<h2>Central Group บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านธุรกิจค้าปลีกของไทย อยู่ระหว่างเจรจาต่อรองซื้อหุ้นของ Vincom Retail ซึ่งถือเป็นบริษัทผู้ประกอบธุรกิจห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม</h2><h2> </h2>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;วินกรุ๊ป (Vingroup) กลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ที่สุดของเวียดนาม กำลังอยู่ระหว่างพิจารณาขายหุ้นของ Vincom Retail ซึ่งเป็นบริษัทในเครือและยังเป็นผู้ประกอบธุรกิจห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม โดยปัจจุบัน Vingroup ได้ถือครองหุ้นอยู่ในบริษัทดังกล่าวราว 60%&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ จากรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ส ระบุว่า บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด (Central Group) ซึ่งถือเป็นผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีกของไทย คือหนึ่งในหลายบริษัทที่ได้ทำการเข้าเจรจาเพื่อซื้อขายหุ้นของ Vincom Retail ด้วยเช่นกัน แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปการตัดสินใจในขั้นตอนสุดท้ายว่าบริษัทยักษ์ในเวียดนามได้ตกลงขายหุ้นให้กับบริษัทไหน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ณ ปัจจุบัน Vincom Retail มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 2.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทยราว 96,000 ล้านบาท ถือเป็นตัวเลขสำหรับการทำข้อตกลงซื้อขายหุ้นต่อการธุรกรรมควบรวมและเข้าซื้อกิจการ (M&amp;A) ครั้งที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนามในรอบหลายปี​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/03/Z31UrVjtQVM8ZcoxKuTU.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="Z31UrVjtQVM8ZcoxKuTU.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ Vincom Retail ยังมีห้างสรรพสินค้าถึง 83 แห่งครอบคลุมอยู่ในเวียดนาม โดยราคาหุ้นของบริษัทพุ่งขึ้น 11% ตั้งแต่ต้นปี 2566 ขณะที่ดัชนี VNI ของตลาดหลักทรัพย์เวียดนามปรับตัวขึ้นเพียง 5%&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อีกทั้งในปี 2565 ที่ผ่านมาอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเวียดนามนั้น มีการขยายตัวเร็วที่สุดในเอเชียอยู่ที่ 8% <a href="https://www.forbesthailand.com/news/finance-and-investment/jcb-%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%8D%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%88%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%82%E0%B8%95-34" alt="อ่านเพิ่มเติม: JCB รับกระแสเที่ยวญี่ปุ่นบูมดันยอดใช้จ่ายบัตรโต 34%">อ่านเพิ่มเติม: JCB รับกระแสเที่ยวญี่ปุ่นบูมดันยอดใช้จ่ายบัตรโต 34%</a><hr class="__se__solid"><a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

Central Group เล็งขยายอาณาจักรในเวียดนามเจรจาซื้อหุ้นจากห้าง Vincom Retail 

<h2>VinSmart หนึ่งในเครือข่ายธุรกิจยักษ์ใหญ่ของ Vingroup เปิดตัว Vsmart สมาร์ทโฟน 5G สัญชาติเวียดนาม หลังซุ่มพัฒนาราวกลางปีที่ผ่านมา รองรับการใช้งานการสื่อสารแบบ 5G ภายใต้การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ต่อกรแบรนด์นำเข้าชั้นนำ</h2>
VinSmart Research &amp; Manufacturer บริษัทในเครือ Vingroup เผยแถลงการณ์ถึงความสำเร็จในการพัฒนา Vsmart Aris สมาร์ทโฟนที่รองรับการใช้ 5G เต็มรูปแบบ “ความสำเร็จในการพัฒนา Vsmart ทำให้เราเป็นบริษัทในเวียดนามแห่งแรกที่สามารถผลิตอุปกรณ์ที่รองรับการสื่อสารภายใต้เทคโนโลยี 5G ได้” แถลงการณ์ระบุ

“การออกแบบและการผลิตมาจากผู้ประกอบการภายในประเทศและถือเป็นโอกาสอันดีสำหรับผู้บริโภคเวียดนามที่สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีล่าสุดก่อนใคร”

Vingroup กลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่แห่งใหญ่แห่งเวียดนามมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุง Hanoi รายได้รวมปี 2019 มีมูลค่าราว 5.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ผู้ถือหุ้นใหญ่คือ Pham Nhat Vuong มหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยอันดับหนึ่งของประเทศโดยมูลค่าความมั่งคั่งของเขาอยู่ที่ราว 5.7 พันล้านเหรียญฯ ซึ่งกลุ่มธุรกิจ Vingroup ของเขาประกอบไปด้วย ห้างสรรพสินค้า รีสอร์ท อสังหาริมทรัพย์ การผลิตยานยนต์ และ ธุรกิจการศึกษา เป็นต้น

สำหรับตลาดสมาร์ทโฟนเวียดนามในช่วงที่ผ่านมา ผู้ประกอบการธุรกิจสมาร์ทโฟนสัญชาติเวียดนามหลายๆ แห่ง ต่างเปิดตัวสมาร์ทของตนเองแต่ยังไม่สามารถแข่งขันต่างชาติได้ เนื่องจากผู้บริโภคในประเทศต่างคุ้นชินกับแบรนด์ต่างชาติที่เข้ามาทำตลาดยาวนาน ขณะที่ส่วนแบ่งรายได้ที่มอบให้กับตัวแทนจำหน่ายไม่ได้แตกต่างกับแบรนด์ต่างชาติมากนัก

โดย Vsmart นั้นครองส่วนแบ่งทางการตลาดร้อยละ 16.7 ถือเป็นอันดับ 3 รองจาก Samsung และ Oppo สำหรับราคาของโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดนั้นคาดว่าอยู่ที่ราคาราว 6,910 ดงเวียดนาม (หรือราวหนึ่งหมื่นบาท)

<img class="alignnone wp-image-32066 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/07/Untitled-1.jpg" alt="VinSmart" width="700" height="467" />

ด้านผู้ผลิตเผยว่าเทคโนโลยีของโทรศัพท์รุ่นใหม่ใกล้เคียงกับระดับไฮเอนด์และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาวเวียดนามได้อย่างแน่นอน โดยประชากรกว่า 97 ล้านคนในประเทศนั้นมีรายได้ที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับ 8 ปีผ่านมา ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากอุตสาหกรรมการผลิตส่งออกที่ได้สร้างตำแหน่งงานเป็นจำนวนมาก

สำหรับสเปคของสมาร์ทโฟนที่เปิดตัวนั้นมาพร้อมกับหน่วยความจำ 128 GB ใช้หน่วยประมวลผล Qualcomm 765 รองรับการใช้ของเทคโนโลยีการสื่อการ 5G ภายในประเทศได้เป็นอย่างดี “เราหวังว่าผู้ใช้งานชาวเวียดนามจะได้สัมผัสกับเทคโนโลยีและการออกแบบที่ทันสมัยในโลก”

ทั้งนี้บริษัทเผยว่าได้ซุ่มพัฒนาผลิตสมาร์ทโฟน 5G ร่วมกับพันธมิตรตั้งแต่เดือนมิถุนายนของปีที่ผ่านมา

ด้าน Lam Nguyen จาก IDC Indochina บริษัทด้านวิจัยการตลาดเผยว่า ห่วงโซ่ธุรกิจและพันธมิตรจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ VinSmartประสบความสำเร็จในครั้งนี้ “รูปแบบพันธมิตรและการสร้างเครือข่ายธุรกิจจะหลอมรวมให้ธุรกิจเดินหน้าเหนือคู่แข่งและเปลี่ยนใจการเลือกใช้ของผู้บริโภค” Nguyen กล่าว

เรียบเรียงใหม่จากบทความ Vietnamese Billionaire’s Conglomerate Develops Landmark 5G Smartphone ที่เผยแพร่บน Forbes.com

อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/world/asia/kumagai-%e0%b8%95%e0%b8%b4%e0%b8%94%e0%b8%aa%e0%b8%9b%e0%b8%b5%e0%b8%94%e0%b8%aa%e0%b8%b9%e0%b9%88%e0%b8%a1%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b9%80%e0%b8%a8%e0%b8%a3%e0%b8%a9%e0%b8%90%e0%b8%b5%e0%b8%9e%e0%b8%b1.html">Kumagai ติดสปีดสู่มหาเศรษฐีพันล้าน หลังการใช้งานอินเตอร์เน็ตพุ่ง</a>

&nbsp;

<hr />

ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

&nbsp;

VinSmart เปิดตัวสมาร์ทโฟน 5G เมดอินเวียดนาม

<h2>Vingroup กลุ่มยักษ์ใหญ่ที่มีเครือข่ายธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรมของเวียดนาม ประกาศซื้อเรือดำน้ำจาก Triton Submarines ผู้ผลิตเรือดำน้ำซึ่งมีฐานการผลิตอยู่ที่ Florida สหรัฐฯ เพื่อบริการนักท่องเที่ยวและแขกในกลุ่มธุรกิจโรงแรม</h2>
เรือดำน้ำรุ่น The DeepView 24 ของ Vingroup ที่จะนำมาให้บริการที่เกาะ Hon Tre ที่ตั้งอยู่บริเวณทะเลจีนใต้ รองรับผู้โดยสาร 24 คน ผนังห้องโดยสารเป็นกระจกนิรภัยสามารถเห็นได้รอบด้าน แม้จะยังไม่กำหนดราคาหน้าตั๋วในแต่ละรอบ แต่เมื่อเทียบกับราคาของผู้บริการรายอื่นๆ จะอยู่ที่ราว 100-150 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหัว ซึ่งเป็นราคาที่เกือบเท่าค่าแรงรายวันขั้นต่ำต่อเดือนในบางภาคส่วนของเวียดนาม

<figure><img class="wp-image-30476 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/05/Pham-Nhat-Vuong_01.jpg" alt="เจ้าของ vingroup" width="401" height="398" /><figcaption> Pham Nhat Vuong มหาเศรษฐีชาวเวียดนาม</figcaption></figure>

บริษัทแห่งนี้อยู่ภายใต้บริหารของ Pham Nhat Vuong มหาเศรษฐีซึ่งร่ำรวยที่สุดของประเทศ เขาดำเนินธุรกิจหลากหลายไม่ว่าจะเป็น ห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ และธุรกิจสมาร์ทโฟน

จากรายงานด้านการเงินประจำ 2018 ธุรกิจของเขามีรายได้ที่ 5 พันล้านเหรียญ และมีกำไรสุทธิ 266 ล้านเหรียญ หนึ่งในธุรกิจที่หลากหลายคือ Vinpearl กลุ่มโรงแรมที่มีสาขามากถึง 43 แห่ง มีจำนวนห้องพักรวมและวิลล่ารวม 1,700 ห้อง ซึ่งจุดให้บริการเรือดำน้ำจะตั้งอยู่ไม่ไกลกับกลุ่มโรงแรมดังกล่าว เพื่อเชื่อมการบริการนี้ให้กับแขก

<img class="alignnone wp-image-30473 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/05/vinpearl.jpg" alt="vingroup" width="960" height="529" />

การท่องเที่ยวของเวียดนามเริ่มกลับมาให้บริการอีกครั้งในเดือนพฤษภาคม โดยทยอยเปิดการบริการบางส่วนของเมืองหลวง Hanoi ในขณะที่รายงานสถานการณ์โควิด-19 ของเวียดนาม ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อ 324 รายและไม่มีผู้เสียชีวิต อย่างไรก็ตาม พรมแดนยังคงปิดและห้ามชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ

Mobimar ผู้ผลิตเรือดำน้ำสัญชาติฟินแลนด์ คาดการณ์ว่าในทั่วโลกมีผู้ให้บริการท่องเที่ยวด้วยเรือดำน้ำราว 30 ราย แต่ละปีให้บริการนักท่องเที่ยวราวหนึ่งล้านคน

“การท่องเที่ยวใต้ทะเลมีการเติบโตพุ่งสูงหลังมีผู้เล่นหลายรายเข้ามาพัฒนา หลังจากภาพความสวยงามใต้ท้องทะเลถูกเผยแพร่ผ่านสารคดี Blue Planet II” Triton หนึ่งในผู้ผลิตเรือดำน้ำเผยให้เห็นภาพ
เรียงเรียงจาก Vietnamese Mega-Conglomerate Vingroup Launches South China Sea Tourism With New Submarine ที่แผยแพร่บน Forbes.com
อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/commentaries/insights/%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%A1-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3.html">ธุรกิจโรงแรม ปรับบริการ รอการกลับมาของนักท่องเที่ยว</a>

<hr />

<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">ไม่พลาดบทความด้านธุรกิจ ติดตามได้ที่ Facebook: Forbes Thailand Magazine</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events