<h2>วรลักษณ์ พร๊อพเพอร์ตี้ปรับลูกเล่นโครงการมิกซ์ยูส W District ย่านพระโขนง ร่วมมือ TCDC เปิดศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบสาขาที่สามในโครงการ สร้าง co-working space ‘U691’ ดึงดูดสตาร์ทอัพ แย้มพร้อมเปิดทางร่วมทุนโครงการใหม่</h2>
วิชัย พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการ บริษัท วรลักษณ์ พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้โครงการมิกซ์ยูส W District ริมถนนสุขุมวิท สถานี BTS พระโขนง จะมีการพัฒนา 2 ส่วนเพิ่มเติม คือ พื้นที่ โคเวิร์กกิ้งสเปซ U691 ขนาด 2,000 ตร.ม. บริเวณชั้น 1-2 ของอาคารรีเทลส่วนหน้า ซึ่งบริษัทลงทุนพัฒนาในลักษณะออฟฟิศให้เช่าระยะสั้น 6 เดือน-1 ปี ห้องประชุมให้เช่า และร้านกาแฟ เพื่อรองรับกลุ่มสตาร์ทอัพที่ต้องการพื้นที่ออฟฟิศขนาดเล็กและราคาไม่สูง โดยจะออกแบบอย่างมีดีไซน์ในรูปแบบเรือดำน้ำ คาดจะเปิดบริการในเดือนเมษายน-พฤษภาคมนี้

อีกส่วนคือ ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ TCDC พื้นที่ประมาณ 1,200 ตร.ม. บริเวณศูนย์แสดงงานศิลปะ HOF ART เดิม จะจัดสรรพื้นที่ใหม่รองรับ TCDC ซึ่งวรลักษณ์ลงทุนในการตกแต่งพื้นที่ให้ 30 ล้านบาท ขณะที่ TCDC จะเป็นผู้ลงทุนสื่อต่างๆ ในศูนย์ฯ และเป็นผู้ดำเนินการบริหาร คาดเปิดบริการเดือนกันยายน 2560

“ลักษณะเป็นการร่วมทุนกับ TCDC ปลายทางค่าสมาชิกจะแบ่งรายได้กัน แต่ถือว่าเป็นรายได้ที่ไม่มาก โครงการนี้ที่เราทำจึงเป็นเชิง CSR มากกว่า โดยที่นี่จะเป็นสาขาที่สามในกรุงเทพฯของ TCDC ต่อจากสำนักงานใหญ่บางรักและพระราม 4 มีคอนเซ็ปต์คือ User Experience รวบรวมงานด้านแอพพลิเคชัน ซอฟต์แวร์ กราฟิกดีไซน์ ที่เคยเกิดขึ้นและไม่ประสบความสำเร็จมาให้ผู้ใช้บริการศึกษา เพราะเชื่อว่าการศึกษางานที่ไม่สำเร็จเป็นทางลัดให้ผู้ที่กำลังสร้างสรรค์งาน” วิชัยกล่าว

<figure><img style="width: 680px; height: 454px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/68223e578b3cd0510d63023db7af5896.png" alt="" width="680" height="454" /><figcaption> ส่วนหนึ่งของโครงการ W District [เครดิตภาพ: thailandexhibition.com]</figcaption></figure>nbsp;

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า W District เป็นโครงการมิกซ์ยูสของวรลักษณ์เปิดบริการเมื่อปี 2556 บนพื้นที่ 10 ไร่ แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 2 อาคาร รวม 816 ยูนิต โรงแรม Beat Hotel by Hi-Residence จำนวน 53 ห้อง และพื้นที่รีเทล 1 หมื่นตร.ม. โดยตั้งเป้าให้เป็นแลนด์มาร์กแห่งย่านพระโขนง

ด้าน TCDC หลังหมดสัญญาเช่าบนศูนย์การค้า Emporium ได้ย้ายสำนักงานใหญ่ไปยังอาคารไปรษณีย์กลางบางรัก ถนนเจริญกรุง และเปิดสาขาที่สองบนคอนโดฯ ไอดีโอ คิว จุฬา-สามย่าน ถนนพระราม 4 ซึ่งพัฒนาโดยบมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์

วิชัยกล่าวต่อว่า สำหรับรายได้วรลักษณ์ พร๊อพเพอร์ตี้เมื่อปี 2559 รับรู้รายได้ประมาณ 700-800 ล้านบาท ส่วนปี 2560 ในไตรมาส 2 จะมีการเปิดตัวคอนโดฯ รูเนะสุ ทองหล่อ 5 จำนวน 156 ยูนิต มูลค่า 1,200 ล้านบาท ในนามบริษัทร่วมทุนไทย-ญี่ปุ่น บริษัท ดับเบิ้ลยู-ชินวะ จำกัด

คาดว่าปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้าอาจจะมีการเปิดตัวอีก 1 โครงการ โดยบริษัทยังมีที่ดินรอการพัฒนา (landbank) อยู่อีก 3 แปลงคือ 1.ที่ดินบริเวณหัวหิน 25 ไร่ หน้ากว้างติดทะเล 100 เมตร 2.ที่ดินบางนา กม.24 ริมถนนบางนา-ตราด ขนาด 4 ไร่ 3.ที่ดินย่านบางบัวทอง ขนาดกว่า 1,000 ไร่

“บริษัทสนใจโครงการมิกซ์ยูสเป็นหลัก เพราะในตลาดมีผู้พัฒนาไม่มาก โดยไม่ได้จำกัดประเภทธุรกิจ นอกจากที่อยู่อาศัยยังสนใจทั้งโรงแรม เซอร์วิสอะพาร์ตเมนต์ โรงพยาบาล สนามกอล์ฟ แล้วแต่ความเหมาะสมว่าโอกาสในพื้นที่นั้นลูกค้าต้องการอะไร และจังหวะเหมาะสมที่จะพัฒนาหรือไม่”

นอกจากนี้ วิชัยยังกล่าวอีกว่า บริษัทเปิดกว้างที่จะพัฒนาการร่วมลงทุนกับกลุ่มทุนต่างๆ ปัจจุบันนอกจากกลุ่มชินวะกรุ๊ปจากประเทศญี่ปุ่นที่ได้เป็นพันธมิตรกันแล้ว ยังมีกลุ่มทุนจีนและตะวันตกเข้ามาติดต่ออีกด้วย

วิชัย พูลวรลักษณ์ ผนึกพันธมิตรศูนย์สร้างสรรค์ฯ ‘TCDC’ ดึงเปิดสาขาใน W District พระโขนง

<h2>ร่วมทศวรรษที่ วิสูตร พูลวรลักษณ์ และ วิชัย พูลวรลักษณ์ สายเลือดของพี่ใหญ่แห่งโก-บราเดอร์ ได้ครองบังลังก์ผู้นำโรงภาพยนตร์ระบบมัลติเพล็กซ์รายแรกในประเทศชื่อ EGV  ก่อนถูกคลื่นลูกใหม่ร่วมตระกูลอย่าง บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ภายใต้การนำของวิชา พูลวรลักษณ์ เข้าควบรวมกิจการในปี 2547</h2>
เมื่อชั่วโมงแห่งการสงบศึกโรงภาพยนตร์ระหว่างพี่น้องตระกูลพูลวรลักษณ์เริ่มขึ้น ด้วยกำลังใจจากบิดาทั้งสองฝ่าย ได้แก่ จำเริญ พูลวรลักษณ์ บิดาของวิชา และเจริญ พูลวรลักษณ์ พี่ชายของจำเริญ บิดาของวิชัย-วิสูตร ดีลมูลค่ากว่า 1.8 พันล้านบาทได้รับความสนใจไม่แพ้วันแรกที่เกิดขึ้นในปี 2536 วันที่ EGV ประกาศสร้างโรงภาพยนตร์ 10 โรงใน ฟิวเจอร์พาร์ค บางแค พร้อมทำสถิติสร้างโรงภาพยนตร์จำนวน 65 โรงภายในเวลา 18 เดือน ด้วยงบประมาณ 1.5 พันล้านบาท

หลังวางมือจากธุรกิจโรงภาพยนตร์ วิสูตรและวิชัยต่างเลือกเส้นทางที่แตกต่าง โดย วิชัย พูลวรลักษณ์ ยังคงดำรงตำแหน่งเป็น กรรมการค่ายเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ พร้อมสวมหมวกใบใหม่ในฐานะผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์นับตั้งแต่ปี 2550

“คุณวิชาเป็นคนเก่ง เมื่อเขาเป็นคนเก่ง เราก็อยากจะสนับสนุน มันเป็นการรวมพลังกัน และนามสกุลเดียวกันพูลวรลักษณ์เหมือนกัน หลังจาก merge กัน ผมก็มีเวลาเที่ยวมากขึ้น แต่หยุดนานก็เบื่อต้องหาอะไรทำ จึงเริ่มทำหมู่บ้านโครงการแรก” วิชัย ในวัย 52 ปี ย้อนระลึกถึงช่วงเวลาเบนเข็มเส้นทางธุรกิจโรงภาพยนตร์สู่อสังหาริมทรัพย์

ผ่านไปได้ 7 ปี ในวันนี้ วิชัยคือประธานกรรมการบริษัทวรลักษณ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เจ้าของโครงการ W District มูลค่ากว่า 6,300 ล้านบาท บนพื้นที่เดิมซึ่งเคยเป็นโรงภาพยนตร์ฮอลิเดย์ และห้างสรรพสินค้าเอดิสันของครอบครัว

แม้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และโรงภาพยนตร์ไม่น่าจะเชื่อมโยงกันได้ แต่วิชัยสามารถสะท้อนความเหมือนในความต่างที่ทำให้เจ้าของโรงภาพยนตร์ส่วนใหญ่ทำอสังหาริมทรัพย์ควบคู่กันว่า ธุรกิจโรงภาพยนตร์เป็นอสังหาริมทรัพย์ชนิดหนึ่ง เนื่องจากเป็นพัฒนาที่ดินเปล่า และยังช่วยสร้างความคึกคักให้กับชุมชนไม่ต่างกัน ยิ่งไปกว่านั้นอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับการพัฒนาแล้ว จะกลายเป็นผลงานที่สร้างความภาคภูมิใจในระยะยาว

“ผมทำธุรกิจโรงภาพยนตร์หลายสิบปี ในหลายๆ ทำเล ทำให้เกิด traffic  ผมเริ่มค้นพบตัวเองจากการสร้างความเจริญให้กับชุมชนหลายที่ ทำให้รู้สึกว่าอาชีพนี้ดี ให้ความสุข ให้รอยยิ้ม เมื่อมาทำบ้าน ยิ่งรู้สึกตอบโจทย์ เพราะเป็น 1 ในปัจจัย 4 ทำให้คนมีที่อยู่ ทำให้ชีวิตงอกงาม หลังจากนั้นจึงทำมาเรื่อยๆ และคิดนอกกรอบมากขึ้น”

เขายกตัวอย่างประสบการณ์คิดนอกกรอบจากพี่ชาย (วิสูตร) ครั้งสร้างภาพยนตร์เรื่องแรก "ซึมน้อยหน่อย กะล่อนมากหน่อย" คุณปื๊ด-ธนิตย์ถามคุณวิสูตรว่าหนังเรื่องนี้จะเอาใจคนดู แต่รายได้อาจจะเจ๊ง เพราะคุณบิลลี่ (โอแกน) และคุณส้มโอ (เพ็ญพิสุทธิ์) ยังไม่เป็นที่รู้จักในสมัยนั้น คุณวิสูตรบอกว่าถ้ามัวแต่คิดเรื่องกำไรอาจจะเจ๊งตั้งแต่วันแรก เขาบอกให้ทำไปเลย เจ๊งก็ช่างมัน อย่าห่วงเรื่องกำไร ปรากฏว่าวันที่ฉายวันแรก เก้าอี้พังไป 10 กว่าตัว เพราะคนขำ กลายเป็นกระแส คนรู้จักดารา ไทเอนเตอร์เทนเมนท์แจ้งเกิด

แนวคิดดังกล่าวสะท้อนผ่านโครงการ W District เนื้อที่ 12 ไร่ ถัดจากสถานีรถไฟฟ้าพระโขนงเพียง 250 เมตร ด้วยความตั้งใจปั้นให้เป็นแลนด์มาร์กไลฟ์สไตล์แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ภายใต้แนวคิด Urban Fusion Lifestyle ประกอบด้วย คอนโดมิเนียมระดับพรีเมียม 2 อาคาร ได้แก่ Le Luk สูง 27 ชั้น จำนวน 285 ยูนิต และ Sky Walk Condominium (Weltz Residences) รวมจำนวน 531 ยูนิต

และยังร่วมกับ HOF Art โดยบริษัท เมอริท ไลฟ์ จำกัด สร้างศูนย์แสดงงานศิลปะบนพื้นที่กว่า 2,000 ตารางเมตร แบ่งเป็น HOF Art Gallery ขนาด 2 ชั้น พื้นที่แสดงและจัดจำหน่ายงานศิลปะที่มีจำนวนมากที่สุด และ HOF ART Residency Bangkok แสดงงานศิลป์ที่เป็นทั้งที่พักและห้องแสดงงานศิลปะ โดยตั้งเป้าผลักดันให้เป็นศูนย์กลางงานศิลปะระดับนานาชาติโชว์

ผู้ร่วมปฏิวัติวงการโรงภาพยนตร์ไทยกล่าวถึงเป้าหมายในชีวิตว่า เขาเพียงต้องการสร้างผลงานที่มีคุณภาพ บนการทำงานที่ยึดหลักความซื่อสัตย์สุจริต พร้อมย้ำถึงความพึงพอใจกับเส้นทางที่เลือกเดินในปัจจุบัน เพื่อตอบโจทย์ “สุขนิยม” ในแบบฉบับของวิชัย

“วันนี้เชื่อว่า เรากำลังดำเนินชีวิตไปในแบบที่อยากเป็น และค้นพบตัวเองว่า สิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้เป็นสิ่งที่ชอบมากที่สุดในชีวิต เรามีความสุขกับชีวิตที่เป็นอยู่ ไม่ต้องไขว่คว้ามากมาย เราเน้นความยั่งยืน ต่อเนื่องสม่ำเสมอ ขณะที่บางคนชอบไขว่คว้า อยากเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ผมคิดว่า เป็นการกดดันตัวเองและหาความสุขให้ตัวเองไม่ได้จริงๆ ผมเป็นคนสุขนิยมหน่อยๆ”

&nbsp;

<hr />

ติดตามอ่าน " "หนัง” เรื่องใหม่ของ วิชัย พูลวรลักษณ์ แปลงโรงหนังเป็น “เมือง” " ฉบับเต็มใน Forbes Thailand ฉบับ OCTOBER 2014

&nbsp;

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events