<h2>“โปรดระวังหุ่นยนต์!” เสียงร้องเตือนจากยานยนต์ขนาดเล็กสีเขียวขับเคลื่อนอัตโนมัติ ขณะที่ล้อกลมๆ ทั้งหกกำลังหมุนบนพื้นถนน มุ่งหน้าไปยังร้านหมูทอดในโตเกียว เพื่อรับอาหารตามคำสั่งบน Uber Eats</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นับตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม 2024 เป็นต้นไป หุ่นยนต์ส่งอาหารจะเริ่มให้บริการให้พื้นที่เล็กๆ ของโตเกียว ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่จากแอปเดลิเวอรี่สัญชาติอเมริกัน ที่มุ่งหวังขยับขยายบริการในญี่ปุ่นให้กว้างขวางกว่าเดิม&nbsp; &nbsp;&nbsp;ญี่ปุ่นกำลังเผชิญปัญหาขาดแคลนแรงงานสูงขึ้นเรื่อยๆ จนมีการแก้ไขกฎหมายจราจรในปี 2023 ที่ผ่านมา โดยอนุญาตให้หุ่นยนต์เดลิเวอรี่สามารถออกมาใช้ถนนสาธารณะได้ อีกทั้งบริษัทอื่นๆ เช่น Panasonic ต่างก็ทยอยหันมาใช้จักรกลแสนน่ารักและทันสมัยเหล่านี้เพื่อขนส่งสินค้า&nbsp; &nbsp;&nbsp;สำหรับหุ่นยนต์รูปกล่องของ Uber Eats นั้นมีไฟรูปสี่เหลี่ยมแทนดวงตา มีไฟรอบฝา และล้อเล็กๆ ข้างละสามล้อสามารถตรวจจับขอบทางได้อัตโนมัติผ่านเซ็นเซอร์ ช่วยให้หลบหลีกผู้คนตลอดจนสิ่งกีดขวางต่างๆ ได้อย่างราบรื่น ส่วนความเร็วสูงสุดของหุ่นยนต์ชนิดนี้คือ 5.4 กิโลเมตรต่อชั่วโมง&nbsp; &nbsp;&nbsp;แม้เป็นหุ่นยนต์อัตโนมัติ แต่ทางบริษัทก็มีเจ้าหน้าที่ที่เป็นมนุษย์พร้อมเข้าช่วยเหลือในกรณีที่เกิดปัญหาขึ้นเช่นกัน&nbsp; &nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ Alvin Oo ผู้บริหาร Uber Eats เผยว่า หุ่นยนต์ส่งอาหารในโตเกียวจะดำเนินรอยตามบริการรถเดลิเวอรี่อัตโนมัติที่เคยเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ที่อเมริกาเหนือ นั่นคือจะจำกัดขอบเขตการให้บริการก่อนในระยะแรก&nbsp; &nbsp;&nbsp;เขาบอกกับ AFP ด้วยว่า “ผู้ใช้งานแอปต้องออกมารอด้านนอกเพื่อรอรับหุ่นยนต์ แต่วันหนึ่งพวกมันจะไปถึงประตูบ้านของทุกคน” แปลและเรียบเรียงจาก&nbsp;<a href="https://www.straitstimes.com/asia/east-asia/uber-eats-starts-robot-deliveries-in-tokyo" alt="Uber Eats starts robot deliveries in Tokyo">Uber Eats starts robot deliveries in Tokyo</a>​ ​​​​เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ&nbsp;:&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/motoring/banpu-nex-svolt" alt="ผลิตและพร้อมส่งมอบได้แล้ว โรงงานแบตฯ EV ในไทยของบ้านปู เน็กซ์ และ SVOLT">ผลิตและพร้อมส่งมอบได้แล้ว โรงงานแบตฯ EV ในไทยของบ้านปู เน็กซ์ และ SVOLT</a>​ <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

Uber Eats ญี่ปุ่นเปิดตัวพนักงานใหม่ “หุ่นยนต์ส่งอาหาร” พร้อมให้บริการในโตเกียว

<h2 class="p1">เขย่าองค์กรอีกครั้ง! ยักษ์ใหญ่วงการแอพพลิเคชั่นเรียกรถ Uber ปลดพนักงาน 400 คนฝ่ายการตลาด หวังลดต้นทุน หลังไตรมาส 1/62 ขาดทุนหนัก</h2>
Uber ปลดพนักงาน ราว 1 ใน 3 ของฝ่ายการตลาดที่มีอยู่ 1,200 คน บนความพยายามในการลดต้นทุน และปรับแนวทางการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกที่ไม่สวยงามนัก หลังการเปิดขายหุ้นแก่สามัญชนเป็นครั้งแรก (IPO) นั้นราคาหุ้นร่วงลงทันที และผลการดำเนินงานไตรมาสแรกที่ขาดทุนไป 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
โดยข่าวการปลดพนักงานของ Uber เผยแพร่ครั้งแรกโดย New York Times ซึ่งระบุว่าสาเหตุหลักมาจากการที่บริษัทต้องเผชิญกับแรงกดดันเรื่องการเงิน หลังการเปิดขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ New York เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาต้องพบกับความเจ็บปวด
Uber ระบุว่า การปลดพนักงานราว 400 คนครั้งนี้ เป็นการปลดพนักงานฝ่ายการตลาดในสำนักงาน 75 แห่งทั่วโลก โดยจำนวนพนักงานทั่วโลกของ Uber เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2562 อยู่ที่ 24,494 คน
Jill Hazelbaker รองประธานอาวุโสฝ่ายการตลาดและกิจการสาธารณะ และ Dara Khosrowshahi ซีอีโอ Uber กล่าวกับพนักงานเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า ทีมการตลาดจะต้องมีโครงสร้างแบบรวมศูนย์มากขึ้น และการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงแบรนด์ให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายของผลิตภัณฑ์ในภูมิภาคต่างๆ
ขณะที่ CNN Business ในอีเมล์สอบถาม Khosrowshahi ถึงกรณีดังกล่าว ซึ่งเขาระบุว่า “การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะการตลาดกลายเป็นสิ่งสำคัญน้อยลงสำหรับ Uber แต่อย่างใด ในทางตรงกันข้าม เราสร้างการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้เพราะเราต้องการนำเสนอวิสัยทัศน์ที่ทรงพลัง, เป็นเอกภาพ และมีพลวัตต่อโลก”
สำหรับฝ่ายการตลาดที่ได้รับการจัดระเบียบใหม่จะอยู่ภายใต้การนำของ Mike Strickman รองประธานฝ่ายการตลาดเชิงประสิทธิภาพ ซึ่งก่อนหน้านี้เขาทำงานที่ TripAdvisor และเข้ามาทำงานกับ Uber เมื่อ 1 เดือนก่อน และคาดว่าอีกไม่นานเขาจะได้เป็นหัวหน้าฝ่ายการตลาดทั่วโลก
ทั้งนี้ Strickman จะทำหน้าที่ในการดูแลการตลาดเชิงประสิทธิภาพ, ระบบ CRM และการวิเคราะห์ ขณะที่ผู้บริหารฝ่ายการตลาดโลกจะดูแลหัวหน้าฝ่ายการตลาดด้านต่างๆ ทั้งผลิตภัณฑ์, แบรนด์, UberEats, B2B, การวิจัย, การวางแผน และด้านครีเอทีฟ


<figure><img class="size-full wp-image-12719" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/07/uber02.jpg" alt="" width="720" height="480" /><figcaption> ผลประกอบการไตรมาสแรกปีนี้ของ Uber ขาดทุนกว่า 1 พันล้านเหรียญ (ภาพจาก AP)</figcaption></figure>
Khosrowshahi ระบุในอีเมล์ที่ส่งให้กับพนักงานว่า “หลายๆ ทีมของ Uber นั้นมีขนาดใหญ่มาก ซึ่งทำให้เกิดการทำงานที่ทับซ้อนกัน ส่งผลให้เกิดการตัดสินใจที่ไม่ชัดเจน และสามารถนำไปสู่ผลลัพธ์ในระดับปานกลางเท่านั้น แต่ด้วยความเป็นบริษัท เราสามารถทำได้มากกว่านี้เพื่อรักษามาตรฐานที่สูง และคาดหวังในตัวเองและคนอื่นๆ มากขึ้น”
รายงานผลประกอบการของ Uber ในฐานะบริษัทที่เพิ่งเข้าตลาดหุ้น ระบุว่า รายได้ไตรมาส 1/2562 อยู่ที่ 3.1 พันล้านเหรียญ เติบโต 20% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน ขณะที่รายรับสุทธิก่อนหักค่าใช้จ่าย (gross booking) ในไตรมาสแรกเพิ่มขึ้น 34% มาอยู่ที่ 1.46 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งเป็นผลมาจาก Uber Eats ที่เติบโตต่อเนื่อง

<ul>
 	<li><a href="https://forbesthailand.com/world/america/ubereats-%e0%b9%80%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%97%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%a5%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%9a%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b8%a9%e0%b8%b1%e0%b8%97.html">UberEats เหมืองทองลับของบริษัทรถรับส่ง</a></li>
</ul>
อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสแรก Uber กลับต้องพบกับการขาดทุนจากการดำเนินงานถึง 1.01 พันล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 116% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
การปรับโครงสร้างครั้งนี้ของ Uber ไม่ใช่แรงสั่นสะเทือนครั้งแรกในปีนี้ขององค์กร โดยเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา Barney Harford ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ และ Rebecca Messina ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด ได้ก้าวลงจากตำแหน่ง ซึ่งถือเป็นการเขย่าองค์กรที่เพิ่งเข้าสู่ตลาดได้เพียงเดือนเดียวเท่านั้น
โดยในขณะนั้น Khosrowshahi อธิบายในอีเมล์ที่ส่งถึงพนักงานว่า การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นจากการตัดสินใจของเขาที่ต้องการควบคุมส่วนหลักๆ ของธุรกิจมากขึ้น ซึ่งเขาต้องการเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารงานในแต่ละวันของธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดซึ่งเป็นแพลตฟอร์มหลักของบริษัทอย่าง Rides และ Eats
ขณะเดียวกัน Khosrowshahi ยังระบุอีกว่า การลงจากตำแหน่งของ Messina เป็นการตอบสนองต่อการตัดสินใจของเขาที่ต้องการควบรวมทีมการตลาด, ทีมสื่อสารองค์กร และทีมนโยบายเข้าไว้ด้วยกัน และให้ Jill Hazelbaker ที่ทำงานใน Uber มาตั้งแต่ปี 2558 เข้ามาบริหารทีมนี้
&nbsp;

ที่มา
<ul>
 	<li><a href="https://techcrunch.com/2019/07/29/uber-lays-off-400-employees-as-part-of-marketing-team-restructuring/">Uber lays off 400 as cost-cutting efforts ramp up</a></li>
 	<li><a href="https://edition.cnn.com/2019/07/29/tech/uber-layoffs-marketing-department/index.html">Uber lays off 400 people on its marketing team</a></li>
</ul>
&nbsp;

&nbsp;

แปลและเรียบเรียงโดย กนกวรรณ มากเมฆ / Online Content Creator

<hr />

ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events