก็อยู่ระหว่างการมองหาพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อ Toss เตรียมบุกตลาดประเทศฟิลิปปินส์และเวียดนามในอีก 6 เดือนข้างหน้าก่อนจะรุกคืบไปยังประเทศอื่นๆ ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อไป สิ่งที่เป็นความทะยานอยากของ Lee ในเวลานี้ คือ การทำให้ VivaRepublica เป็น Fintech Unicorn รายแรกในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่ง Lee มองเห็นภาพของตลาดโลกการเงินในอนาคตที่การทำธุรกรรมทางการเงินจะเกิดขึ้นบนหน้าจออุปกรณ์ไฮเทคต่างๆ ไม่ใช่การเดินทางไปทำธุรกรรมที่สาขาธนาคารอีกต่อไป Lee พูดต่อว่า “เรื่องดังกล่าวเป็นอนาคตที่เราอยากจะทำให้สำเร็จ และผมคิดว่าฝันนั้นคงไม่ไกลเกินจริงเมื่อดูจากสภาวการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบันคลิกอ่านฉบับเต็ม "Toss แอพฯ สุดฮอต จากแดนกิมจิ" ได้ที่ Forbes Thailand Magazine ฉบับ เมษายน 2561 ในรูปแบบ e-Magazine